กองทัพบก นำคณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร 34 คน ลงพื้นที่อุบลฯ ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนให้ประชาคมโลกเข้าใจอย่างตรงไปตรงมา ย้ำการบิดเบือนข้อมูลของกัมพูชาเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลง

1 สิงหาคม 2568 - กองทัพบก ได้เริ่มปฏิบัติการเชิงรุกด้านการทูตและการสื่อสาร โดยนำคณะผู้แทนจากนานาชาติและสื่อมวลชนจำนวนกว่า 105 คน ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และแสดงหลักฐานเชิงประจักษ์  คณะผู้แทนประกอบด้วยเอกอัครราชทูตและผู้แทนจาก 11 ประเทศสำคัญ ผู้ช่วยทูตทหารจาก 23 ประเทศ และสื่อมวลชน 27 สำนักข่าว โดยมี พลโท อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสนาธิการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะ 
จุดแรกที่คณะเดินทางไปคือ มณฑลทหารบกที่ 22 (มทบ.22) ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ โดย พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก, นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนจากกองทัพภาคที่ 2 ได้ร่วมกันชี้แจงข้อมูลที่สำคัญ 

ในการบรรยายสรุปได้มีการเปิดเผย ไทม์ไลน์สถานการณ์ อย่างละเอียดตั้งแต่ วันที่ 24 กรกฎาคม ที่กัมพูชาเปิดฉากโจมตีด้วยอาวุธหนักหลายประเภท ซึ่งส่งผลให้เป้าหมายพลเรือนของไทย รวมถึงโรงพยาบาลและโรงเรียน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย โดยกองทัพบกยืนยันว่าเหตุปะทะล่าสุดมีสาเหตุมาจากกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน และการใช้ยุทโธปกรณ์พิสัยไกลโจมตีเป้าหมายพลเรือนของไทย ถือเป็นการ เจตนาละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง จนไม่สามารถให้อภัยได้ และไม่มีประเทศอารยธรรมใดในโลกที่ยอมรับการกระทำไร้มมนุษยธรรมดังกล่าว  นอกจากนี้ แม้ทั้งสองฝ่ายจะตกลงหยุดยิงกันแล้ว แต่กัมพูชาในฐานะผู้ละเมิดข้อตกลง ก็ยังคงเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเพื่อสร้างความเข้าใจผิดต่อสถานการณ์ ซึ่งไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศติดตามสถานการณ์ด้วยความเป็นกลางและร่วมกันผลักดันให้มีการเจรจาทวิภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี