วันที่ 24 สิงหาคม 2568
24 ส.ค. 2568 15:54 | 121 view
@pracha
“ภูมิธรรม” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ – กทม. ติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อน คาจิกิ (KAJIKI) เตรียมพร้อมดูแลช่วยประชาชนตลอด 24 ชม.
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยถึงสถานการณ์พายุโซนร้อนกําลังแรง “คาจิกิ (KAJIKI)” ว่ากระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามและประเมินร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าขณะนี้พายุโซนร้อนกําลังแรง “คาจิกิ (KAJIKI)” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน อยู่ห่างจากเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม ประมาณ 570 กิโลเมตร กําลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. และมีแนวโน้มจะมีกําลังแรงขึ้นได้อีกเมื่อเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย และจะอ่อนกําลังลงตามลําดับหลังจากเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนช่วงวันที่ 25-26 ส.ค. จากอิทธิพลพายุดังกล่าวคาดว่า จะทําให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรงบริเวณภาคอีสานตอนบน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค.
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดในฐานะผู้อํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานครได้ประสานการทํางานและติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมทั้งมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ตั้ง War room ร่วมกับทุกจังหวัด เพื่อประเมินสถานการณ์ และหากประเมินแล้วพบว่าสถานการณ์จะทวีความรุนแรงในพื้นที่ใด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อํานวยการจังหวัด สั่งการนายอําเภอในฐานะผู้อํานวยการอําเภอ
รวมถึงผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะผู้อํานวยการท้องถิ่น ดําเนินการตามแผนเผชิญเหตุ ซึ่งได้มีการทบทวนและซักซ้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย การดูแลอาหารการกิน ปัจจัย 4 สําหรับพื้นที่ที่มักพบกับสถานการณ์น้ําท่วมซ้ําซาก ขอให้ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งการขุดลอกและกําจัดสิ่งกีดขวางทางน้ํา สําหรับพื้นที่ที่มีการติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ หรือวัตถุที่มีความสูงตามกฎหมายว่าด้วยอาคาร ให้ประสานกับเจ้าของตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง หากพบว่ามีโอกาสได้รับผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อประชาชน ให้เร่งทําการรื้อถอน
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ หากเกิดฝนตกหนักหรือฝนตกสะสมปริมาณมาก อาจส่งผลกระทบทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลัน และน้ําป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ําไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ให้ประสานกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้สื่อสารสร้างการรับรู้ผ่านหอกระจายข่าวและทุกช่องทางสื่อสารของหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง และปฏิบัติตนตามคําแนะนําของภาครัฐ รวมทั้งสร้างความรับรู้ระมัดระวังข่าวปลอมที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ไม่ประสงค์ดีในพื้นที่ด้วย
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ในส่วนจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเล ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีคลื่นสูงให้ดําเนินการตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งการปักธงสัญลักษณ์ห้ามนักท่องเที่ยวหรือประชาชนเล่นน้ํา การพิจารณาเดินเรือทั้งเรือโดยสาร เรือประมง และหากแนวโน้มสถานการณ์รุนแรง และพบว่าได้มีเรือออกไปจากฝั่งแล้ว ขอให้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นําพาเรือเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งดําเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทุกพื้นที่ ในการดูแลป้องกันความปลอดภัยจากสาธารณภัยอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนต้องการติดตามข้อมูลข่าวสารสามารถสอบถามข้อมูลหรือขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าว
24 ส.ค. 2568 18:22 101 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 15:54 122 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 15:45 103 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 14:46 110 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 14:40 146 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 13:29 169 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 13:23 143 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 13:06 211 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 12:01 125 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 11:53 195 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 11:51 125 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 11:26 174 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 11:16 169 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 11:09 135 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 11:09 144 views
ข่าว
24 ส.ค. 2568 10:53 83 views