กลาโหม แจงย้ำคำสั่ง รมว.กลาโหม ให้กำลังทหารสองฝ่ายปฏิบัติตาม MOU 43 ลดตึงเครียดชายแดน สร้างสันติภาพบนพื้นฐานอธิปไตยไทย

พ.อ.หญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ตามที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค.68 ได้เน้นย้ำว่า เพื่อให้เกิดสันติภาพบริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชาโดยยึดอธิปไตยของประเทศไทยเป็นหลัก จึงขอให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชา ปี พ.ศ. 2543 ข้อ 5 ว่าด้วย “เพื่ออำนวยความสะดวกให้การสำรวจตลอดแนวเขตแดนทางบกร่วมกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล หน่วยงานของรัฐบาลกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเหล่านั้นจะงดเว้นการดำเนินการใดๆ ที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ชายแดน เว้นแต่จะเป็นการดำเนินการของคณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วมเพื่อประโยชน์ในการสำรวจ และจัดทำหลักเขตแดน”

เนื่องจากหลังเหตุการณ์ที่มีทหารกัมพูชาขึ้นไปร้องเพลงบนปราสาทเหมือนตาธมเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 68 ทำให้มีการเสริมกำลังทหารทั้งสองฝ่ายเข้าไปในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดประเด็นปะทะ การขัดแย้ง และลดความตึงเครียด จึงขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายยึดตามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดสันติภาพในพื้นที่
โดยได้มอบหมายให้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก และและแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยร่วมหารือกับทางฝ่ายกัมพูชาเพื่อตกลงร่วมกันในการที่จะไปยุติข้อขัดแย้งในรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อตกลงในที่ประชุมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชาว่าด้วยการให้ทั้งสองฝ่ายจะกลับไปสู่สันติภาพ มีความปลอดภัยและความมั่นคงทางชายแดนไทยกัมพูชา

ทั้งนี้ สถานการณ์ปัจจุบัน ณ บริเวณปราสาทตาเหมือนธม ทั้งกำลังพลทางทหาร และประชาชน รวมทั้งการเดินทางเข้าออกตามช่องทางต่างๆ ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา เป็นไปตามปกติ และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน