วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2568
20 พ.ย. 2567 10:25 | 1222 view
@pracha
ผู้คนนับหมื่นชุมนุมทั่วเมืองหลวงของนิวซีแลนด์ เพื่อต่อต้านการผลักดันของกลุ่มอนุรักษนิยมในการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาก่อตั้งประเทศ
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2567 กล่าวว่า เสียงร้อง 'ฮากา' ของชาวเมารีพื้นเมืองดังขึ้นทั่วเมืองหลวงของนิวซีแลนด์ ขณะที่ผู้คนนับหมื่นชุมนุมต่อต้านการผลักดันของกลุ่มอนุรักษนิยมในการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาก่อตั้งประเทศ
ตำรวจกล่าวว่าผู้ประท้วงมากกว่า 35,000 คนหลั่งไหลเข้าสู่กรุงเวลลิงตัน, ปิดกั้นถนนที่พลุกพล่าน และเดินขบวนแห่อย่างคึกคักเพื่อมุ่งหน้าสู่รัฐสภา
ชายเปลือยอกสวมเสื้อคลุมขนนกแบบดั้งเดิม, นักขี่ม้าโบกธงเมารีสีแดง-ขาว-ดำ พร้อมด้วยเด็กๆ เดินขบวนเคียงข้างผู้ใหญ่ที่สักลาย 'โมโก' ของชาวเมารีเต็มหน้าและถืออาวุธไม้ที่ใช้ในพิธีกรรม
การประท้วงได้ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วนิวซีแลนด์ หลังจากพรรคเล็กในรัฐบาลผสมอนุรักษนิยมนำเสนอร่างกฎหมายเพื่อกำหนดนิยามใหม่ของสนธิสัญญาไวตังหงิ ค.ศ. 1840
แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะแทบไม่มีโอกาสผ่าน แต่การนำเสนอเพียงครั้งเดียวก็จุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของนิวซีแลนด์ในรอบหลายทศวรรษ
หลังการนำเสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฮานา-ราวิตี ไมปี-คลาร์ก ส.ส. พรรคเมารีวัย 22 ปี ลุกขึ้นยืนในห้องประชุม, ฉีกร่างกฎหมายออกเป็นสองส่วน และเต้นฮากา เพื่อประท้วงความเคลื่อนไหวของกลุ่มอนุรักษนิยม
เธอเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ประท้วงที่รวมตัวกันบนสนามหญ้าหน้าอาคารรัฐสภารูปรังผึ้งของนิวซีแลนด์เมื่อวันอังคาร
"ดิฉันอาจถูกพักงานเป็นเวลา 24 ชั่วโมงและไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าไปในประตูรัฐสภา แต่ในวันรุ่งขึ้น ดิฉันก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าบันไดพร้อมกับคนนับแสนคน, เดินขบวนโดยเชิดหน้าชูตา และโบกธงด้วยความภาคภูมิใจ"
"พวกเราคือผู้สร้างกษัตริย์ พวกเราคือประชาชนผู้มีอำนาจอธิปไตยของดินแดนแห่งนี้ และโลกกำลังเฝ้าดูพวกเราอยู่ที่นี่" ส.ส. หญิงกล่าว
นักวิจารณ์หลายคนประณามร่างกฎหมายฉบับนี้ รวมถึงทนายความที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดบางคนของนิวซีแลนด์ก็มองว่าร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะลิดรอนสิทธิที่ตกลงกันมายาวนานจากชาวเมารีจำนวน 900,000 คนของประเทศ
ศูนย์กลางของเสียงประท้วงคือเดวิด ซีเมอร์ รัฐมนตรีจากพรรคเสรีนิยมซึ่งเป็นพันธมิตรรายย่อยในรัฐบาลผสม
ซีเมอร์ได้ออกมากล่าวโจมตีนโยบายปฏิบัติการเชิงบวกที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือชาวเมารีซึ่งมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร, อยู่ในความยากจน หรือติดคุก โดยเขาต้องการให้ยกเลิกสิทธิพิเศษเหล่านี้
นายกรัฐมนตรีคริสโตเฟอร์ ลักสันได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายของซีเมอร์ ซึ่งหมายความว่าร่างกฎหมายนี้แทบจะล้มเหลวเมื่อต้องลงมติในรัฐสภา
ทั้งนี้ สนธิสัญญาไวตังหงิซึ่งถือเป็นเอกสารก่อตั้งประเทศ ได้รับการลงนามในปี ค.ศ. 1840 เพื่อนำสันติภาพมาสู่ผู้นำชาวเมารี 540 คนและกองกำลังอาณานิคมอังกฤษ
หลักการของสนธิสัญญาในปัจจุบันสนับสนุนความพยายามในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างชาวพื้นเมืองและชาวนิวซีแลนด์ที่ไม่ใช่ชาวพื้นเมือง และปกป้องผลประโยชน์ของชุมชนชาวเมารี นอกจากนี้วันครบรอบการลงนามสนธิสัญญาดังกล่าวยังถือเป็นวันหยุดประจำชาติอีกด้วย.
ข่าว
5 ก.ค. 2568 19:23 91 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 19:21 65 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 19:18 95 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 19:15 66 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 19:13 148 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 15:04 144 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 14:59 117 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 14:57 128 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 14:53 98 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 14:47 158 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 13:49 164 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 13:44 156 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 13:41 160 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 13:35 117 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 13:29 119 views
ข่าว
5 ก.ค. 2568 13:24 151 views