ก.อ.มติเอกฉันท์ เลือก‘อิทธิพร แก้วทิพย์’ นั่งอัยการสูงสุดคนที่20

วานนี้ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุมชั้น 8 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการอัยการ โดยมีวาระการประชุมสำคัญในการแต่งตั้งอัยการสูงสุดคนใหม่ แทน นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด คนปัจจุบันที่จะพ้นวาระวันที่ 30 กันยายนนี้

โดยที่ประชุม ก.อ. มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบให้แต่งตั้ง นาย อิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด ผู้มีลำดับอาวุโสเป็นลำดับที่ 1 ขึ้นเป็นอัยการสูงสุดคนใหม่ ซึ่งเป็นอัยการสูงสุด คนที่ 20

สำหรับขั้นตอนต่อไป สำนักงานอัยการสูงสุดจะดำเนินการตามพ.ร.บ.องค์กรอัยการ และพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 10 ให้มีหนังสือกราบเรียนประธานวุฒิสภา เพื่อให้นำเข้าที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้วก็จะนำความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับที่ประชุม ก.อ.วันนี้มีมติเอกฉันท์ 11 เสียงเลือก นายอิทธิพรเป็นอัยการสูงสุดคนใหม่โดยมีรองอัยการสูงสุดไม่ได้เข้าประชุม 1 คน ติดภาระกิจที่ประทศญี่ปุ่น เเละผู้ที่มีสิทธิ์ถูกเสนอชื่อ 3 คนรวมนายอิทธิพรให้ออกจากห้องประชุมเพราะมีส่วนได้เสีย จากนั้นที่ประชุม ก.อ.จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ 11 เสียง เลือกนายอิทธิพร เป็นอัยการสูงสุดดังกล่าว

สำหรับ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ ว่าที่อัยการสูงสุดคนที่ 20 สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เนติบัณฑิตไทย สมัยที่ 35สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, นิติศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เริ่มรับราชการในตำแหน่งอัยการผู้ช่วย เมื่อ ปี 2530 และดำรงตำแหน่งสำคัญ

ปี 2543 อัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี

ปี 2547 อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจังหวัดนครนายก

ปี 2548 อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์

ปี 2549 อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงนครสวรรค์

ปี 2550 อัยการจังหวัดสีคิ้ว

ปี 2551 อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานคดีศาลแขวง

ปี 2558 อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 สำนักงานคดีอาญา

ปี 2562 รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา

ปี 2563 อธิบดีอัยการ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ

ปี 2564 อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา

ปี 2565 รองอัยการสูงสุด

นอกจากนี้ ยังได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ในช่วงปี พ.ศ. 2563 –2565 นอกจากนี้ ยังผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรที่สำคัญ เช่น หลักสูตรจิตวิทยาความมั่นคง รุ่น86, หลักสูตรการบริหารตำรวจชั้นสูง รุ่น 33, หลักสูตรนักบริหารกระบวนการยุติธรรมชั้นสูง (บยส.) รุ่น 24, หลักสูตรนักบริหารงานยุติธรรมระดับสูง รุ่น 11, หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่น 26 และหลักสูตร หลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย (นธป.) รุ่น 12


นอกจากการปฏิบัติงานในหน้าที่พนักงานอัยการแล้ว ยังมีภารกิจพิศษที่ได้รับมอบหมาย ดังนี้

- คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)

- ประธานอนุกรรมการ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ กระทรวงศึกษาธิการ


- อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย กองทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู กระทรวงศึกษาธิการ

- กรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

- กรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

- อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ สำนักงานกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน กระทรวงแรงงาน

- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ในคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (คณะกรรมการ สสวท.)


นายอิทธิพร ยังถือเป็นอัยการที่มีประสบการณ์เเละความเชี่ยวชาญ ในเรื่องคดีอาญาเป็นอย่างมาก นั่งเป็นประธานคณะทำงานกำหนดแนวทางการบังคับใช้กฎหมายในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งล่าสุดคณะทำงานดังกล่าวมีมติเเละความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ดร.พอล แซมเบอร์ ผู้ต้องหา ข้อหาคดีหมิ่นเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เเละ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งหลายฝ่ายมองกันว่าการสั่งคดีตามข้อกฎหมายช่วยส่งผลดีในการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา เเละเป็นการช่วยไม่ให้มีการนำประเด็นนี้ไปขยายต่อจนเกิดผลกระทบต่อสถาบันเบื้องสูง