ราฟาเอล นาดาล อดีตนักหวดมือ 1 ของโลกชาวสเปนปิดฉากชีวิตการเป็นนักเทนนิสอาชีพแล้วหลังจาก สเปน พ่ายเนเธอร์แลนด์ 1-2 คู่ ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ เดวิส คัพ ไฟนัลส์

ย้อนไปเมื่อช่วงต้นเดือน ต.ค. นาดาล ประกาศว่า เจ้าตัวจะแขวนแร็กเกตทางการหลังจบศึก เดวิส คัพ ไฟนัลส์ ที่เมืองมาลากา ประเทศสเปน เนื่องจากฝืนร่างกายไม่ไหว

และเมื่อวันที่ 19 พ.ย. นาดาล ลงแข่งขันประเภทชายเดี่ยวคู่แรกให้ สเปน ในการดวลกับ ฟาน เดอ ซานด์ชูลป์ ของ เนเธอร์แลนด์ ในรอบก่อนรองชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวทว่าสุดท้ายเจ้าตัวพ่ายต่อ ซานด์ชูลป์ ไป 0-2 เซต 4-6, 4-6

ก่อนที่ในชายเดี่ยวคู่สอง คาร์ลอส อัลคาราซ มือ 3 โลก จะเอาชนะ ทัลลอน กรีกสปูร์ 7-6(0), 6-3 ตีเสมอให้ สเปน เป็น 1-1 ต้องไปวัดทีมเข้ารอบกันในประเภทชายคู่

ผลปรากฏว่า อัลคาราซ ที่จับคู่กับ มาร์เซล กราโนเยร์ส พ่ายให้คู่ของฟาน เดอ ซานด์ชูลป์ กับเวสลีย์ คูลฮอฟ ฉิวเฉียด 6-7(4), 6-7(3) ส่งผลให้ สเปน พ่ายไป 1-2 ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ
และส่งผลให้ นาดาล ต้องปิดฉากการเล่นเทนนิสอาชีพเป็นที่เรียบร้อยในวัย 38 ปีซึ่งเจ้าตัวกล่าวถึงความรู้สึกทั้งน้ำตาว่า “มีแชมป์ และสถิติอยู่ในนั้น แต่สิ่งที่ผมอยากให้คนจดจำมากที่สุดก็คือในฐานะคนดีจากหมู่บ้านเล็กๆ ใน มายอร์กา”

“ผมเป็นเพียงเด็กที่ทำตามความฝัน และทำงานหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อมาถึงจุดนี้ ผมบรรลุความฝัน และมากกว่าที่เคยคิดด้วยซ้ำ”

“แน่นอนว่าวันนี้เป็นวันที่เต็มไปด้วยอารมณ์ และผมรู้สึกประหม่าก่อนการแข่งขัน ผมพยายามอย่างเต็มที่ ผมพยายามสนุกและเล่นด้วยพลังงาน และทัศนคติที่ถูกต้อง”

ทั้งนี้ นาดาล ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของวงการหลังเคยขึ้นไปครองตำแหน่งมือ 1 โลกตั้งแต่ปี 2008 พร้อมทำสถิติคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ถึง 22 สมัยซึ่งเป็นสถิติดีที่สุดอันดับ 2 ตลอดกาล เป็นรองเพียง โนวัก โยโควิช ที่ทำได้ 24 สมัย

นอกจากนั้นแล้วเจ้าตัวยังได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชาแห่งคอร์ตดิน” เนื่องจากเจ้าตัวประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ในการเล่นคอร์ตดังกล่าวมาอย่างมากมาย โดยเฉพาะในแกรนด์สแลม เฟรนช์ โอเพ่น ที่เจ้าตัวซิวโทรฟี่มาครองได้ถึง 14 สมัย

ส่วนสถิติการแข่งขัน นาดาล ที่เทิร์นโปรตั้งแต่ปี 2001 ชนะ 1080 แมตช์ และแพ้ 228 แมตช์ รวมถึงคว้าแชมป์รวมทั้งหมดในอาชีพอยู่ที่ 92 รายการ พร้อมมีเหรียญทองโอลิมปิกประเภทเดี่ยว และชายคู่อย่างละ 1 สมัยด้วย