วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567
15 พ.ย. 2567 11:05 | 104 view
@pracha
กรมศิลป์รับมอบโบราณวัตถุบ้านเชียงจากสหรัฐ ล็อตต่อไป 2 ประติมากรรมพราหมณ์-ฮินดู
วานนี้ 14 พฤศจิกายน ที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานยูเนสโกระดับภูมิภาค ณ กรุงเทพมหานคร และกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิธีส่งคืนโบราณวัตถุจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ซึ่งถูกมอบให้กับนายทหารชาวอเมริกันรายหนึ่ง ที่เคยประจำการ ณ ฐานบินอุดรธานี ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2513-2522 ประกอบไปด้วยเครื่องปั้นและเครื่องมือดินเผา เพื่อเป็นสักขีพยานว่าสถานทูตสหรัฐอเมริกาได้ส่งคืนโบราณวัตถุนี้แก่ประเทศไทยแล้ว
ในพิธี นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวรายงานว่า กรมศิลปากรได้รับการประสานจากสถานทูตสหรัฐว่าได้พบภาชนะบ้านเชียงที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่สำนักงาน จึงขอให้กรมศิลปากรตรวจพิสูจน์โบราณวัตถุดังกล่าว และพบว่าเป็นภาชนะสมัยบ้านเชียงที่มีอายุ 2,000 ปีขึ้นไป จากนั้น สถานทูตจึงขอส่งคืนให้แก่กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมต่อไป
“ประเทศไทยและสหรัฐเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกัน และมีความร่วมมือในหลากหลายด้าน โดยมีความร่วมมือทางวัฒนธรรมมากขึ้น และภายใต้บันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างสองประเทศ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน“ นายพนมบุตรกล่าว
ต่อมา นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย กล่าวถ้อยแถลงว่า มีความยินดีที่จะประกาศการส่งคืนโบราณวัตถุจำนวน 4 ชิ้น ได้แก่ ภาชนะดินเผา กำไลข้อมือ และลูกกลิ้งทรงกระบอกสองชิ้น จากแหล่งบ้านเชียงและแหล่งอื่นๆ ทางภาคกลางของไทย ที่นำมาเก็บรักษาไว้ที่สถานทูตสหรัฐ
ทูตโกเดดเน้นย้ำด้วยว่า โบราณวัตถุเหล่านี้ได้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีและได้รับการเอาใส่ใจจากสถานทูตสหรัฐ ทั้งนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะส่งคืนกลับสู่บ้านเกิดที่แท้จริง
“สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย จะยังคงสนับสนุนการส่งคืนโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่สำคัญซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมรดกอันรุ่มรวยของไทย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สหรัฐได้ส่งคืนประติมากรรมโกลเด้นบอย หรือประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ รวมถึงประติมากรรมรูปสตรีพนมมือจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน ที่นครนิวยอร์ก ซึ่งตอนนี้ได้คืนสู่ไทยอย่างปลอดภัยแล้ว” ทูตโกเดดกล่าวย้ำ
อีกทั้ง เออร์เนสโต ร. โอตโทเน ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก เน้นย้ำถึงความสำคัญของพันธกิจของยูเนสโกในการส่งเสริมอนุสัญญาปี ค.ศ.1970 ว่าด้วยวิธีการในการห้ามและป้องกันการนำเข้า การส่งออก และการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทางวัฒนธรรม โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าไทยและสหรัฐจะมีความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันภายใต้อนุสัญญานี้เพื่อความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของมวลมนุษยชาติต่อไป
นอกจากนี้ น.ส.ซูฮยอน คิม ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาค สำนักงานยูเนสโกส่วนภูมิภาค ณ กรุงเทพฯ กล่าวว่า การคืนโบราณวัตถุในวันนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเน้นย้ำถึงคุณค่าของมรดกบ้านเชียง เธอกล่าวด้วยว่า ในห้วงแห่งความแตกแยก โบราณวัตถุเหล่านี้เป็นสิ่งเชื่อมโยงเรื่องราวที่มนุษย์มีร่วมกัน และย้ำเตือนถึงคุณค่าของความร่วมมือและความรับผิดชอบร่วมกัน
จากนั้น น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับมอบโบราณวัตถุบ้านเชียง จากสถานทูตสหรัฐ โบราณวัตถุเหล่านี้ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าของประเทศไทย โดยแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงเป็นหลักฐานการเริ่มตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อราว 3,000 ปีที่แล้ว
น.ส.สุดาวรรณกล่าวด้วยว่า ไทยและสหรัฐมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนาน เป็นเวลา 191 ปี สหรัฐมีส่วนช่วยผลักดันและสนับสนุนโครงการศึกษาแหล่งโบราณคดีแหล่งโบราณคดีหลายด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือในการสำรวจขุดค้นทางโบราณคดี
”การส่งคืนโบราณวัตถุบ้านเชียง นอกจะเป็นการแสดงออกถึงการให้ความสำคัญต่อแหล่งที่มาของโบราณวัตถุแล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างไทยและสหรัฐให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น“ น.ส.สุดาวรรณกล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ เธอระบุว่า รัฐบาลไทยมีคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุในต่างประเทศ และล่าสุดได้รับแจ้งว่าสหรัฐจะส่งคืนโบราณสถานให้ไทยอีก 2 ชิ้น เป็นประติมากรรมรูปเคารพในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ ทั้งนี้ ภายหลังรับมอบโบราณวัตถุทั้ง 4 ชิ้น จะมีการจัดแสดงให้ผู้สนใจได้เข้าชมยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติต่อไป
ในตอนท้ายของพิธี นายราฟีค แมนซัวร์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐเป็นผู้สนับสนุนอนุสัญญายูเนสโกว่าด้วยวิธีการในการห้ามและป้องกันการนำเข้า ส่งออกและการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทางวัฒนธรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ค.ศ.1970 และอนุสัญญาว่าด้วยมรดกโลก ค.ศ.1972 และส่งเสริมการส่งคืนทรัพย์สินทางวัฒนธรรมให้แก่ประเทศต้นทาง โดยสหรัฐมีความมุ่งมั่นในการผลักดันให้เกิดการตระหนักรู้ในเรื่องความสำคัญของการอนุรักษ์และปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมด้วย
“ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและยูเนสโกสำหรับความมุ่งมั่นในการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมที่รุ่มรวยและเป็นเอกลักษณ์ของไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก“ นายแมนซัวร์กล่าว
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน สำนักงานยูเนสโกจัดการเสวนา 2 เวที ในหัวข้อการดำเนินงานทางกฎหมายและสิ่งท้าทายในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปกป้องโบราณวัตถุ และแหล่งที่มาและการค้าโบราณวัตถุระหว่างประเทศ-ความมั่นใจต่อการได้มาโดยชอบด้วยจรรยาบรรณ เนื่องในวันสากลเพื่อการต่อต้านการลักลอบค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรมซึ่งคือวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีอีกด้วย
ข่าว
15 พ.ย. 2567 14:12 91 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 13:46 71 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 13:44 59 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 13:42 64 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 13:36 152 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 13:36 59 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 11:31 103 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 11:23 80 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 11:20 85 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 11:05 105 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 11:03 93 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 11:01 106 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 10:34 104 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 10:22 94 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 10:13 94 views
ข่าว
15 พ.ย. 2567 10:13 98 views