ศูนย์ปฏิบัติการน้ําอัจฉริยะ กรมชลประทาน ผย ปริมาณน้ําในเขื่อนทั่วประเทศกว่า 90% โดยเฉพาะเขื่อนลุ่มเจ้าพระยาแตะระดับวิกฤติ  ห่วงพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เสี่ยงน้ําท่วม 

วันที่ 6 พ.ย.68 - กรมชลประทานออกประกาศเตือนจับตาฝนจากอิทธิพลพายุ “คัลแมกี” ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 7–9 พฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน พร้อมห่วงสถานการณ์น้ําใน “4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา” ที่มีปริมาณน้ําเก็บกักรวมเกือบเต็ม 98% อาจเสี่ยงล้นตลิ่งหากฝนตกต่อเนื่อง

ศูนย์ปฏิบัติการน้ําอัจฉริยะ กรมชลประทาน รายงานว่า ปัจจุบันอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ํารวมกว่า 68,500 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 90% ของความจุทั้งหมด และยังสามารถรองรับน้ําได้อีกประมาณ 8,100 ล้านลูกบาศก์เมตร

สําหรับลุ่มน้ําเจ้าพระยา โดยเฉพาะ เขื่อนภูมิพล, เขื่อนสิริกิติ์, เขื่อนแควน้อยบํารุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ํารวมอยู่ที่ 24,310 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือราว 98% ของความจุรวมทั้ง 4 เขื่อน และสามารถรองรับน้ําได้อีกเพียง 605 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

กรมชลประทานจึงต้องบริหารจัดการน้ําอย่างรอบคอบ โดยร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับแผนระบายน้ําให้สอดคล้องกับปริมาณฝนและน้ําท่าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องสูบน้ํา และสถานีระบายน้ําในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถเร่งระบายน้ําได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน เขื่อนเจ้าพระยาได้เพิ่มการระบายน้ําอยู่ที่ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังจากมีฝนตกหนักเหนือเขื่อน ทําให้พื้นที่ท้ายเขื่อนในหลายจังหวัด เช่น ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา เริ่มได้รับผลกระทบจากระดับน้ําที่เพิ่มสูงขึ้น

กรมชลประทานย้ําให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ําริมแม่น้ําเจ้าพระยา ติดตามประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ําอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมเคลื่อนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง หากฝนตกต่อเนื่องในช่วงปลายสัปดาห์นี้