ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก คู่ลิเวอร์พูล-ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้องลากยาวถึงการดวลจุดโทษหลังสกอร์รวมเสมอกัน และเป็นฝั่งเปแอสเชยิงแม่นกว่าชนะผ่านเข้ารอบไป

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2024-25 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เมื่อวันที่ 11 มีนาคม “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส เกมแรกลิเวอร์พูลชนะมาก่อน 1-0

แมตช์นี้เจ้าบ้านส่ง ดิโอโก โชตา, โดมินิก โซโบสไล, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนนำทัพโดย อุสมาน เดมเบเล, ควิชา ควารัตส์เคเลีย, บราดเลย์ บาร์กโกลา

ครึ่งแรกนาที 12 บราดเลย์ บาร์กโกลา สปีดมารับบอลด้านขวาของเขตโทษแล้วปาดเข้ากลาง ผู้รักษาประตูกับกองหลังลิเวอร์พูลไม่เข้าใจกันเลยสกัดพลาด เป็นการเปิดโอกาสให้ อุสมาน เดมเบเล ได้ยิงเข้าไปแบบง่ายๆ เปแอสเชนำ 1-0

นาที 16 ลิเวอร์พูลมีลุ้นตีเสมอ อิบราฮิโม โคนาเต รับบอลจากเพื่อนแล้วเลี้ยงขึ้นมา ก่อนจะตัดสินยิงเองจากระยะเกือบ 30 หลา บอลพุ่งแบบมีเด้งพื้นทำท่าจะเสียบมุม จานลุยจิ ดอนนารุมมา ต้องพุ่งตัวปัดออกไป

นาที 17 เป็นฝั่งเปแอสเชที่เกือบใส่สกอร์เพิ่ม ควิชา ควารัตส์เคเลีย แทงบอลทะลุแนวรับให้ บราดเลย์ บาร์กโกลา โฉบมารับในเขตโทษแล้วสับไกยิง อลิสซอน เบ็กเกอร์ ขยับออกมาปิดมุมได้ดีจึงรับไว้ได้ จบครึ่งแรกทีมเยือนนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลังนาที 53 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิงลูกชนเสาแล้วตามไปเล่นต่อ ก่อนส่งให้ โดมินิก โซโบสไล ยิงเข้าไปง่ายๆ แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าย้อนไปจังหวะการเล่นก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูลจึงชวดตีเสมอ

นาที 58 ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุมฝั่งขวา อเล็กซิส แม็กอัลลิสเตอร์ เปิดเข้ากลางให้ หลุยส์ ดิอาซ กระโดดขึ้นโขกกดลูกเด้งพื้นตรงกรอบ จานลุยจิ ดอนนารุมมา โชว์เหนียวพุ่งสุดตัวปัดทิ้งไปได้หวุดหวิด

นาที 62 คราวนี้ลิเวอร์พูลจู่โจมด้วยลูกเตะมุมจากฝั่งซ้าย บอลถูกเปิดเข้ากลางแล้วผู้รักษาประตูกระโดดชกโดนไม่ดีหลุดไปถึงเสาสอง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งอยู่ตรงนั้นจึงได้สับไกยิง ควิชา ควารัตส์เคเลีย ที่ขวางอยู่บริเวณปากประตูยังช่วยสกัดออกไปได้

นาที 79 ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกเยื้องไปทางกราบซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดโค้งไปบริเวณเสาสอง จาเรลล์ ควอนซาห์ จึงโฉบมาโขกผ่านมือนายทวารลูกไปชนเสาเสียอีก

นาที 84 ผู้เล่นลิเวอร์พูลบุกมาทางกราบซ้ายแล้วแนวรับเปแอสเชสกัดไว้ ลูกลอยมาทางริมกรอบเขตโทษ หลุยส์ ดิอาซ เก็บได้แล้วหาช่องยิงยัดมุมแคบ จานลุยจิ ดอนนารุมมา ยังทุบทิ้งไปได้ หมดเวลาเปแอสเชชนะ 1-0 ทำให้สกอร์รวมเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

ช่วงต่อเวลานาที 109 วิตินญา จ่ายบอลเข้าพื้นที่เขตโทษด้านซ้ายให้ อุสมาน เดมเบเล รับได้แล้วยิงหวังให้เข้าเสาสอง อลิสซอน เบ็กเกอร์ ปฏิกิริยาไวล้มตัวปัดไม่ให้เปแอสเชได้ประตู หมดเวลา 120 นาที เปแอสเชชนะ 1-0 และสกอร์รวมยังคงเสมอ 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ

ผลปรากฏว่าเปแอสเชยิง 4 คน เข้าทั้งหมด ส่วนลิเวอร์พูลยิง 3 คน เข้าแค่ลูกเดียว โดยที่ ดาร์วิน นูนเญซ และเคอร์ติส โจนส์ ซัดติดเซฟนายทวาร เปแอสเชจึงชนะ 4-1 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปพบผู้ชนะคู่ระหว่างคลับ บรูช (เบลเยียม) – แอสตัน วิลลา (อังกฤษ)

ส่วนผลคู่อื่น บาร์เซโลนา (สเปน) ชนะ เบนฟิกา (โปรตุเกส) 3-0 บาร์เซโลนาชนะสกอร์รวม 4-1, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี) แพ้ บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) 0-2 บาเยิร์นชนะสกอร์รวม 5-0, อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) ชนะ เฟเยนูร์ด (เนเธอร์แลนด์) 2-1 อินเตอร์ชนะสกอร์รวม 4-1