×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ FM94 ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568

?>

นายกฯชูบทบาทของไทยในการเป็นสะพานเชื่อมโลกเศรษฐกิจ ในเวที APEC CEO Summit 2025

 31 ต.ค. 2568 10:22 | 99 view

 @pracha

Facebook X Share

นายกฯชูบทบาทของไทยในการเป็นสะพานเชื่อมโลกเศรษฐกิจ “Bridge, Business, Beyond” ในเวที APEC CEO Summit 2025 สะท้อนบทบาทนําของไทยในเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

วานนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568) เวลา 16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ Gyeongju Art Center เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเร็วกว่าเวลาในประเทศไทย 2 ชั่วโมง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับเกียรติเป็นผู้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมสุดยอดผู้นําภาคธุรกิจของเอเปคประจําปี 2568 (APEC CEO Summit 2025) ภายใต้หัวข้อ “Bridge. Business. Beyond.” ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทีสําคัญระดับผู้นําเศรษฐกิจและภาคเอกชนของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีผู้นําเขตเศรษฐกิจ APEC นักธุรกิจชั้นนํา และองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

โดยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ได้สรุปสาระสําคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นําภาคธุรกิจของเอเปคในปีนี้ ต่อเนื่องจากการประชุมสุดยอดอาเซียนที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป สะท้อนถึงพลังของความร่วมมือระดับภูมิภาคที่กําลังเกิดขึ้น ในยุคที่ระบบพหุภาคีกําลังอ่อนแรง ความร่วมมือในระดับภูมิภาคมีความสําคัญยิ่งในฐานะกลไกเชื่อมโยงประเทศต่าง ๆ และเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาสร่วมกัน

สําหรับประเทศไทย ซึ่งกําลังก้าวผ่านจุดเปลี่ยนทางยุทธศาสตร์สําคัญ จากประเทศรายได้ปานกลางสู่ประเทศรายได้สูง จากฐานการผลิตสู่ฐานนวัตกรรม และจากผู้มีส่วนร่วมในภูมิภาค สู่การเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงของภูมิภาค (Regional Connector) รัฐบาลมุ่งมั่นวางรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืน เพื่ออนาคตของประเทศ ผ่านแนวทาง “Quick Big Win” ซึ่งหัวข้อการประชุมในวันนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ซึ่งมุ่งเน้น 3 ด้านหลัก คือ การเชื่อมช่องว่างทางเศรษฐกิจ การสร้างโอกาสทางธุรกิจ และการมองไปข้างหน้าให้ไกลกว่าเดิม เพื่อร่วมกันกําหนดอนาคตที่ต้องการ

ประการแรก การเชื่อมช่องว่างทางเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ําว่า ‘การเติบโตที่แท้จริงต้องเริ่มจากประชาชน เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจจะไร้ความหมาย หากไม่เป็นการเติบโตที่ทุกคนมีส่วนร่วม และได้รับประโยชน์จากพลังของนวัตกรรม’ โดยรัฐบาลเปิดตัวโครงการสําคัญ คือ โครงการคนละครึ่ง เพื่อลดภาระค่าครองชีพ กระตุ้นการใช้จ่าย และส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล

นอกจากนี้ รัฐบาลได้ลงทุนในการพัฒนาทักษะใหม่ (Reskilling) และส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัล โดยปัจจุบันมีชาวไทยกว่า 5 แสนคน เข้าร่วมการอบรมในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีสีเขียว ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะช่วยเปิดโอกาสให้คนไทยจํานวนมากสามารถมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความรู้และนวัตกรรม

ประการที่สอง การสร้างโอกาสทางธุรกิจ นายกรัฐมนตรีย้ําว่า ‘การเสริมพลังให้กับประชาชนต้องควบคู่ไปกับการเสริมพลังให้ภาคธุรกิจที่เป็นฐานสําคัญของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นกําลังหลักของเศรษฐกิจไทย’ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุน แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และพัฒนาระบบสินเชื่อให้โปร่งใสและเข้าถึงได้ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมเร่งขับเคลื่อนโครงการ “SME Reboot and Go Digital” เพื่อช่วยผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 200,000 ราย ให้สามารถใช้เครื่องมือออนไลน์เข้าถึงการตลาดดิจิทัล และระบบ e-payment ขยายฐานลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เช่น การเชื่อมโยงระบบ PromptPay ของไทย กับระบบ PayNow ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งแรกในอาเซียน สนุบสนุนการทําธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยนายกรัฐมนตรีย้ําว่า นี่คือแนวทางที่ทําให้มั่นใจได้ว่า “จะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจต้องปรับกฎระเบียบให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่ทําธุรกิจได้ง่าย มีกติกาชัดเจน และสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างยั่งยืน โดยไทยมีเป้าหมายที่จะการเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ภายในปี 2573 เพื่อยกระดับธรรมาภิบาล การกํากับดูแลดิจิทัล และความโปร่งใสของภาครัฐให้เทียบเท่าสากล ทั้งนี้ รัฐบาลได้เริ่มกระบวนการปฏิรูปการบริหารภาครัฐ ลดขั้นตอนราชการ ส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ดึงดูดการลงทุน และสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งรวมถึงความเชื่อมั่นในโลกออนไลน์ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีสนับสนุนความร่วมมือระดับภูมิภาคและระดับโลก ในการรับมืออาชญากรรมไซเบอร์และการหลอกลวงออนไลน์

ประการสุดท้าย การมองไปข้างหน้าให้ไกลกว่าเดิม เพื่อร่วมกันกําหนดอนาคตที่ต้องการ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยต้องมองไปข้างหน้าให้ไกลกว่าปัจจุบันและพรมแดน เพื่อรักษาความสามารถทางการแข่งขัน มุ่งให้ไทยอยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมและความร่วมมือใหม่ ๆ ที่จะกําหนดอนาคตของการเติบโต โดยรัฐบาลร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนําระดับโลก เช่น Tesla, BYD, Foxconn, Google Cloud, Amazon Web Services, Huawei Cloud และ Microsoft เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศ รวมถึงลงทุนในโครงข่าย 5G ครอบคลุมร้อยละ 85 ของประชากร ระบบ Digital ID และสายเคเบิลใต้น้ําเชื่อมไทยกับศูนย์กลางในเอเชีย

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังขับเคลื่อนนโยบายความยั่งยืนและการเป็นผู้นําด้านภูมิอากาศ มองการแก้ปัญหาโลกร้อนเป็นโอกาสในการสร้างงาน ดึงดูดการลงทุน และขยายขอบเขตการเติบโต บริษัทไทย เช่น PTT และ SCG ลงทุนในไฮโดรเจนสีเขียวและวัสดุคาร์บอนต่ํา ขณะที่พันธมิตรระดับโลก เช่น BMW และ Toyota ขยายระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ส่งเสริมตลาดคาร์บอน การเกษตรยั่งยืน และกลไกการเงินสีเขียว ซึ่งสนับสนุนไทยในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 และความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ําว่า ทุกความพยายามของรัฐบาลทั้งหมดนี้ คือการสร้าง “สะพาน” เชื่อมผู้คนผ่านโอกาสและการมีส่วนร่วม เชื่อมเศรษฐกิจผ่านการค้าและนวัตกรรม เชื่อมโยงการทํางานของวันนี้กับอนาคตที่ต้องการ โดยการประชุม CEO Summit ในวันนี้ ซึ่งมุ่งใช้ภาคธุรกิจเป็น “สะพานแห่งความร่วมมือ” ที่ไม่เพียงสร้างกําไร แต่ยังสร้างความก้าวหน้า

นายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้ายว่า ไทยเปิดกว้างและพร้อมทํางานร่วมกับทุกภาคี เพื่อแปรเป้าหมายให้เป็นการลงมือปฏิบัติ โดยจะร่วมกันรักษาความเปิดกว้างของห่วงโซ่อุปทานโลก สนับสนุนระบบพหุภาคีที่ตั้งอยู่บนกติกา เพื่อสร้างความเป็นธรรม ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน พร้อมเน้นย้ําว่า “ความมั่งคั่งที่ที่ทุกสามารถเข้าถึงแบ่งปันได้ คือความมั่งคั่งที่ยั่งยืน”

ภายหลังนายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาเสร็จสิ้น ผู้รับฟังในหอประชุมต่างตบมือให้กับนายกรัฐมนตรี จากนั้น ผู้จัดงานได้มอบช่อดอกไม้ และผู้เข้าร่วมงานต่างห้อมล้อมพูดคุยและขอถ่ายภาพกับนายกรัฐมนตรี

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

ปธน.สี กล่าวสปีชเอเปค ให้คํามั่นจีนมุ่งปกป้องการค้าเสรี

31 ต.ค. 2568 16:11 26 views

ข่าว

สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ แสดงความเสียพระราชหฤทัยพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

31 ต.ค. 2568 15:34 44 views

ข่าว

คมนาคม-กทม. เตรียมรถโดยสารดูแลประชาชนในการเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ

31 ต.ค. 2568 15:26 37 views

ข่าว

ร่วม “ลอยกระทงอย่างพอเพียง รําลึกพระมหากรุณาธิคุณ”

31 ต.ค. 2568 15:25 37 views

ข่าว

“จุลพันธ์”ประกาศนํา “พท.”ชนะเลือกตั้ง พร้อมเผยรายชื่อ 29 กก.บห. ชุดใหม่

31 ต.ค. 2568 15:01 76 views

ข่าว

ทบ.-ทอ. ร่วมมือ พัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวในเขตทหาร สนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ

31 ต.ค. 2568 14:29 43 views

ข่าว

“กองทัพไทย”เดินหน้าสร้างรั้วชายแดนเริ่มที่จันทบุรีเฟสแรก 1.3 กม.

31 ต.ค. 2568 14:10 51 views

ข่าว

ด่วน!มติเพื่อไทย 354 เสียง เลือก'จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์' แบเบอร์นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่

31 ต.ค. 2568 12:25 171 views

ข่าว

“วีระ” ประกาศขีดเส้นตาย บ่ายโมงตรง หากไล่เขมรออกไม่ได้ เตรียมแบคโฮ เข้ารื้อเอง

31 ต.ค. 2568 11:56 126 views

ข่าว

ประเสริฐ พร้อมนั่งเลขาฯ พท. เผยสเปกหัวหน้าพรรคคนใหม่ต้องเชื่อมรอยต่อคนหลายต่อ

31 ต.ค. 2568 11:32 77 views

ข่าว

รัฐ เปิดโครงการ “เช็กอิน ฟิน ว้าว” อัดฉีดเที่ยวชายแดน  7 จังหวัด คาดเงินสะพัด 90 ล้าน

31 ต.ค. 2568 11:20 126 views

ข่าว

พท.จัดประชุมใหญ่เลือกหัวหน้าคึกคัก "จุลพันธ์-จาตุรนต์" ชิงดํา

31 ต.ค. 2568 11:17 101 views

ข่าว

นายกฯร่วมประชุมเอเปค ผลักดันเอเปคที่เปิดกว้าง ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และมุ่งสู่อนาคต

31 ต.ค. 2568 11:05 104 views

ข่าว

กทม. แจ้งเส้นทางถวายสักการะพระบรมศพ

31 ต.ค. 2568 10:58 83 views

ข่าว

นายกฯหารือนายกฯแคนาดา แคนาดาหวังให้ไทยเป็นฮับด้านอาหาร จับมือแก้สแกมเมอร์

31 ต.ค. 2568 10:51 84 views

ข่าว

รัฐบาล สยบ ดราม่า "คนละครึ่งพลัส" ไม่มีขั้นต่ําต่อวัน ใช้ยาวถึงสิ้นปี 68

31 ต.ค. 2568 10:44 94 views