วันอังคารที่ 26 สิงหาคม 2568
26 ส.ค. 2568 09:43 | 79 view
@pracha
'บิ๊กเต่า'ร่อนจดหมายถึง'ภูมิธรรม' เรียกร้องขอความเป็นธรรม ทบทวนโผตํารวจ
วานนี้ 25 สิงหาคม 2568 เพจเฟซุบ๊ก "เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand" โพสต์ข้อความระบุว่า บิ๊กเต่า - พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.ทําหนังสือ ขอความเป็นธรรมในการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตําแหน่งสูงขึ้นและโยกย้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียน ถึง บิ๊กอ้วน - ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ/ประธาน ก.ตร.
สําหรับรายละเอียดหนังสือ มีใจความว่า “ข้าพเจ้า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ได้รับการประกาศลําดับอาวุโสข้าราชการตํารวจระดับ รอง ผบช. ประเภทตําแหน่งทั่วไป ให้เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตําแหน่งสูงขึ้นเป็นผู้บัญชาการ โดย สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ตร.)ได้แต่งตั้งคณะทํางานจัดทําร่างหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณาแต่งตั้งฯ โดยให้ทุกหน่วยงานร่วมกันได้แสดงความคิดเห็น และมีหนังสือตามสิ่งที่ส่งด้วย 2 กําหนดหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อใช้ประกอบการจัดทําข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตําแหน่งสูงขึ้นเพื่อจัดลําดับผู้เหมาะสมเลื่อนตําแหน่งสูงขึ้นเป็นรูปธรรมตรวจสอบได้และเป็นมาตรฐานเดียวกัน
โดยหลักเกณฑ์นี้มุ่งหวังให้เป็นเครื่องมือสําคัญที่จะช่วยให้สามารถพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตํารวจที่มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท และเสียสละ ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเต็มกําลังความสามารถ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และการบริหารราชการขององค์กร ตลอดจนประชาชนและสังคมต่อไป เป็นไปตามเจตนารมณ์เหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ตํารวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ที่วางหลักประกันไว้ว่า ข้าราชการตํารวจจะได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งและโยกย้าย การพิจารณาบําเหน็จความชอบตามระบบคุณธรรมที่ชัดเจนการพิจารณาแต่งตั้ง และโยกย้ายต้องคํานึงถึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน เพื่อให้ข้าราชการตํารวจสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามวิชาชีพได้อย่างมีอิสระ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคคลใด มีประสิทธิภาพและภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตน และตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3 กําหนดให้ข้าราชการตํารวจผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกนายจัดทําผลการปฏิบัติงาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดทําข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตําแหน่งสูงขึ้นและประกอบการพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้ง ของคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตํารวจระดับ ตร.
แต่ต่อมาตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 4 ผบ.ตร.มีบันทึกมอบหมายให้ สกพ.แจ้งหน่วยต่างๆ ชะลอการดําเนินการใช้หลักเกณฑ์ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 โดยให้เหตุผลในทํานองว่า มีกรอบระยะเวลาที่กําหนดอย่างกระชั้นชิด ซึ่งจะต้องมีการสัมภาษณ์ผู้รับการประเมินในรูปคณะกรรมการ รวมถึงมีผู้ที่มีคุณสมบัติที่ที่จะต้องเข้ารับการสัมภาษณ์เป็นจํานวนมาก อาจส่งผลให้ไม่เกิดความละเอียดรอบคอบ และอาจกระทบต่อการพิจารณาจัดทําผู้เหมาะสมในภาพรวมได้
ต่อมาข้าพเจ้าได้รับทราบจากสื่อมวลชนและข่าวสารภายในของข้าราชการตํารวจว่าคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตํารวจระดับ ตร.ที่มี ผบ.ตร.เป็นประธาน ได้ร่วมกันประชุมพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตํารวจระดับ รอง ผบ.ตร.และ จตช.ลงมาถึง ผบก. และมีข้าราชการตํารวจจํานวนหลายนาย ไม่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ประชาชนและสังคม อย่างชัดแจ้งกว่านายอื่น ได้รับการพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งให้เลื่อนตําแหน่งสูงขึ้น หรือสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปสู่ตําแหน่งที่ดีขึ้น เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ(ก.ตร.) ให้ความเห็นชอบ
ซึ่งบางนายเมินเฉยต่อนโยบายสําคัญของรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามยาเสพติดและการจัดการผู้มีอิทธิพล ย่อมเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า การพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปตามอําเภอใจใช้ดุลยพินิจไม่ชอบ ไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม ขาดความเสมอภาค ไม่สมเหตุสมผล และเลือกปฏิบัติเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่ไม่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ประชาชนและสังคม ได้รับการพิจารณาคัดเลือก และแต่งตั้งเลื่อนตําแหน่งสูงขึ้นหรือสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปสู่ตําแหน่งที่ดีกว่าเดิม
การกระทําดังกล่าว จึงขัดหรือแย้งกับเจตนารมณ์เหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ตํารวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 เป็นอย่างยิ่ง เสมือนเป็นระบบอุปถัมภ์เชิงผลประโยชน์ นอกจากนี้ยังทราบว่า ในระดับรองผู้บัญชาการที่ดํารงตําแหน่ง 2 ปีตามเกณฑ์ ซึ่งมีจํานวน 38 นายคิดเป็นร้อยละ 45 ของผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และต้องมีสิทธิได้รับการพิจารณาในสัดส่วนของผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แต่กลับถูกตัดออก ไม่ได้นําผลการปฏิบัติงานมาประกอบการพิจารณา แต่อย่างใด
ข้าพเจ้าตระหนักดีกว่า คณะกรรมการข้าราชการตํารวจ (ก.ตร.) มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการบริหารงานบุคคลของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม เพื่อให้ข้าราชการตํารวจมีความภาคภูมิใจ และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเที่ยงธรรม
หากการพิจารณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกําหนดไว้และสิ่งที่ส่งมาด้วย 2 ย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างขวัญและกําลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานทกคนที่มุ่งมันสร้างผลงานที่มีคุณค่า ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรมีกําลังพลที่มีคุณภาพและความสามสามารถ และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง ในทางกลับกันหากพิจารณาเพียงระบบอาวุโส หรือระยะเวลาการดํารงตําแหน่งเป็นหลักเพียงอย่างเดียว โดยละเลยความรู้ความสามารถและผลการปฏิบัติที่ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ ย่อมจะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานหมดขวัญกําลังใจในการทํางาน ซึ่งในระยะยาวอาจบั่นทอนประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร และทําให้เจตนารมณ์ในการปฏิรูปตํารวจไม่สัมสัมฤทธิ์ผลได้
หนังสือขอความเป็นธรรมฉบับนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการร้องขอในนามส่วนตัว แต่เป็นการยื่นเรื่องที่ตั้งอยู่บนหลักการอันชอบธรรม เพื่อปกป้องเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และส่งเสริมระบบคุณธรรมที่ถูกบัญญัติไว้ จึงขอให้คณะกรรมการข้าราราชการตํารวจ(ก.ตร.) โปรดพิจารณาดําเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมาย กฎ ระเบียบและคําสั่งที่กําหนดเป็นลายลักษณ์อักษรไว้อย่างเคร่งครัด โดยให้โอกาสข้าราชการตํารวจทุกนายที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และมีผลการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ประชาชน และสังคมซึ่งเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดแจ้ง ได้รับการพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม อันจะส่งเสริมกําลังใจและประสิทธิภาพการทํางานขององศ์กรตํารตํารวจโดยรวมต่อไป”
ข่าว
26 ส.ค. 2568 12:47 13 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 12:37 41 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 11:43 61 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 11:36 64 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 11:21 69 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 11:15 83 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 10:14 118 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 10:01 76 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 09:50 96 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 09:46 68 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 09:43 80 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 09:35 85 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 09:25 114 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 09:16 93 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 09:04 82 views
ข่าว
26 ส.ค. 2568 08:47 116 views