เลขาฯ มท.1 "ชนินทร์" รับลูก "ภูมิธรรม" เคาะ 3 แนวทางแก้ปมใบอนุญาต ชี้ต้องลดภาระต้นทุน-สร้างความเข้าใจกฎหมาย ดึงผู้ประกอบการรายย่อยเข้าระบบ

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมเพื่อหาทางออกให้แก่ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กและโฮสเทลทั่วประเทศ หลังเผชิญอุปสรรคในการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมมาอย่างยาวนาน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการต่ออายุกฎกระทรวงที่กำลังจะหมดอายุและปรับปรุงกติกาให้เอื้อต่อธุรกิจรายย่อยมากขึ้น

การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังสมาคมโฮสเทล (ประเทศไทย) ยื่นเรื่องร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีหน่วยงานสำคัญอย่างกรมการปกครอง กรมโยธาธิการและผังเมือง และตัวแทนภาคเอกชนเข้าร่วมหารืออย่างพร้อมเพรียง

นายชนินทร์ เปิดเผยว่า ปัญหาหลักของผู้ประกอบการรายย่อยคือการนำอาคารเก่า เช่น ตึกแถว หรือบ้านพักอาศัย มาดัดแปลงเป็นโรงแรม ซึ่งโครงสร้างเดิมมักไม่สอดคล้องกับกฎหมายควบคุมอาคารฉบับปัจจุบัน ทำให้การขอใบอนุญาตเป็นเรื่องยากลำบาก ทั้งยังมีต้นทุนสูงในการปรับปรุงอาคารและจ้างที่ปรึกษาทางกฎหมาย ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนมากยังอยู่นอกระบบ

"หัวใจสำคัญคือทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างถูกต้อง โดยไม่สร้างภาระเกินจำเป็น แต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อรักษาความหลากหลายของที่พักซึ่งเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยวไทย" นายชนินทร์กล่าว

ที่ประชุมได้ข้อสรุปเร่งด่วน 3 ข้อ โดยมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ ดังนี้

1. ปรับปรุงกฎหมาย: แก้ไขกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบโครงสร้างอาคารและวัสดุให้ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับลักษณะของธุรกิจขนาดเล็กมากขึ้น

2. ต่ออายุมาตรการเดิม: ให้ต่ออายุกฎกระทรวงฉบับปัจจุบัน (ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2566) ออกไปก่อน เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางกฎหมายระหว่างรอการปรับปรุงแก้ไข

3. จัดทำคู่มือปฏิบัติ: จัดเวิร์กช็อปร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างความเข้าใจและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกฎหมายให้ตรงกัน ก่อนจะแจ้งเวียนไปยังหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศเพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

เลขาฯ รมว.มหาดไทย ย้ำว่า ผลการประชุมในวันนี้จะเป็นการ "ปลดล็อก" ปัญหาที่ค้างคามานาน ช่วยให้ผู้ประกอบการที่ใช้อาคารดัดแปลงสามารถขอใบอนุญาตได้ง่ายขึ้น ซึ่งสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมและขยายโอกาสให้ธุรกิจรายย่อยเติบโตอย่างถูกกฎหมายต่อไป