รฟท.ชง 3 ทางคู่ภาคใต้ เข้า ครม. ธ.ค.นี้ คาดเปิดประมูลปี 69

17 พฤศจิกายน นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ รฟท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จํานวน 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,312 กิโลเมตร (กม.) ว่า ขณะนี้มี 3 เส้นทางหลักในกลุ่มภาคใต้ที่มีความคืบหน้ามากที่สุด ได้แก่ 1.ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. 2. ช่วงสุราษฎร์ธานี – ชุมทางหาดใหญ่ – สงขลา ระยะทาง 321 กม. 3. ช่วงชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม.

ทั้ง 3 เส้นทางนี้ ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ บอร์ดสภาพัฒน์ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 แล้ว โดยขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ จะเป็นการนําเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเข้าสู่การพิจารณาต่อไป

นายอนันต์ กล่าวว่า ตรงนี้หากไม่มีประเด็นเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถนําเสนอ ครม.ได้เร็วสุดภายในเดือนธันวาคม 2568 นี้ หรืออย่างช้าอาจขยับเป็นช่วงต้นปี 2569 โดยจะเสนอเป็นรูปแบบแพ็ก 3 เส้นทาง เข้าพิจารณาในคราวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการประมูลจะไม่เปิดพร้อมกันทั้ง 3 เส้นทาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่เคยเกิดในอดีตในบางโครงการที่พบว่าการเปิดประมูลพร้อมกันทําให้ผู้รับเหมาบางรายแบ่งงานกันเอง ส่งผลต่อการแข่งขันและราคาประมูลจึงมีแนวทางจะทยอยเปิดประมูลให้ เหลื่อมเวลากันประมาณ 2 เดือน ต่อหนึ่งเส้นทาง

นายอนันต์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเส้นทางที่มีความท้าทายซับซ้อนท้าทายมากที่สุดคือ เส้นชุมทางหาดใหญ่–สงขลา ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเดิมที่ถูกปิดให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 และมีปัญหาการ บุกรุกพื้นที่ตลอดแนวระยะทางเกือบ 20 กิโลเมตร โดย รฟท. อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยอาจใช้แนวคิดดังนี้ 1. การก่อสร้างทางยกระดับ บางช่วงที่มีผู้บุกรุกหนาแน่น 2. การร่วมมือกับ พอช. (สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน) เพื่อจัดหาย้ายที่อยู่ใหม่ให้กับผู้บุกรุกและแก้ไขปัญหาสังคม 3. การออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed: NP) 2 รอบ โดยอาจจะออก NP สําหรับช่วง สุราษฎร์ธานี – หาดใหญ่ ก่อน ส่วนช่วง หาดใหญ่ – สงขลา อาจจะออก NP โดยมีเงื่อนไขให้เข้าพื้นที่ได้ต่อเมื่อ รฟท. สามารถจัดการปัญหาผู้บุกรุกและเวนคืนที่ดินได้ตามสัดส่วนที่กําหนด (เช่น 70-80%) โดย แนวทางนี้เคยใช้ในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงหัวหินและได้ผลดี จึงจะประยุกต์ใช้กับเส้นสงขลาเพื่อให้โครงการเดินหน้าได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอเคลียร์พื้นที่ทั้งหมด

นายอนันต์ กล่าวว่า หากสามารถนํา 3 เส้นทางสายใต้เสนอ ครม. ให้เห็นชอบภายในกรอบเดือนธันวาคมปี 2568 ได้ตามแผน ขั้นตอนต่อไป รฟท.จะใช้เวลาประมาณ 5 เดือนจัดทําเอกสารประกวดราคาและราคากลาง ซึ่งคาดว่า ปี 2569 จะสามารถเปิดประมูลได้สําหรับเส้นทางในภาคใต้ ส่วนอีก 3 เส้นทางในโครงการทางคู่ระยะที่ 2 ที่เหลือ ได้แก่ ปากน้ําโพ – เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. ชุมทางถนนจิระ – อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. และ และ เด่นชัย – เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. อยู่ระหว่างการพิจารณาความเห็นเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง คาดว่าหากได้รับการอนุมัติจากทุกฝ่าย ก็สามารถเข้าที่ประชุม ครม. ได้ ถัดจากกลุ่ม 3 เส้นทางภาคใต้