วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567
30 ต.ค. 2566 14:30 | 5936 view
@thanthai
เคยคิดกันไหมว่าวันหนึ่งเราอาจจะไม่ได้กินอาหารในรูปแบบที่เราคุ้นตา ไม่ได้กินเนื้อจริง ผักจริงกันอีกต่อไป เพราะโลกหมุนไปมากเท่าไร ความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งอาหารก็ถูกพัฒนาขึ้นด้วย โดยเฉพาะโลกในยุคที่กำลังเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เทรนด์การบริโภคอาหารแบบยั่งยืน ยิ่งเพิ่มรูปแบบมากยิ่งขึ้น เพื่อหยุดการทำลายโลก
ถึงแม้นี่อาจไม่ใช่ประเด็นใหม่อะไร หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่าอาหารแห่งโลกอนาคตมาอยู่บ้าง แต่วันนี้จะมารวบรวมให้ดูว่า ในยุคที่มนุษย์ขับเคลื่อนความยั่งยืน เทรนด์อาหารแห่งโลกอนาคตเปลี่ยนไปอย่างไร กับ 5 อาหารที่กำลังจะกลายมาเป็นสิ่งทดแทนอาหารบางประเภท
1.เนื้อสัตว์จากพืช (Plant Based Meat)
หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นหูกับคำว่า Plant Based ซึ่งเจ้าตัว Plant based food ก็คือ อาหารที่ทำมาจากพืช ผัก ผลไม้ เห็ดต่างๆ รวมไปถึงธัญพืช และถั่ว ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ โดยเน้นใช้โปรตีนจากพืช เพื่อทำเป็นอาหาร แต่งสีธรรมชาติจากพืช เพื่อให้มีรสชาติและเนื้อสัมผัส ที่อร่อยใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริงๆ
ซึ่งกระแสการเกิด Plant Based มาจากการที่มนุษย์บริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มากเป็นสองเท่าในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา และไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลยแม้แต่น้อย รวมถึงตั้งแต่กระแสโรคระบาดทำให้คนหันมาสนใจบริโภคอย่างอื่นทดแทนเนื้อที่ไม่สมารถระบุที่มาได้ หนทางที่เป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้คือการหาสิ่งทดแทน Plant-based meat หรือ เนื้อที่ทำจากพืช จึงกลายมาเป็นตัวเลือกที่ดีและกำลังได้รับความนิยม
เพราะเนื้อจากพืชในอนาคตจะใช้เทคโนโลยีในการแต่งทั้งรส กลิ่นและเนื้อสัมผัสให้เหมือนกับเนื้อจริงๆ ที่จะทำให้ลืมกลิ่นโปรตีนเกษตรแบบเดิมๆ ไปได้เลย
2.3D Printing Food เทคโนโลยีการพิมพ์อาหาร 3 มิติ
สำหรับ 3D Food Printer คือเครื่องขึ้นรูปอาหารแบบ 3 มิติ คล้ายกับเครื่อง 3D Printer ทั่วไป ที่สามารถปริ้นงาน 3 มิติ หรือชิ้นส่วนอะไหล่ต่าง ๆ เป็น 3 มิติได้ แต่แทนที่เราจะใช้พลาสติกในการขึ้นรูป เราก็ใช้วัตถุดิบอาหารแทน โดยวัตถุดิบที่นิยมใช้เครื่อง 3D Food Printer มนุษย์แม้จะอยากสร้างความยั่งยืนทางอาหารแค่ไหน แต่ความอร่อยและความสุนทรีย์ในการกินอาหารที่ทำจากพืชจะยังคงไม่เปลี่ยนไป 3D Food Printer คือสิ่งที่จะทำให้ไม่ต้องทนทุกข์กับเนื้อสัมผัสเย็นๆ หยาบๆ ของผักเสมอไป เพราะสามารถจำลองพื้นผิวและเนื้อสัมผัสของอาหารให้เหมือนกับต้นฉบับได้
ซึ่งนอกจากจะทำให้ได้เนื้อเสมือนจริงแล้ว การพิมพ์แบบ 3 มิติ ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยลดปริมาณเศษอาหารได้ เพราะในเศษอาหารบางชนิดยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบในการพิมพ์ได้ จึงนับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและลดของเสียอันเป็นปัจจัยที่ทำให้โลกร้อนอีกด้วย
3.เนื้อสัตว์จากห้องทดลอง (Lab Grown Meat, Cultured meat)
เรายังคงอยู่กับนวัตกรรมที่มาแทนเนื้อสัตว์ เพราะว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน ซึ่งปัจจุบันได้เดบิวต์กลายเป็นภาวะโลกเดือดไปเป็นที่เรียบร้อย ก็คือ ระบบอาหารที่เน้นการผลิตเนื้อสัตว์และนมเชิงอุตสาหกรรมเป็นตัวการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 1 ใน 4 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งหมด โดยกว่าร้อยละ 60 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการผลิตอาหารนั้นมาจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์รถบรรทุกและเครื่องบินทุกชนิดในโลกใบนี้
เนื้อสัตว์ที่ได้จากห้องแลปนั้นจะช่วยลดการปนเปื้อนของแบคทีเรียต่าง ๆ ที่มาจากมูลสัตว์ อีกทั้งยังได้เนื้อที่ปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะ และเป็นวิธีที่ทำให้เราไม่ต้องทำฟาร์มปศุสัตว์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป
4.แมลง แหล่งโปรตีนชั้นดี
แม้การบริโภคเนื้อสัตว์จะเริ่มมีทางเลือกที่ต่างออกไป นอกจากนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีการวิจัยอีกว่า ยังมีสัตว์ที่ไม่จำเป็นต้องทำเป็นอุตสาหกรรมใหญ่อย่าง แมลง ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งโปรตีนชั้นดี เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ จากรายงานขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (UN Food and Agriculture Organisation) ระบุว่ามีประชากรโลกอย่างน้อย 2 พันล้านคนบริโภคแมลงเป็นอาหารเป็นปกติ
เพราะในแมลงอุดมไปด้วยโปรตีน อีกทั้งยังมีไขมัน โปรตีน วิตามิน ไฟเบอร์ และแร่ธาตุสูง นอกจากนี้แมลงยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเนื้อสัตว์ในอุตสาหกรรมที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียและยาปฏิชีวนะ
5. ‘สาหร่าย’ เพาะง่าย โตง่าย สารอาหารเพียบ
เพราะสาหร่ายมีศักยภาพที่จะนำไปใช้ในอาหาร อาหารเสริม อาหารสัตว์ ปุ๋ย เชื้อเพลิงชีวภาพ เวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง ซีรั่มชะลอความแก่ เป็นต้น อีกทั้งการเพาะปลูกสาหร่ายสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในทะเลและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้นอุตสาหกรรมสาหร่ายทะเลจึงมีศักยภาพในวงกว้างสาหร่าย ไม่เพียงเป็นแหล่งที่ให้ปริมาณโปรตีนในระดับสูงเท่านั้น หากยังมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย
ทั้งหมดนี้เป็นเทรนด์การกินที่เปลี่ยนแปลงไป จากทั้งการตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาสุขภาพ บางอย่างเราอาจจะเห็นว่าเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยแล้ว แต่บางอย่างก็ยังเป็นเรื่องใหม่ที่ใครไม่รู้จัก แต่อนาคตการกินที่เปลี่ยนโลกก็จะกลายเป็นเทรนด์ ที่ถูกขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง และก็จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นจากภาวะโลกเดือดนั่นเอง
ขอบคุณที่มาข้อมูล
https://www.salika.co/2022/10/12/5-future-food-megatrend-world-foo-day-2022/
https://becommon.co/life/living-future-food/
https://www.nestleprofessional.co.th/harvest-gourmet/plant-based-trends
https://www.naibann.com/3d-printed-meat/
https://www.smethailandclub.com/tech/5051.html
https://www.greenpeace.org/thailand/story/9359/more-meat-more-heat/
https://www.roboci.com/future-meat-scientists-cultivate-animal-tissue/
https://www.thailandplus.tv/archives/544841
ข่าว
30 ต.ค. 2567 16:58 63 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 16:56 45 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 16:39 65 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 16:12 48 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 16:08 50 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 16:07 48 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 15:02 50 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 15:01 56 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 14:58 56 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 14:26 60 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 13:17 80 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 12:50 97 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 12:47 76 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 12:43 83 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 12:06 87 views
ข่าว
30 ต.ค. 2567 11:57 83 views