วันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2568
16 ธ.ค. 2568 09:23 | 162 view
@pracha
ปฏิบัติการกวาดล้างครั้งประวัติศาสตร์! ‘ไทย-จีน-เมียนมา’จับมือลุยพื้นที่สีเทาชายแดน ทุบทําลายตึกบัญชาการ‘แก๊งสแกมเมอร์’ในตํานานอย่าง KK Park และ ชเวก๊กโก จนราบเป็นหน้ากลอง ส่งผลกลุ่มมิจฉาชีพไร้ที่กบดาน ก่อนถูกรวบตัวเตรียมส่งกลับจีนนับไม่ถ้วน
สํานักงานตํารวจแห่งชาติ โดย ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ภายใต้การนําของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. พร้อมด้วย นายหลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ได้ลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อผนึกกําลังกับทางการเมียนมา ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติครั้งใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ มีการทลายรังสแกมเมอร์ จากตึกหรูสู่ซากปรักหักพัง จุดสําคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ คือการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของเมียนมา ได้นําคณะทํางานของไทยและจีน เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายหลัก 2 แห่ง ได้แก่ KK Park และ ชเวก๊กโก ฐานบัญชาการใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนทั่วโลก

จากการลงพื้นที่พบว่า อาคารตึกสูงและสํานักงานที่เคยเป็นแหล่งกบดานของเหล่าสแกมเมอร์ ได้ถูกทุบทําลายทิ้งอย่างถาวร สภาพปัจจุบันเหลือเพียงความว่างเปล่าและซากอาคาร ยืนยันให้เห็นถึงความร่วมมือ และความจริงจังในการ "ตัดรากถอนโคน" ไม่ให้เหลือสถานที่สําหรับตั้งฐานปฏิบัติการหลอกลวงประชาชนได้อีกต่อไป ส่งผลให้กลุ่มจีนเทาและลูกจ้างสแกมเมอร์แตกฮือ ไม่สามารถทําการหลอกลวงคนในหลายประเทศได้อีกต่อไป
ต่อมาที่ห้องประชุมสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ฝั่งเมียนมา ได้มีการประชุมไตรภาคีร่วมกันระหว่าง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. และคณะ (ผู้แทนประเทศไทย) ,พล.ต.ต.มิน ไทก์ เมียว (Min Htike Myo) รองผู้บัญชาการตํารวจเมียนมา และคณะ (ผู้แทนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา) และนายหลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ (ผู้แทนสาธารณรัฐประชาชนจีน) โดยได้ข้อสรุปมาตรการขั้นเด็ดขาด

ทั้งนี้ ประเทศไทย จะใช้กลไกของศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (Anti Cyber Scam Center : ACSC) เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีการเสนอตั้งคณะทํางานร่วม (Joint Task Force) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล/พยานหลักฐานเพื่อขยายผลเครือข่ายร่วมกัน ภายใน 24 ชั่วโมง โดย เน้นย้ําหลักการ "อาชญากรรมไร้พรมแดน การปราบปรามต้องไร้พรมแดน" จะต้องร่วมมือแบบไร้ข้อจํากัดและรวดเร็ว โดยจะยังคงนโยบายประสานงานร่วมกันในการตัดวงจรปัจจัยพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า, สัญญาณอินเตอร์เน็ต ของกลุ่มอาชญากรในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังตกลงกันที่จะให้ความร่วมมือด้านการอํานวยความสะดวก และลดขั้นตอน เรื่องการส่งตัวกลุ่มชาวต่างชาติที่หลบหนีออกจากเมียนมากลับประเทศ เพื่อให้การดําเนินการเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว, ลดภาระเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย และ เพื่อความปลอดภัยของชาวต่างชาติ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย
ผลพวงจากการทุบทําลายตึกและฐานที่มั่น ทําให้กลุ่มสแกมเมอร์ชาวจีนจํานวนมากที่พยายามหลบหนีออกจากพื้นที่ KK Park และ ชเวก๊กโก ถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับกุมตัวได้ในที่สุด โดย นายหลิวจงอี้ และคณะ ได้เดินทางไปตรวจสอบ "ห้องกักตัว" ในเมืองเมียวดี ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยผู้ต้องหาชาวจีน โดยทั้งหมดถูกควบคุมตัวไว้ เพื่อรอขั้นตอนการส่งตัวกลับไปดําเนินคดีตามกฎหมายที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือเป็นจุดจบของขบวนการต้มตุ๋นข้ามชาติที่สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยและคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน

ความร่วมมือระหว่างประเทศในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่า พื้นที่ชายแดนจะไม่ใช่ “เซฟโซน” ของอาชญากรอีกต่อไป เมื่อ 3 ประเทศร่วมมือกันจนมีผลเป็นรูปธรรมดังกล่าว
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 16:42 30 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 16:07 116 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 14:34 82 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 14:20 86 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 14:06 134 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 13:51 109 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 12:42 248 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 11:58 104 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 11:23 167 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 11:09 275 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 10:45 151 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 10:40 176 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 10:34 154 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 10:06 315 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 09:59 125 views
ข่าว
16 ธ.ค. 2568 09:57 105 views