×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันที่ 20 เมษายน 2568

?>

ชำแหละนโยบายเศรษฐกิจ‘เพื่อไทย’ล้มเหลว เอา‘ยาพิษ’มาหลอกขายเป็น‘ยาวิเศษ’

 25 ธ.ค. 2567 09:42 | 1619 view

 @pracha

Facebook X Share

ชำแหละนโยบายเศรษฐกิจ‘เพื่อไทย’ล้มเหลว เอา‘ยาพิษ’มาหลอกขายเป็น‘ยาวิเศษ’

25 ธันวาคม 2567 รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “นโยบายเศรษฐกิจของเพื่อไทยที่ล้มเหลว” มีเนื้อหาดังนี้... นโยบายเศรษฐกิจของเพื่อไทยที่ล้มเหลว

นอกจากกรณี 30 บาทรักษาทุกโรคที่กำลังจะ“ฆ่า” ระบบสาธารณสุขไทยแล้ว

การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาท/วัน หรือ การแจกเงินหมื่น ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของความล้มเหลวด้านนโยบายเศรษฐกิจของพรรคการเมืองที่ชูนโยบายประชานิยม

เพราะได้แต่ “ชู” แต่ทำจริงแล้ว “เหี่ยว”!!

นโยบายแจกเงินหมื่นอย่างถ้วนหน้าสำหรับคน 52 ล้านคนก็เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปแล้วว่า “เหี่ยว” ไปต่อไม่ได้

การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาท/วันก็เช่นกัน คณะกรรมการไตรภาคีที่รับผิดชอบขึ้นค่าจ้างก็ปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นเพียง 400 บาทสำหรับบางจังหวัดเท่านั้น

ไม่ได้ถ้วนหน้าและไม่ได้ทุกคน แม้แต่ตัวแทนฝั่งลูกจ้างก็ยังยอมรับมตินี้

ทำไมนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทยที่ใช้หาเสียงจึงล้มเหลวเละเทะไม่เป็นท่าเช่นนี้?

คำตอบง่าย ๆ และตรงไปตรงมาที่สุดก็คือ มันเอาไว้ใช้ “ชู” เพื่อหาเสียงเท่านั้น โดยที่มันผิดธรรมชาติ ขัดกับความเป็นจริง และไม่เป็นไปตามหลักวิชาการที่สมควรในทางเศรษฐศาสตร์

.........

นโยบายขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ กลายเป็นเรื่องนโยบาย(บีบบังคับคนอื่นให้) เพิ่มรายได้ โดยที่คนบังคับไม่ได้ช่วยออกเงินเลยแม้แต่บาทเดียว!!

พรรคเพื่อไทยมี “ดอกเตอร์” เต็มพรรคมิใช่หรือ แถมยังอวดฉลาดทั้งพรรคก็ว่าได้  แต่จะซื่อสัตย์กับสัมมาอาชีวะของตนเองหรือฉลาดจริงไม่นั้น คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ทฤษฎีมันว่าไว้ว่า การจ้างงานและค่าจ้างมันสัมพันธ์กับมูลค่าผลิตผลที่แรงงานทำ หากยังล้างชามได้เท่าเดิมแต่จะบังคับให้นายจ้างขึ้นค่าจ้าง ถ้าไม่มีทางเลือกแบบนี้นายจ้างก็จะลดคน แล้วแบบนี้มันจะสำเร็จไปได้อย่างไร?

ที่ฝั่งนายจ้างและเสียงข้างมากในคณะกรรมการไตรภาคีเขาค้านก็ถูกต้องแล้ว

เพราะเขาไม่อยากลดคน มีแต่ฝั่งนักการเมืองนี้แหละที่เข้าไป “ชู” ในประเด็นที่ทำไม่ได้เอามาหาเสียง ทั้งที่ตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าทำไม่ได้

ส่วนนโยบายแจกเงินหมื่น คงไม่ต้องพูดให้มากความอีกแล้ว เพราะมันล้มเหลว และผิดกับที่หาเสียงตั้งแต่ต้น

จะแจกเงินหมื่นเป็นเงินดิจิตอลก็ทำไม่ได้ จะแจกเป็นเงินกระดาษก็หาแหล่งเงินมาไม่ได้

ถ้าคิดว่านโยบายนี้มันดีทำไมไม่กล้าขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15%เพื่อมาใช้ทำนโยบายนี้เล่า ?

ในที่สุดพรรคเพื่อไทยก็ต้องมากลืนน้ำลายที่ถ่มรดฟ้าชโลมเลียนโยบายนี้ให้มันลื่นไหลต่อไปได้ด้วยน้ำลายตนเอง

นโยบายแจกเงินหมื่นแบบดิจิตอลในความเป็นจริงจึงกลายเป็น เรื่องแจกเป็นเงินกระดาษ แจกได้เฉพาะกลุ่ม แจกแบบไม่มีเงื่อนไข

ลมพายุที่อ้างคำโตจึงเป็นได้เพียง “ลมผาย” ใต้ก้นเท่านั้น

.......

เหตุก็เพราะพรรคเพื่อไทยมองแต่เพียงสัดส่วนการบริโภคต่อ GDP ที่มีสูงถึงกว่าร้อยละ 60

ถ้า “ฝันเฟื่อง” คิดแต่ว่าถ้าเพิ่มรายได้จากเดิมได้อีกร้อยละ 10-15 ...การบริโภค/GDP ก็จะเพิ่ม GDPได้อีกร้อยละ 6-10

แต่หารู้ไม่ว่าการจะไปเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการบริโภคนี้ มันทำไม่ได้โดยง่ายด้วยการเพิ่มรายได้แต่เพียงลำพัง

การบริโภคมิได้ขึ้นอยู่กับ GDP หรือรายได้ในปัจจุบันแต่เพียงลำพัง หากแต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นอีกมาก เช่น รายได้ในอนาคตหรือรายได้ที่แท้จริง (ที่คาดว่าจะได้รับตลอดช่วงอายุการทำงาน) ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจบริโภคมากว่ารายได้ปัจจุบันเสียอีก

ดังนั้นพฤติกรรมการบริโภคจึงไม่เพิ่มจากการเพิ่มเงินหมื่นนี้ในปัจจุบันเพราะผู้บริโภค(ที่มีเหตุผล-rationale) ย่อมคาดการณ์ว่าในอนาคตรัฐจะต้องเก็บภาษีเพิ่มจากการเพิ่มเงินหมื่นนี้แน่ตอน

ในขณะที่การเพิ่มรายได้แบบหลอกตัวเองด้วยการบังคับขึ้นค่าจ้างจึงไม่ส่งผลอะไรต่อรายได้ที่จะนำมาบริโภคด้วยเช่นกัน

เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีดอก

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่คนเสียภาษีต้องออกมาเรียกร้อง “ไม่ยื่นแบบ ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง” เพื่อแก้ไขนโยบายประชานิยมแบบ "ล้างผลาญภาษี" ที่ต้นตอ

เพื่อไม่ให้นักการเมืองใช้นโยบายประชานิยมมาหาเสียงเข้าสภา

เอา “ยาพิษ” มาหลอกขายเป็น “ยาวิเศษ” กับประชาชนที่รู้ไม่เท่าทันเหมือนเช่นที่ พ่อ-ลูก คู่หนึ่งกำลังทำกับประเทศในขณะนี้

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

ลูกยางดาวรุ่งสาวไทย ชนะ เกาหลี ประเดิมศึกวอลเลย์บอลนัดพิเศษ

20 เม.ย. 2568 13:02 32 views

ข่าว

เรือนจำ‘อิตาลี’เริ่มเปิดห้องพิเศษ อนุญาตให้นักโทษใช้เวลา‘สวีท’ร่วมกับคู่ครองที่มาเยี่ยมได้

20 เม.ย. 2568 12:59 27 views

ข่าว

ฟาดเดือด! ‘อดีตสว.เสรี’อาย เสียดายเงิน‘กมธ.วุฒิฯ’ดูงานตปท. ชี้ควรออกเงินเอง

20 เม.ย. 2568 12:08 35 views

ข่าว

‘นายกรัฐมนตรี’เตรียมเยือนกัมพูชา ตามคำเชิญอย่างเป็นทางการ ในโอกาสฉลองความสัมพันธ์ 75 ปี 23 - 24 เมษายน นี้

20 เม.ย. 2568 12:05 37 views

ข่าว

นิด้าโพลชี้! ปชช.หนุนปรับ ครม.

20 เม.ย. 2568 11:23 53 views

ข่าว

“หมอตุลย์” ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงแพทยสภาจี้สอบจริยธรรมแพทย์ ปม“ทักษิณ”

20 เม.ย. 2568 11:20 38 views

ข่าว

เตือนภัยขนมมรณะ! ยาอีพันธุ์ใหม่ “ลาบูบู้” คร่าชีวิตแล้ว 2 ราย

20 เม.ย. 2568 11:15 49 views

ข่าว

ธนบุรี ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ไทยลีก 3 รับ 3 ล้าน

20 เม.ย. 2568 11:10 42 views

ข่าว

โซเชียลฮือฮา! เสาแห่งแสงโผล่ฟ้าเมืองภูเก็ต

20 เม.ย. 2568 10:20 71 views

ข่าว

ชาวอเมริกันรวมตัวต้านทรัมป์

20 เม.ย. 2568 10:11 77 views

ข่าว

ส่งท้าย ทรูสเตเดียม ทัพแข้งเทพ เปิดบ้าน เอาชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 3-0

20 เม.ย. 2568 10:04 53 views

ข่าว

กรมอุตุฯ เตือน! ไทยตอนบนเสี่ยงพายุฤดูร้อน

20 เม.ย. 2568 09:58 63 views

ข่าว

ปราสาทสายฟ้า บุกไปแพ้ ราชันมังกร 2-3 ทำให้อดกินเลือดมังกร ต้องไปลุ้นแชมป์ไทยลีก ในนัดสุดท้าย

20 เม.ย. 2568 09:10 66 views

ข่าว

ลมหายใจที่เดินทาง...ด้วยหัวใจของทุกคน 

19 เม.ย. 2568 16:46 244 views

ข่าว

ผลตรวจอาคารทั่วปท.กว่า9,000 แห่ง หลังแผ่นดินไหวใหญ่ 

19 เม.ย. 2568 16:42 136 views

ข่าว

‘ในหลวง‘ โปรดเกล้าฯให้ผู้แทนพระองค์ ไปในพิธีวางศิลาฤกษ์วิหารปฐมวนาราม

19 เม.ย. 2568 16:37 89 views