ทบ. บูรณาการร่วมทุกภาคส่วนเปิดปฏิบัติการฟื้นฟูแม่สาย พร้อมเตรียมกำลังชุดช่วยเหลือประชาชนรับมือพายุ “ซูลิก” 

        จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อ 17 ก.ย.67 ของ พลเอก เจริญชัย  หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกนั้น ผู้บัญชาการทหารบกได้มีความห่วงใยสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งปัจจุบันประสบปัญหาขาดแคลนระบบสาธารณูปโภคโดยเฉพาะน้ำประปา และบ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ล่าสุดวันนี้ (19 ก.ย.67) ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้หน่วยทหารเร่งระดมกำลังฟื้นฟูพื้นที่ อ.แม่สาย ภายหลังน้ำลด ให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว 

 สำหรับการดำเนินการในการฟื้นฟู อ.แม่สาย กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 3, มณฑลทหารบกที่ 37 และกรมการทหารช่าง พร้อมด้วย ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 บูรณาการร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, ฝ่ายปกครอง, หน่วยงานสาธารณสุข, สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ร่วมกันเข้าดำเนินการในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 

การติดตั้งระบบน้ำประปาสนาม โดย กองทัพบกได้จัดตั้งตำบลจ่ายน้ำประปาสนามใน 5 พื้นที่ ได้แก่ ชุมชนกู้ภัยสยาม, ชุมชนหมู่บ้านปิยะพร 2 พื้นที่ ได้แก่ บริเวณทางเข้าหน้าหมู่บ้าน และบริเวณสระหนองบัวสาธารณะ, ชุมชนไม้ลุงขน และชุมชนวัดเหมืองแดง รวมทั้งได้จัดกำลังพลกู้คืนสถานีระบบการส่งน้ำประปา สาขาแม่สายให้สามารถกลับมาผลิตน้ำได้ตามเดิม

ทางด้านการทำความสะอาดฟื้นคืนที่พักอาศัย, แหล่งชุมชน และสถานศึกษา รวมทั้งเส้นทางสัญจร มีแผนการดำเนินการในส่วนบ้านพักของประชาชนกลุ่มเปราะบางที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือในการเข้าเก็บเศษซากวัสดุ 306 หลัง และในกลุ่มประชาชนทั่วไป 5,161 หลัง ซึ่งหน่วยทหารได้สนับสนุนรถบรรทุกทหารในการขนย้ายนำเศษซากวัสดุไปไว้ในพื้นที่ที่ได้จัดไว้ ขณะเดียวกันได้มีการนำยุทโธปกรณ์ซึ่งระดมมาจากหน่วยทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 และกรมการทหารช่าง ได้แก่ รถเกลี่ย, รถตักบรรทุก, รถยนต์บรรทุก 10 ตัน แบบเทท้าย และรถราดน้ำ เข้าทำความสะอาด และกำจัดดินโคลนเพื่อเปิดเส้นทาง ตั้งแต่ถนนสายพหลโยธินหลัก ถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย และถนนสายรองจากพหลโยธิน, พื้นที่สาธารณะด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย และพื้นที่ตลาดสายลมจอย ให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

นอกจากนี้ ได้มีการวางบิ๊กแบ็คเสริมแนวพนังกั้นน้ำที่ชำรุดเสียหายในจุดต่าง ๆ ได้แก่ จุดสะพานมิตรภาพไทยเมียนมา, พื้นที่ตลาดสายลมจอย, ชุมชนเกาะทราย ซอย 12, ชุมชนเกาะทรายซอย 14 และสวนสาธารณะไม้ลุงขน เพื่อรับมือและป้องกันไม่ให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
 
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำที่อาจจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการประกาศเตือนเส้นทางพายุโซนร้อนซูลิกที่พัดผ่านประเทศไทยและทำให้เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ในช่วง 19 – 23 ก.ย.67 ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้ กองทัพภาคที่ 1, กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 4 รวมถึงหน่วยขึ้นตรงอื่น ๆ ดำเนินการตรวจสภาพความพร้อมของกองร้อยช่วยเหลือประชาชนและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีที่เกิดเหตุ  ซึ่งหากประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่าง ๆ สามารถติดต่อหน่วยทหารได้ตลอด 24 ชม.