"ดุสิตโพล" ชี้ข่าวฮั้ว สว. ทำคนไม่เชื่อมั่นการเมืองไทย

"สวนดุสิตโพล" เผยผลสำรวจช็อก! ประชาชนกว่า 56% ไม่เชื่อมั่นระบบการเมืองไทย หลังข่าวฮั้ว สว. ชี้ไร้โปร่งใส เป็นเกมการเมือง เรียกร้องเร่งปฏิรูป

 "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศเกี่ยวกับกรณีข่าว "ฮั้ว สว." ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเมืองไทยอย่างชัดเจน โดยทำการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,211 คน ทั้งแบบออนไลน์และภาคสนาม ระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568

เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อกระแสข่าวกรณีฮั้ว สว. กับพรรคการเมือง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่แสดงความรู้สึกกังวลอย่างมาก โดย ร้อยละ 56.73 ไม่เชื่อมั่นในระบบการเมืองไทยในปัจจุบัน ขณะที่ ร้อยละ 53.34 ต้องการให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายและนำผู้กระทำผิดมารับโทษ หากพบว่ามีความผิดจริง และ ร้อยละ 52.93 มองว่าข่าวนี้ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ สว. และนักการเมืองยิ่งเสื่อมเสีย

สำหรับสาเหตุที่ประชาชนคิดว่ากรณีฮั้ว สว. เกิดขึ้นนั้น ร้อยละ 60.36 ระบุว่าเป็นผลมาจากระบบการเลือกตั้ง สว. ที่มีความไม่โปร่งใสในกระบวนการและขั้นตอน นอกจากนี้ ร้อยละ 59.70 มองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และ ร้อยละ 57.56 เชื่อว่าเป็นเกมการเมืองและการแข่งขันกันระหว่างกลุ่มต่างๆ

ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าความขัดแย้งจากกรณีฮั้ว สว. อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาล โดย ร้อยละ 66.15 ของกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าส่งผลกระทบ ขณะที่ร้อยละ 33.85 ระบุว่าไม่ส่งผลกระทบ

เมื่อถามถึงแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีฮั้ว สว. ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.81 เรียกร้องให้เร่งปฏิรูประบบการเลือกตั้ง สว. ร้อยละ 55.34 ต้องการให้มีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นและโปร่งใสมากขึ้น และ ร้อยละ 50.87 มองว่าควรปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการ

สุดท้าย เมื่อถามถึงผลกระทบที่ประชาชนได้รับจากกรณีฮั้ว สว. พบว่า ร้อยละ 57.12 รู้สึกเกิดความไม่ไว้วางใจในสังคมและเกิดความขัดแย้งทางความคิด ร้อยละ 54.30 ประชาชนรู้สึกไม่มั่นใจในระบบประชาธิปไตย และน่าสนใจที่ ร้อยละ 48.84 ระบุว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ประชาชนสนใจติดตามการเมืองมากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาดังกล่าวได้กระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการเมืองและอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น