กองทัพสหรัฐฯรายงานการโจมตีเรือ 3 ลําที่ต้องสงสัยว่าลักลอบขนยาเสพติดในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ทําให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย

สํานักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 16 ธันวาคม เกิดการโจมตีเรือ 3 ลําที่ต้องสงสัยว่าลักลอบขนยาเสพติดในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาทําให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ในส่วนหนึ่งของปฏิบัติการต่อเนื่องของกองทัพสหรัฐที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 90 ราย

กองบัญชาการภาคใต้ของสหรัฐฯ กล่าวในโพสต์บน X ว่า "หน่วยข่าวกรองยืนยันว่าเรือเหล่านี้กําลังแล่นผ่านเส้นทางค้ายาเสพติดที่รู้จักกันดีในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก และมีส่วนร่วมในการค้ายาเสพติด" พร้อมเสริมว่า "ผู้ก่อการร้ายค้ายาเสพติดชายจํานวน 8 คนถูกสังหารในปฏิบัติการเหล่านี้ แบ่งเป็น 3 รายในเรือลําแรก, 2 รายในเรือลําที่สอง และ 3 รายในเรือลําที่สาม"

โพสต์ดังกล่าวมีภาพวิดีโอของเรือสามลําที่ลอยอยู่ในน้ําก่อนที่จะถูกโจมตี
ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน กองทัพสหรัฐฯ ภายใต้การนําของพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม ได้โจมตีเรือที่ต้องสงสัยว่าลักลอบขนยาเสพติดในทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก, ทําลายเรือไปแล้วอย่างน้อย 26 ลํา และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 95 ราย

การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับการเสริมกําลังทางทหารครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ในทะเลแคริบเบียน ซึ่งรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเรือรบอื่นๆ อีกมากมาย โดยประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ยืนยันว่าเป้าหมายคือการต่อต้านการค้ายาเสพติด แต่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา กล่าวประณามว่าเป็นข้ออ้างสําหรับการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในกรุงการากัส

ระหว่างการโจมตีช่วงแรกๆ ผู้รอดชีวิตจากการโจมตีเรือครั้งแรกถูกสังหารหลังจากสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีเรือลํานั้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นการกระทําที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงและข้อกล่าวหาว่าอาจเป็นอาชญากรรมสงคราม ถึงกระนั้น เฮกเซธยืนยันว่าเขาไม่ได้สั่งการโจมตีครั้งที่สอง แต่กล่าวโทษพลเรือเอกแฟรงค์ แบรดลีย์ ของสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้สั่งการ.