วันพุธที่ 2 เมษายน 2568
26 เม.ย. 2566 20:23 | 3636 view
@admin
อาหารที่มาแรงที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมาต้องหนีไม่พ้น “หม่าล่า (麻辣) ” เครื่องเทศชนิดหนึ่ง ที่ให้รสชาติ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ ความเผ็ดจนลิ้นชานำไปใส่ในเมนูไหน ก็ทำให้อาหารรสชาติเผ็ดโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเมนูหม่าล่ายอดฮิตก็มีทั้งแบบปิ้งย่าง และสุกี้หม้อไฟ บทความนี้ เราจะขอมาเล่าเรื่องหม่าล่าว่าเครื่องเทศนี้มีที่มาอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรกันนะ ถึงได้ใจคนไทยขนาดนี้! หม่าล่า หรือ (málà หรือชื่อภาษาจีนว่า 麻辣) เป็นชื่อเรียกของ เครื่องเทศที่มีรสชาติเผ็ดชาที่ปลายลิ้น โดยมีส่วนประกอบคือ พริกไทยเสฉวน หรือฮวาเจียว พริก รวมทั้งเครื่องเทศอื่น ๆ กว่า 10 ชนิด เช่น กานพลู กระเทียม ยี่หร่า อบเชย เป็นต้น แล้วนำมาปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำตาล ก่อนนำไปเคี่ยวในน้ำมันพืช หรือน้ำมันจากสัตว์นานหลายชั่วโมงจนได้น้ำมันพริก ก่อนจะบรรจุลงขวด ซึ่งชื่อของ หม่าล่า มาจากการประสมกันของอักษรสองตัว คือ หม่าล่า ได้แก่ หม่า (麻) แปลว่า “ชา” กับ ล่า (辣) แปลว่า “เผ็ด” เมื่อเอาคำ 2 คำมารวมกันจึงหมายถึงรสชาติเผ็ดชานั่นเอง ความเป็นมาของหม่าล่า “หม่าล่า” มีต้นกำเนิดมาจากมณฑลเสฉวน มณฑลทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าอาหารของมณฑลทางใต้นั้นรสชาติจัดจ้าน เผ็ดร้อน โดดเด่นในการใช้พริกไทยเสฉวน และหม่าล่าซึ่งทำให้รู้สึกเผ็ดชา ในอดีตนั้นหม่าล่าถูกปรุงขึ้นเพื่อใช้ดับกลิ่นวัตถุดิบจำพวกเครื่องใน และเลือดให้มีรสอร่อยขึ้น เครื่องเทศนี้ยังสามารถดับกลิ่นสาบของเนื้อแกะได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หม่าล่า มักนำมาใช้เป็นซอส และเครื่องปรุง โดยสามารถนำมาใช้ปรุงอาหารได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะโรยบนเนื้อสัตว์ หรือผักปิ้งย่าง ทำเป็นซุปสุกี้หม้อไฟ นำหม่าล่าไปผัดกับบะหมี่ นำไปปรุงในก๋วยเตี๋ยวน้ำ เต้าหู้มาโป ไก่กังเปา อาหารที่ปรุงด้วยหม่าล่าจะให้รสชาติที่เผ็ดชา ซึ่งนับเป็นลักษณะเด่นของอาหารจีนสไตล์เสฉวน (Sichuan Cuisine) หรืออาหารตำรับชาวจีนทางภาคใต้เลยก็ว่าได้ หม่าล่า มีประโยชน์อย่างไร?
หม่าล่าประกอบด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรหลายชนิด เช่น พริกไทยเสฉวน พริกแห้ง กระเทียม และขิง ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะสามารถยับยั้ง หรือชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องร่างกายจากโรคมะเร็ง ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และโรคเส้นเลือดในสมองตีบได้
เพราะหม่าล่าเป็นเครื่องเทศที่แคลอรีต่ำ มีไฟเบอร์สูง ช่วยทำให้ผู้รับประทานรู้สึกอิ่ม ซึ่งอาจช่วยลดปริมาณแคลอรีที่ได้รับในแต่ละวัน ทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น
เครื่องเทศและสมุนไพรหลายชนิดที่ใช้ในการทำหม่าล่าล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ในการย่อยอาหารทั้งสิ้น เช่น พริกไทยเสฉวน ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถกระตุ้นการผลิตเอนไซม์ที่ใช้ย่อยอาหาร ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร และกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ในขณะที่ขิง และกระเทียม ช่วยลดการอักเสบในลำไส้
เครื่องเทศบางชนิดที่ใช้ในหม่าล่า เช่น ขิง และกระเทียม มีคุณสมบัติเด่นในด้านกระตุ้นการขับเสมหะ ลดอาการอักเสบ และการติดเชื้อในลำคอ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเทศหลายชนิดที่มีคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ลดลงจากความเครียด หรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ มั่นใจได้เลยว่า เมื่อรับประทานหม่าล่าแล้วระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะดีขึ้น รวมทั้งยังลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกด้วย เมนูจากหม่าล่ายอดนิยม - หม่าล่าหั่วกั่ว หม่าล่าหั่วกั่ว คือ หม้อไฟหม่าล่าสไตล์เสฉวน เป็นเมนูที่โดดเด่นด้วยรสเผ็ดชาที่ปลายลิ้นจากพริกฮวาเจียว ซึ่งเป็นเครื่องปรุงหลักในน้ำซุป สามารถใส่เนื้อสัตว์ ลูกชิ้น หรือผักชนิดต่างๆ ตามต้องการได้เลย - ซาวเข่า ซาวเข่า คือ ปิ้งย่างหม่าล่า อาหารเสียบไม้ ของไทยนั่นเอง โดยจะเอาทั้งผัก และเนื้อสัตว์มาปิ้งย่าง แล้วโรยผงหม่าล่าตามทีหลัง -หมาล่าทั่ง หมาล่าทั่ง เป็นการนำผัก หมู หรือวัตถุดิบตามต้องการ จากนั้นก็นำมาต้มในน้ำซุปที่ใส่เครื่องปรุงหม่าล่า ซึ่งเมนูหมาล่าทั่ง จะเป็นเมนูที่ทำสำเร็จมาจากในครัวเรียบร้อยแล้ว พร้อมเสิร์ฟให้ทานทันที แม้ว่าในปัจจุบัน จะยังไม่มีรายงานว่าความเผ็ดจนลิ้นชานี้จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่การทานอาหารที่มีรสเผ็ดมากเกินไปติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการระคายเคือง ยิ่งทานเผ็ดมาก ยิ่งเพิ่มความระคายเคืองของเนื้อเยื่อกระเพาะอาหาร จนทำให้เกิดกรดไหลย้อน ท้องผูก สลับกับท้องเสีย และลำไส้แปรปรวนตามมาได้ได้ นอกจากนี้ อาหารประเภทหม่าล่าบางชนิดก็มีโซเดียม หรือคอเลสเตอรอลสูง ถึงหม่าล่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ก็อาจมีรสเผ็ด น้ำมันเยอะ ระดับคอเลสเตอรอลสูง ทางเราจึงขอแนะนำว่ารับประทานหม่าล่าแสนอร่อยนี้ในปริมาณที่พอเหมาะจะดีกว่า
ข่าว
1 เม.ย. 2568 16:20 208 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 16:16 158 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 16:13 162 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 14:32 185 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 14:23 244 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 14:23 155 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 14:05 155 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 13:51 311 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 13:34 179 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 13:31 166 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 13:18 129 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 13:17 158 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 12:54 182 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 12:34 186 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 12:19 233 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 12:01 190 views