วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568
1 ส.ค. 2568 16:25 | 60 view
@sorrana
ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา MEA หรือ การไฟฟ้านครหลวง ครบรอบ 67 ปี ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA เปิดเผยถึงการเดินทางแห่งพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ภายใต้ธีม "จากแสงแรก สู่แสงแห่งความยั่งยืน – 67th SPARK The Sustainable Power" ณ อาคารวัฒนวิภาส MEA สำนักงานใหญ่ พร้อมเตรียมเปิด MEA SPARK หรือพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย แหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของแสงไฟดวงแรกแห่งสยาม สู่อนาคตพลังงานอัจฉริยะ ที่สะท้อนบทบาท MEA ในฐานะองค์กรรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงมหาดไทย ที่เป็นผู้นำด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้า พร้อมมุ่งหน้าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองนโยบายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับศูนย์ หรือ Carbon Neutrality ของ MEA ดังนั้นในการจัดงานต้อนรับผู้มาแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา MEA ครบรอบ 67 ปี MEA จึงได้เลือกใช้วัสดุที่ไม่สร้างขยะ และมีการซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยกับปริมาณทั้งหมดที่ปล่อยออกจากกิจกรรมที่เกิดขึ้น โดยได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เรียบร้อยแล้ว โดยภายในงานมีผู้บริหารจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ร่วมแสดงความยินดี พร้อมร่วมบริจาคเงินให้กับ มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 380,035 บาท มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 237,300 บาท และมูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 325,000 บาท เพื่อสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมต่อไป
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา MEA ได้มีบทบาทในการบุกเบิกอนาคต และถือเป็นความภาคภูมิใจขององค์กร อาทิ การกำเนิดไฟฟ้าครั้งแรกแห่งสยาม จุดเริ่มต้นของแสงไฟในพระนครเมื่อ 140 ปีก่อน เล่าเรื่องการส่องสว่างของโคมระย้าที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งถือเป็นการจุดประกายไฟฟ้าครั้งแรกของไทย
โดยจะถูกถ่ายทอดผ่าน MEA SPARK หรือพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย ณ อาคาร 1 การไฟฟ้านครหลวง เขตวัดเลียบ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าวัดเลียบ (โรงไฟฟ้าแห่งแรกของประเทศไทย) อาคารนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 และมีอายุกว่า 100 ปี จะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้พลังงานไฟฟ้า จุดประกายไอเดียสร้างสรรค์ให้กับทุกคน รวมถึงรถรางไฟฟ้าไทย ซึ่งเคยให้บริการในพระนครเมื่อกว่าศตวรรษก่อน นับเป็นระบบขนส่งสาธารณะพลังงานไฟฟ้าแห่งแรกในเอเชีย รถรางนี้จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งในฐานะนิทรรศการถาวรภายใน MEA SPARK เพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวพลังงานกับวิถีชีวิตเมืองในอดีตและอนาคต ภายใต้มาตรฐานสากล และเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศไทย
เสียงแรกแห่งการบริการ “MEA Call Center 1130” MEA เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งแรกในกระทรวงมหาดไทยที่ริเริ่มจัดตั้ง Call Center 1130 ตั้งแต่ปี 2543 และพัฒนาต่อเนื่องผ่าน LINE Official Account “MEA Connect” เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสอบถาม บริการ และรับแจ้งเหตุไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังเป็นรัฐวิสาหกิจด้านสาธารณูปโภคแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีแอปพลิเคชัน MEA Smart Life รองรับหลากหลายบริการ อีกทั้งบริการออนไลน์ด้านระบบไฟฟ้าครบวงจรอย่าง MEA e-Service นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยี GIS (Geographic Information System) ของ MEA ที่มีความละเอียดสูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยมาตราส่วน 1 : 1000 มารวมกับแอป MEA Smart Life ให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้องได้แบบ Real-time พร้อมระบบ FFM (Field Force Management) ที่เชื่อมโยงถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีการใช้ระบบ CMMS บริหารงานบำรุงรักษา เพิ่มความแม่นยำในการดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าของเมือง อีกทั้งในปี 2568 MEA จะเริ่มให้บริการวิเคราะห์พื้นที่ติดตั้ง Solar Rooftop กับแผนที่ GIS ในรูปแบบจำลอง 3 มิติเสมือนจริง ในพื้นที่โครงการ Smart Metro Grid ให้ครอบคลุมพื้นที่ 3,200 ตารางกิโลเมตร ในพื้นที่ดูแลของการไฟฟ้านครหลวง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ
อีกทั้ง MEA เป็นองค์กรรัฐแห่งแรกที่นำยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มาใช้ในภารกิจภายใน และยังผลักดันโครงสร้างพื้นฐาน EV อย่างต่อเนื่องผ่านโครงการ MEA EV Ecosystem การพัฒนาแอปพลิเคชัน MEA EV การคิดค้นนวัตกรรม PLUG ME EV ที่ต่อยอดรูปแบบการติดตั้งสถานีอัดประจุภายในอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม หรืออาคารอื่น ๆ ที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ติดตั้งและด้านระบบไฟฟ้า พร้อมจัดทำมาตรฐาน “Charge Sure by MEA” ที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยและความมั่นใจให้ผู้ใช้ EV
ผู้ว่าการ MEA กล่าวต่อว่า MEA ได้ริเริ่มโครงการก่อสร้างอุโมงค์สายส่งไฟฟ้าใต้ดินตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 โดยภายในมีสายส่งไฟฟ้าใต้ดินขนาดแรงดัน 230 kV ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.60 เมตร ลึก 40 เมตร ยาว 1,300 เมตร ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในบรรดาอุโมงค์สายส่งไฟฟ้าใต้ดิน ที่เพียบพร้อมด้วยระบบป้องกันอุทกภัยอย่างระบบระบายน้ำ (Drainage Pump System) และยังก่อสร้างทางลงอุโมงค์ในระยะพ้นน้ำ (Freeboard) รวมถึงติดตั้งระบบแจ้งเตือนอัคคีภัย และระบบระบายอากาศเพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบจำหน่ายไฟฟ้า พร้อมนำเสาไฟฟ้าที่ถูกรื้อถอน ไปจัดตั้งเป็นแนวป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลตามโครงการ “MEA’s Model” ร่วมกับฐานทัพเรือกรุงเทพ โดยครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งบางขุนเทียนและป้อมพระจุลจอมเกล้า รวมระยะทางกว่า 4.7 กิโลเมตร ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
การดำเนินงานตลอด 67 ปีที่ผ่านมา MEA ยึดมั่นในหลัก ESG (Environment, Social, Governance) โดยไม่เพียงแต่ส่งมอบพลังงานไฟฟ้าอย่างมีเสถียรภาพ แต่ยังขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมพลังงานอัจฉริยะ พร้อมยกระดับงานบริการดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่อความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนของประชาชนไทย และ MEA จะเดินหน้าตามเป้าหมาย Carbon Neutrality ปี 2593 เพื่ออนาคตพลังงานของประเทศไทยที่สะอาด เป็นธรรม และยั่งยืน
#วันคล้ายวันสถาปนาการไฟฟ้านครหลวงครบรอบ67ปี #67ปีจากแสงแรกสู่แสงแห่งความยั่งยืน
#โครงการสายไฟฟ้าใต้ดิน #SmartMetroGrid
#MEAsmartlife
#MEASPARK #พิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย
#MEAcarbonneutrality #MEAGO #CSR #ESG
#MEAปลูกป่าชายเลน #การไฟฟ้านครหลวง #MEA
#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร
#tv5hd #tv5hdOnline
ข่าว
2 ส.ค. 2568 10:39 22 views
ข่าว
2 ส.ค. 2568 10:34 23 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 16:51 25 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 16:48 198 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 16:34 151 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 16:16 159 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 15:55 290 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 15:33 207 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 15:19 133 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 15:15 156 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 15:03 153 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 14:30 197 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 13:31 302 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 12:38 197 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 12:01 219 views
ข่าว
1 ส.ค. 2568 11:11 215 views