"นายกฯ แพทองธาร" ย้ำ! ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ยังอยู่ แค่เลื่อนออกไปเพื่อนำงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท แก้ปัญหาน้ำ-คมนาคม-ท่องเที่ยว จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนรับมือปัจจัยแทรกซ้อนและกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว

1 มิ.ย. 2568 – นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในรายการ "โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร" ประจำเดือนมิถุนายน 2568 โดยยืนยันถึงสถานะของโครงการ "Digital Wallet เฟส 3" ว่า ยังไม่มีการยกเลิกโครงการแต่อย่างใด เพียงแต่เลื่อนออกไปก่อน เพื่อนำงบประมาณไปบริหารจัดการปัญหาที่สำคัญและเร่งด่วนของประเทศที่เกิดจากปัจจัยแทรกซ้อนต่างๆ

นายกรัฐมนตรีอธิบายว่า เดิมรัฐบาลต้องการผลักดันโครงการ Digital Wallet ในรูปแบบ Digital เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีมากขึ้น แต่เมื่อมีปัจจัยภายนอก เช่น กำแพงภาษีของสหรัฐฯ เข้ามา รัฐบาลจึงต้องปรับเปลี่ยนแผนตามข้อท้วงติงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงข้อเสนอแนะจากประชาชนและฝ่ายค้าน โดยรัฐบาลได้นำความเห็นทั้งหมดมารวมกันเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประเทศในการบริหารงบประมาณที่จะหมดภายในวันที่ 30 กันยายนนี้

นางสาวแพทองธาร ชี้แจงว่า การเลื่อน Digital Wallet เฟส 3 ออกไปนั้น เพื่อพิจารณาใช้งบประมาณจำนวน 1.57 แสนล้านบาท ในโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาสำคัญและเร่งด่วนของประเทศได้หลายอย่าง อาทิ การบริหารจัดการน้ำ ทั้งปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง การพัฒนาเส้นทางคมนาคม และการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ โดยรัฐบาลมองภาพรวมของประเทศเป็นหลัก และหากเศรษฐกิจดีขึ้น รัฐบาลก็พร้อมจะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงงบประมาณครั้งนี้เป็นเพียงแผนระยะสั้น และต่อไปจะเป็นการวางแผนระยะกลางถึงระยะยาว ที่จะต้องใช้เวลาให้เห็นเป็นรูปธรรม เพราะงบประมาณดังกล่าวจะสามารถสร้างประโยชน์ให้เห็นผลในระยะสั้นและสามารถจัดลำดับความสำคัญได้เมื่อมีปัจจัยแทรกเข้ามา รัฐบาลให้ความสำคัญต่อคนส่วนใหญ่ที่สุด และองค์ประกอบเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐานของโครงสร้างทางสังคมที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และการนำงบประมาณไปใช้ในโครงการที่กล่าวมานั้นจะช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรมนุษย์และการจ้างงานในระบบให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นประโยชน์สำคัญจากการเลื่อน Digital Wallet เฟส 3 ในครั้งนี้