สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังตึงเครียด กัมพูชาระดมโจมตีหลายจุด–ไทยตอบโต้ทําลายฐานปฏิบัติการ พร้อมเร่งอพยพประชาชนกว่า 170,000 คน และตั้งศูนย์พักพิงรวม 696 จุด

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ประจําวันที่ 10 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. หลังเกิดการสู้รบต่อเนื่องในช่วงคืนที่ผ่านมา
ฝ่ายกัมพูชาดําเนินการโจมตีบริเวณช่องบกและช่องอานม้า อําเภอน้ํายืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยเฉพาะพื้นที่เนิน 677 ด้วยโดรนกว่า 80 เที่ยว พร้อมใช้จรวด BM-21 ยิงสนับสนุนเพื่อพยายามเข้ายึดภูมะเขือ  นอกจากนี้ยังใช้รถถังและอาวุธเล็งตรงยิงจากเขาพระวิหารต่อกําลังฝ่ายไทยในพื้นที่สถูปคู่และห้วยตามาเรีย อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

ฝ่ายไทยได้ยิงทําลายที่ตั้งแอนตี้โดรนบริเวณทิศใต้ช่องจอม เพื่อสนับสนุนการกวาดล้างฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่สวนมะม่วงที่ปลูกล้ําเส้นปฏิบัติการเข้ามายังบริเวณช่องระยี ขณะเดียวกันฝ่ายกัมพูชายังใช้จรวด BM-21 ระดมยิงบริเวณปราสาทคนา แม้จะมีฝ่ายของตนเองวางกําลังอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

ด้านการอพยพประชาชน ปัจจุบันมีศูนย์พักพิงชั่วคราวรวม 696 จุด มีผู้เข้าพัก 171,681 คน แบ่งเป็นจังหวัดอุบลราชธานี 29,865 คน ศรีสะเกษ 72,907 คน สุรินทร์ 62,846 คน และบุรีรัมย์ 6,063 คน

สําหรับประชาชนกลุ่มเปราะบาง เปิดศูนย์พักพิง 75 จุด มีผู้เข้าพัก 4,350 คน ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี 170 คน ศรีสะเกษ 177 คน สุรินทร์ 3,594 คน และบุรีรัมย์ 509 คน

กองทัพภาคที่ 2 ยังจัดกิจกรรมบํารุงขวัญ เช่น การแสดงดนตรี หนังกลางแปลง และกิจกรรมสําหรับเด็ก อาทิ การแข่งขันกีฬา บ้านบอล วาดภาพ และมุมของเล่น เพื่อช่วยลดความตึงเครียดให้กับผู้พักพิง

กองทัพภาคที่ 2 ระบุว่าจะดําเนินมาตรการทุกด้านเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยและอธิปไตยของชาติอย่างเต็มกําลัง

“ประเทศไทยให้ความสําคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของประชาชน และพยายามลดผลกระทบต่อพลเรือนให้มากที่สุด”

พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ
โฆษกกระทรวงกลาโหม