สถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ โดยเฉพาะอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังคงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่มากว่า 1 เดือนแล้ว กองทัพบกจึงได้ส่งกำลังพลจิตอาสาพระราชทานจากมณฑลทหารบกที่ 37 และกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 17 ลงพื้นที่ฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่บ้านไม้ลุงขน ตำบลแม่สาย ซึ่งได้รับผลกระทบจากมวลน้ำในแม่น้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมสูงกว่า 2 เมตรตั้งแต่วันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา

พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำติดแม่น้ำสาย ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนไทย-เมียนมา ทำให้มีปริมาณดินโคลนที่ไหลมากับมวลน้ำเข้าไปอุดตันในท่อระบายน้ำและในบ้านเรือนประชาชน บางบ้านดินโคลนทับถมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้ผู้ประสบภัยไม่สามารถทำความสะอาดบ้านเรือนได้เอง กำลังพลจากกองทัพบกจึงเร่งเข้าช่วยขุดดินโคลนทั้งในบ้านและนอกบ้าน แม้ว่าจะมีอุปสรรคจากฝนที่ตกลงมาเป็นระยะๆ ก็ตาม

ขณะนี้มวลน้ำจากภาคเหนือเริ่มเคลื่อนตัวลงไปยังภาคเหนือตอนล่างแล้ว แต่กองทัพบกยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมในการส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่อื่นๆ ทันทีที่จำเป็น

พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ได้ร่วมประชุมกับนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอแม่สาย โดยที่ประชุมสรุปความคืบหน้าของการฟื้นฟูในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้:

1.กรมการทหารช่าง ดำเนินการตรวจสอบความแข็งแรงของบิ๊กแบ็คที่ใช้ป้องกันน้ำและซ่อมแซมวัด โรงเรียน และบ้านของผู้ยากไร้
2.กองทัพเรือ ฟื้นฟูบ้านพักอาศัยในชุมชนหัวฝายเสร็จสมบูรณ์ 100% และที่ตลาดสายลมจอยเสร็จสิ้นแล้ว 60.61%
3.กองทัพบก ฟื้นฟูบ้านไม้ลุงขน ความก้าวหน้า 80.95%
4.กองทัพไทย ฟื้นฟูบ้านเกาะทราย ความก้าวหน้า 69.05%
5.กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการฟื้นฟูบ้านเหมืองแดงใต้และบ้านปิยะพรเรียบร้อยแล้ว 100% ส่วนบ้านเหมืองแดงฟื้นฟูแล้ว 98.97%
6.สภ.แม่สาย ให้ความช่วยเหลือในการขนย้ายดินและอำนวยความสะดวกในการทำงาน
7.การประปา ซ่อมแซมและตรวจสอบระบบประปาในพื้นที่ฟื้นฟู
8.การไฟฟ้า ตรวจสอบและฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในครัวเรือน

ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเฝ้าระวังและพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ อย่างเต็มที่