วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568
14 มี.ค. 2568 09:19 | 937 view
@pracha
เตือนแจกเงินหมื่นกลุ่มอายุ 16-20 ปี ซื้อเหล้า-บุหรี่ได้ ขัดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กหรือไม่?
วันที่ 14 มีนาคม 2568 นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมาย และอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ผมเห็นข่าวที่รัฐบาลจะแจกเงินหมื่นดิจิทัลเฟสสาม โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและเยาวชนอายุ 16-20 ปี ซึ่งเงื่อนไขการใช้เงินมีช่องโหว่ที่ผู้ใช้เงินสามารถนำเงินไปซื้อเหล้าหรือบุหรี่ในร้านชำเล็ก ๆ ได้ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าแม้กฎหมายจะห้ามไม่ให้ขายเหล้าและบุหรี่กับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปี แต่ก็บังคับใช้เฉพาะกับร้านเจ้าใหญ่ ๆ เท่านั้น ส่วนร้านชำเล็ก ๆ ที่กระจายตัวอยู่ตามชุมชน ก็เป็นที่รู้กันดีว่าในทางปฏิบัติรัฐตรวจสอบได้ยากและกฎหมายก็มักบังคับไปไม่ถึง ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่ผู้ที่ได้สิทธิตรงนี้จะนำเงินไปซื้อสิ่งเหล่านี้มาเสพซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรกับตัวเด็กและเยาวชน มีแต่โทษ
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on Rights of the Child) ซึ่งไทยเป็นภาคี มีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 ข้อ 1 กำหนดว่า เด็ก หมายถึงมนุษย์ทุกคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี และ ข้อ 3.1 ระบุว่า ในในการกระทำทั้งปวงที่เกี่ยวกับเด็ก ไม่ว่าจะกระทำโดยสถาบันสังคมสงเคราะห์ของรัฐหรือเอกชน ศาลยุติธรรม หน่วยงานฝ่ายบริหาร หรือองค์กรนิติบัญญัติ ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นลำดับแรก ส่วนข้อ 6.กำหนดว่า 1) รัฐภาคียอมรับว่าเด็กทุกคนมีสิทธิติดตัวที่จะมีชีวิต และ 2) รัฐภาคีจะประกันอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ให้มีการอยู่รอดและการพัฒนาของเด็ก
ผมจึงอยากตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่า การที่รัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายบริหารแจกเงินเด็ก ๆ และเปิดช่องให้เอาเงินตรงนี้ไปซื้อเหล้ากับบุหรี่ได้ ถือว่าได้คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นลำดับแรกหรือไม่ ตามข้อ 3.1 และรัฐบาลกำลังบั่นทอนชีวิตเด็กและเยาวชนในทางอ้อม และบั่นทอนการอยู่รอดและการพัฒนาของเด็ก ซึ่งขัดกับข้อ 6 ของอนุสัญญาสิทธิเด็กหรือไม่
ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลมีทางเลือกมากมายในการใช้เงินเพื่อส่งเสริมการมีชีวิต การอยู่รอดและการพัฒนาของเด็ก เช่น การให้ทุนการศึกษา การให้ทุนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุคปัญญาประดิษฐ์ หรือการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนทำงานพาร์ทไทม์โดยได้ค่าแรงสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ โดยเอาเงินตรงนี้ไปชดเชยให้ผู้ประกอบการที่จ้างเด็กและเยาวชนเหล่านี้ทำงาน เพื่อฝึกทักษะให้พร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงานเมื่อจบการศึกษา แต่รัฐบาลกลับเลือกวิธีหว่านแจกเงินละลายแม่น้ำแบบที่คุ้นชิน แสดงว่ารัฐบาลไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของเด็กสูงสุด ซึ่งขัดกับอนุสัญญาข้างต้น อย่างชัดเจน ผมจึงอยากให้รัฐบาลคิดให้ดี ก่อนที่จะไปอับอายบนเวทีโลกครับ ด้วยความปรารถนาดี
ข่าว
23 มี.ค. 2568 17:41 209 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 16:31 201 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 16:26 197 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 14:38 259 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 14:30 193 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 11:06 224 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 11:01 353 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 10:59 220 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 10:54 245 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 10:46 199 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 10:43 203 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 10:29 280 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 10:20 312 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 10:09 247 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 10:03 240 views
ข่าว
23 มี.ค. 2568 09:41 284 views