วันจันทร์ที่ 1 กันยายน 2568
1 ก.ย. 2568 12:49 | 116 view
@pracha
‘ภูมิธรรม’ เจรจา ปชน.ตั้งรัฐบาล อุบยุบสภา มีกระบวนการตามรธน. เตือนปชน.ร่วมภท.คิดให้รอบคอบ ย้ําโจทย์เขากระโดง ฮั้ว สว.คิดให้ดี ชี้ต้องเร่งตั้งรัฐบาล
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.68 ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ และแกนนําพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการพูดคุยกับพรรคประชาชนเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังอยู่ในจุดที่พรรคเพื่อไทย ได้รับมอบหมายจากพรรคร่วมรัฐบาลในการดําเนินการจัดตั้งรัฐบาล และเมื่อวานนี้พบกับพรรคประชาชน จริงๆแล้วตนไม่ต้องเดินทางไป
แต่เมื่อถามหา ตนจึงต้องลาการประชุม ก.ตร.ไป ยอมสละ และกําชับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. โดยมอบหมายให้ทําหน้าที่ตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งคิดว่าอนาคตของประเทศมีความสําคัญ แม้จะมีความกินแหนงแคลงใจ ไม่พอใจกันบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการทํางาน
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เมื่อวานที่เดินทางไปพรรคประชาชน ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก ก่อนที่จะเข้าไป และหลังจากที่เดินเข้าไปแล้วก็รออยู่ ไม่มีผู้บริหารรับ และเดินเข้าไปพบ 4-5 คนในห้องประชุม ซึ่งเราไปกับตัวแทนพรรคร่วมหลายคน
ในการพูดคุยตนขอบคุณที่ให้โอกาสมานั่งประชุม ในฐานะตัวแทนที่ทุกคนมอบหมาย แม้ว่าจะไม่มีหน้าที่ในพรรคเพื่อไทยโดยตรง แต่ก็ทําหน้าที่ในการปฏิบัติงานแทนนายกฯ ซึ่งเป็นประธานของ ครม.และเมื่อมีการถามหา ตนจึงเดินทางไป ซึ่งการพูดคุยตนเสนอว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรครับข้อเสนอ ทั้งหมดของพรรคประชาชน เรารับทั้งหมด เป็นเรื่องที่ตรงกัน เพราะว่าวันนี้ประเทศวิกฤต ถึงเวลาที่จะต้องรีเซ็ตการเมืองใหม่
เพราะฉะนั้นการเสนอให้ดําเนินการตามข้อเสนอของพรรคประชาชนเป็นเรื่องที่ดีควรจะทํา และสิ่งที่พรรคประชาชนเสนอถามกลับมา ประเด็นแรกคือรัฐธรรมนูญปี 2540 ไม่มีเจตนาอะไร หัวใจสําคัญคือการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านกลไกของ ส.ส.ร.ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วย
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยไม่ได้สนับสนุน ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจที่จะใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 เพื่อประกอบใช้ในระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากพรรคประชาชนติดใจเรื่องนี้ก็สามารถถอนออกได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเรายอมรับอยู่แล้วว่า จะร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ขณะที่เรื่อง MOU 43-44 เห็นว่าเรื่องนี้เป็นประเด็น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลใหม่ ยืนยันไม่มีอะไรติดใจ หากจะดําเนินการในเรื่องนี้ และไม่มีประโยชน์อะไรแอบแฝง จึงเห็นควรแนบไปกับประชามติ ถ้าประชาชนเห็นอย่างไรรัฐบาลใหม่จะได้ดําเนินการตามนั้น วิกฤตเรื่องนี้จะได้จบลง
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่ดินเขากระโดงและคดีฮั้ว สว.จริงๆเป็นกระบวนการยุติธรรม และไม่ว่าจะเป็นคดีจากพรรคใด ทั้งที่ดินอัลไพน์ ตนคิดว่าทําได้ทั้งนั้น เพราะว่าอยู่ในกระบวนการ ซึ่งทั้งหมดนี้ตนไม่ได้ตอบไปยังพรรคประชาชน แต่ตนตอบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุด
ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ กล่าวอีกว่า เห็นแกนนําพรรคประชาชนหลายคนพูดว่าหัวใจสําคัญของการตัดสินใจเรื่องนี้อยู่ที่การจะดูว่าใครจะอยู่ในความควบคุมได้มากที่สุด ซึ่งตนมองว่าไม่น่าจะเป็นการควบคุม อยู่ที่ว่าสิ่งที่เขาเสนอสามารถเป็นไปตามข้อตกลงได้หรือไม่ ดูเหมือนว่าจะสนใจพรรคภูมิใจไทย แต่ตนคิดว่าเรื่องการควบคุมว่ามีเสียงน้อยเสียงมาก หรือจะไปจับมือกับเขา ตนคิดว่าการพิจารณาไม่ใช่เรื่องของการควบคุมได้
เพราะตอนนี้หากพูดกันตามความจริงก็ไม่มีใครสามารถควบคุมใครได้ หากคิดว่าไม่ซื่อตรงแล้วจะตัดสินใจก็ตัดสินใจได้ แต่สิ่งสําคัญคือการที่จะปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยมาเป็นหัวหน้ารัฐบาลในเวลาอีก 4 เดือนก่อนจะมีการเลือกตั้ง ขอถามว่าคดีเขากระโดงจะกลับไปเป็นแบบเดิมหรือไม่ในการตีความของพรรคภูมิใจไทย เพราะขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่จะนําที่ของหลวงกลับมาในช่วงสิ้นเดือน ก.ย.นี้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เช่นเดียวกับเรื่องการฮั้ว สว.ที่กําลังเข้าสู่การเปิดประเด็นจับกุม ซึ่งขณะนี้ติดอยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตนเชื่อว่า 2 เรื่องนี้เป็นหัวใจสําคัญ แต่ตนได้บอกไปว่าหากติดใจเรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ขออย่าให้มีกระบวนการแทรกแซง และไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรตนก็เคารพการตัดสินใจของพรรคประชาชน
แต่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นหัวใจสําคัญ ใครจะทําเต็มที่ได้มากกว่ากัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยยืนยันในเรื่องนี้มาตลอด สิ่งที่เคยเป็นปัญหาในเรื่องบางมาตราที่มีความแตกต่างกัน แต่ในเรื่องการยกมือโหวตตรงกัน คือให้มีการตั้ง ส.ส.ร. จึงถามว่าใครคือผู้มีบทบาทในการควบคุม สว. ฝากให้ไปคิด
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า หากให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนําจัดตั้งรัฐบาล จะมีหลักประกันอะไรที่พรรคประชาชนสามารถทําให้เกิดขึ้น ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรี เพราะพรรคภูมิใจไทยสามารถทําได้ง่าย จะรอให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนบอกว่าไม่ทัน เชื่อว่าจะดําเนินการไปก่อน เพราะอํานาจในการยุบสภาฯ รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้มีอํานาจในการยื่นเรื่อง และสิ่งสําคัญขออย่าเบี่ยงประเด็นว่าใครจะได้มากได้น้อย หรือพรรคภูมิใจไทยมีน้อยกว่า 100 เสียง สามารถควบคุมได้โดยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
“ส่วนพรรคเพื่อไทยยอมรับว่าเคยบาดหมางกัน แต่เรายืนยันในข้อตกลงมาตลอด การที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยบิดพริ้วหรือตระบัติสัตย์ 2 ครั้ง ที่มีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดต นายกฯ จากพรรคก้าวไกล ล้วนเป็นคนของพรรคเพื่อไทยที่เป็นผู้เสนอชื่อทั้ง 2 ครั้ง และทุกเสียงของพรรคเพื่อไทยยกมือให้หมด แต่สิ่งที่บอกคือ สว. จะโหวตให้ แต่สุดท้ายไม่เลือก และประเด็นสุดท้ายขอเวลา 10 เดือน
ซึ่งประกาศไปชัดเจนตั้งแต่แรก ว่ารอการตัดสินใจของพระประชาชนไม่ได้ และวันนี้อยากจะร่วมมือกัน ลืมเรื่องเก่าๆ สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ทุกคนยอมรับว่าปล่อยประเทศให้พรรค เพื่อไทยและพรรคประชาชนที่มี 360 เสียงเป็นฝ่ายค้านไม่ได้ ในขณะที่รัฐบาลมีเพียง 143 เสียง ไม่มีประเทศไหนมาเจรจาด้วยเพราะไม่มีความเชื่อมั่นเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้อยู่ในอํานาจของพรรคประชาชน ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ“ นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่า หากพรรคประชาชนไม่ร่วม รัฐบาล พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือตัดสินใจยุบสภาฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ต้องตัดสินใจว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือยุบสภาฯ เราเสนอประเด็นให้พรรคประชาชนตัดสินใจ ถ้าเขาเลือกพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นสิทธิ์ที่ทําได้
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะทําอย่างไร ก็มีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้วที่จะต้องหาทางออกในหลายๆ ทางที่เป็นไปได้ อันนั้นอยู่ที่ดุลยพินิจ ขอให้สถานการณ์ชัด ตอบให้ชัดว่าจะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทย และมีข้อกังวลอะไรบอกมาให้ชัด และข้อกังวลนั้นจะหาทางป้องกันอย่างไร
เมื่อถามถึงกระบวนการของพรรคเพื่อไทย ว่าปลายทางจะไม่เป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ”เปล่าครับ ยังไม่มีการตัดสินใจ มีแต่เพียงว่าอยากจะร่วมการตั้งรัฐบาล โดยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนํา แล้วจะดําเนินการตามนั้น บอกแล้วว่านโยบายมีเยอะ รวมถึงวาระแห่งชาติ คือต้องเปลี่ยนแปลงสภาพการเมืองที่ผิดเพี้ยนแบบนี้ ให้มีการรีเซ็ตใหม่ คือต้องไปแก้รัฐธรรมนูญ“
เมื่อถามอีกว่า ในฐานะที่เป็นรัฐบาลเดิม และยังรักษาการอยู่ คิดว่าการจับขั้วเพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ควรจะใช้เวลาเร็วที่สุดเมื่อใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อยากได้เร็วที่สุด เพราะหากปล่อยสภาพแบบนี้ไว้ก็เป็นรัฐบาลเป็ดง่อย ทําอะไรไม่ได้
ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ที่พรรคประชาชนตัดสินใจ อยากให้รอบคอบ เพราะการตัดสินใจครั้งนี้เป็นครั้งสําคัญ พรรคประชาชนยังไม่เคยเลือกนายกรัฐมนตรีจากนอกพรรค ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ถ้าจะประเดิมด้วยพรรคภูมิใจไทย ต้องมีหลักประกันว่าประเทศจะไม่เสียหาย
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะสร้างหลักประกัน หรือความมั่นใจอะไรให้กับพรรคประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นหน้าที่ที่พรรคประชาชนต้องถามตน ก็รอให้สิ่งนั้นเกิด
เมื่อถามว่า วันนี้พรรคประชาชนจะมีคําตอบที่ชัดเจนมาให้กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบครับ เพราะเขาบอกว่ากลไกโครงสร้างเยอะ ต้องถามจากส่วนต่างๆ ตนก็บอกว่าไม่เป็นไร แต่วันนี้ที่มีประชุมและจะมีคําตอบหรือไม่ อาจจะไม่แน่ใจจะมีหรือไม่มีก็ได้ไม่เป็นไร ขอให้พรรคประชาชนใช้เวลาเต็มที่ แต่เมื่อเสร็จแล้วให้แจ้งเราด้วย เพื่อให้เราดําเนินการขั้นต่อไป
เมื่อถามว่า นอกจากพรรคประชาชนแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลที่ยังอยู่ด้วยกันยังเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่ชัดว่าจะไปต่อและการที่มาร่วมแถลงข่าว อาจเป็นเพียงมารยาททางการเมืองเท่านั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาไม่ได้พูดคํานี้ เขาพูดเพียงว่าขณะนี้เรายังร่วมกันอยู่ ทั้งหมดจะตัดสินใจอย่างไรขึ้นกับสถานการณ์ ซึ่งเราเคารพอยู่แล้วทุกพรรคต้องพิจารณาตามสถานการณ์การเมือง
ข่าว
1 ก.ย. 2568 16:32 61 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 16:24 49 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 16:23 59 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 16:14 50 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 15:27 109 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 15:10 87 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 15:04 135 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 15:01 69 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 14:16 91 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 13:49 153 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 13:32 115 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 13:25 75 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 12:53 95 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 12:49 117 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 12:45 105 views
ข่าว
1 ก.ย. 2568 12:42 136 views