วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม 2568
13 ธ.ค. 2568 11:19 | 69 view
@pracha
ส.อ.ท.ลั่นไม่แปลกใจที่ “อนุทิน”ยุบสภาฯ แต่ห่วงข้าราชการปล่อยเกียร์ว่าง นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอืด หวังปลัดทุกกระทรวงจะเดินหน้าขับเคลื่อนงานที่ค้างคา เร่งแก้3ปัญหาใหญ่งเยียวยาน้ําท่วมใต้ ปัญหาชายแดน และการเจรจากับสหรัฐฯ
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่ากรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2568 นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจหรือแปลกใจแต่ประการใด เนื่องจากนายกรัฐมนตรี เคยส่งสัญญาณและพูดถึงเงื่อนไขไว้แล้ว หลายฝ่ายมีการคาดการณ์ถึงช่วงเวลาการยุบสภาไว้ถึง 3 ระยะ และช่วงเวลานี้ถือเป็นระยะที่หนึ่งที่ใกล้ที่สุดตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเท่ากับว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยที่โครงสร้างมีความเปราะบางนี้ ได้อยู่บริหารประเทศเต็มที่ประมาณ 2 เดือนกว่า และยุบสภาเร็วกว่ากําหนดประมาณเดือนกว่า
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทําให้เกิดความแปลกใจเล็กน้อยคือการที่ "พรรคประชาชน" เป็นฝ่ายยื่นเรื่องยุบสภา แทนที่จะเป็นพรรคเพื่อไทยตามที่เคยมีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า การยุบสภาครั้งนี้ มาจากการที่พรรคประชาชนไม่พอใจและถือว่าเป็นการผิดข้อตกลง MOA ซึ่งเป็นผลมาจากการที่มีการประสานและแจ้งไปยังพรรคประชาชนว่าให้คงอํานาจของวุฒิสภา (สว.) ไว้ก่อน ทําให้พรรคประชาชนมองว่าเป็นการฉีก MOA กัน
นายเกรียงไกร กล่าวยอมรับว่า ส่วนตัวมีความกังวลว่า การยุบสภาและเข้าสู่ช่วงรัฐบาลรักษาการที่เป็นเวลาประมาณ 60 วัน อาจส่งผลกระทบต่อความเข้มข้นในการขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ ที่กําลังดําเนินการอยู่ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจที่จําเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการพยุงเศรษฐกิจ หรือ GDP ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ทั้งนี้ มาตรการ "Quick Big Win" ที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวการคลัง ออกมาเพื่อหวังไม่ให้เศรษฐกิจไทยเหมือน "รถติดหล่ม" มีความจําเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประกาศว่า GDP ในไตรมาสที่ 3 เหลือเพียง 1.2% ซึ่งต่ํากว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 0.5% แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะถือว่าทําได้ดีแล้วและได้ผลตอบรับที่ดีในช่วงต้น แต่จําเป็นต้องคอยติดตามว่าการเป็น "รัฐบาลรักษาการ" จะส่งผลอย่างไร และจะลดความเข้มข้นในการเดินมาตรการเหล่านี้หรือไม่
นายเกรียงไกร กล่าวเน้นย้ําว่า ขณะนี้มีปัญหาใหญ่หลายเรื่องที่ยังคง "คาราคาซัง" อยู่ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จําเป็นต้องได้รับการขับเคลื่อนจากรัฐบาลอํานาจเต็ม แต่กลับมาอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ได้แก่
1. สถานการณ์ภาคใต้ ที่อยู่ในระหว่างการฟื้นฟูหลังจากประสบอุทกภัยอย่างหนักทั้ง 9 จังหวัด การที่รัฐบาลเป็นรักษาการอาจส่งผลให้การเร่งฟื้นฟูเกิดความล่าช้าหรือสะดุดไปได้
2. การปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา สถานการณ์การปะทะรอบ 2 ยังคงทวีความรุนแรงและกินบริเวณกว้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้า การท่องเที่ยว และภาคการเกษตรในจังหวัดชายแดนหลายแห่งในภาคอีสาน ทําให้ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพ และนิคมอุตสาหกรรมบางแห่งต้องหยุดดําเนินการ
3. การเจรจาระหว่างประเทศ ในการเจรจาสําคัญระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ถือเป็น "การบ้านใหญ่" ที่ยังคงค้างและชะลออยู่ หากมีการเจรจาหรือติดต่อจากมหาอํานาจอย่างสหรัฐฯ "โดนัล ทรัมป์" เข้ามาในช่วงนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีข้อจํากัดหรือเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจหรือไม่
นายเกรียงไกร กล่าวว่า รัฐบาลรักษาการและรัฐบาลอํานาจเต็มนั้นไม่เหมือนกัน จากประสบการณ์ในอดีตของไทยพบว่า ทันทีที่รัฐบาลประกาศยุบสภา ข้าราชการประจําส่วนใหญ่มักจะ "ปล่อยเกียร์ว่าง" หรือผ่อนคันเร่งในการทํางานลง เนื่องจากต้องรอจับตาดูสถานการณ์และท่าทีว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลชุดหน้า ทําให้มาตรฐานการทํางานและอํานาจในการสั่งการกับข้าราชการประจําลดลง
"ส.อ.ท. จึงฝากให้ปลัดกระทรวงต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดําเนินการการบ้านที่ค้างอยู่เหล่านี้อย่างเข้มข้นต่อไป ดังนั้น ในช่วงนี้จะต้องจับตาว่านโยบายหรือมาตรการต่างๆ ที่ประกาศและอนุมัติไปแล้วจะมีการขับเคลื่อนได้เต็มที่หรือไม่ อย่างไร เพราะ Quick Big Win ที่ออกมาถือว่าเป็นนโยบายที่จะหนุนเศรษฐกิจในช่วงท้ายของปีที่ดี และยิ่งขณะนี้ประเทศต้องสะดุดในหลายเรื่องจะกระทบ GDP ไทยที่โตช้าไปอี
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 12:13 65 views
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 11:24 81 views
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 11:19 70 views
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 11:16 77 views
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 11:08 84 views
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 10:55 91 views
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 10:42 85 views
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 10:33 109 views
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 05:44 83 views
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 05:32 114 views
ข่าว
13 ธ.ค. 2568 05:26 100 views
ข่าว
12 ธ.ค. 2568 16:39 194 views
ข่าว
12 ธ.ค. 2568 16:38 169 views
ข่าว
12 ธ.ค. 2568 16:19 169 views
ข่าว
12 ธ.ค. 2568 16:01 205 views
ข่าว
12 ธ.ค. 2568 15:56 205 views