การแข่งขันเทเบิลเทนนิสในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่เวสต์เกตฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต บางใหญ่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.68 ชิง 2 เหรียญทอง ประเภททีมหญิงและทีมชาย โดยทัพนักกีฬาไทยทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ในประเภททีมหญิง โคจรมาปะทะคู่ปรับตลอดกาล สิงคโปร์ 

ทัพลูกเด้งสาวไทย ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัยหลังสุด ส่ง "ทิพย์" อรวรรณ พาระนัง มืออันดับ 73 ของโลก ลงเป็นคู่แรก ปะทะกับ แซร์ หลิน เคียน มืออันดับ 125 ของโลก เกมแรก อรวรรณ เปิดหัวดี ตบเบียดชนะ 14-12 ขึ้นนํา 1-0 เกม และสุดท้าย อรวรรณ โชว์ความเด็ดขาดต้อนชนะ 3-0 เกม (14-12, 11-7, 11-8) ทัพปิงปองสาวไทยขึ้นนํา 1-0 คู่ 

คู่ที่สอง "หญิง" สุธาสินี เสวตรบุตร มืออันดับ 98 ของโลก พบมือแกร่งของทีมแดนลอดช่อง เจิ้ง เจี้ยน มืออันดับ 37 ของโลก มืออันดับ 1 ของสิงคโปร์ รูปเกมนั้นด้วยอันดับโลกและความแข็งแกร่ง ดาวเด่นของสิงคโปร์  เอาชนะ สุธาสินี เสวตรบุตร 3-2 เกม (11-9, 6-11, 13-11, 5-11, 11-7) ตีเสมอให้สิงคโปร์ 1-1 คู่

คู่สาม "แตงโม" ธมลวรรณ เขตต์เขื่อน ที่ไม่ได้มีอันดับโลกแต่เล่นอาชีพอยู่กับสโมสรในทวีปยุโรป ลงสนามพบ ตาน จาว ยุน มืออันดับ 150 ของโลก  เป็นสิงคโปร์ที่ทําได้ดีกว่า ตาน จาว ยุน จะเป็นฝ่ายเอาชนะไป 3-1 เกม (11-1, 6-11, 15-13, 11-9) สิงคโปร์แซงไทย 2-1 คู่

คู่ที่สี่ ทีมลอดช่องต้องการชัยชนะคู่นี้เพื่อคว้าเหรียญทอง ส่วนไทยต้องการชนะเพื่อตีเสมอแล้วไปลุ้นต่อในคู่สุดท้าย ส่ง ทิพย์ อรวรรณ  ดวลกับ เจิ้ง เจี้ยน มือหนึ่งสิงคโปร์ ที่ต่างฝ่ายต่างชนะคู่แข่งมากันทั้งคู่ และเกมนี้เป็น อรวรรณ ระเบิดฟอร์มเก่ง พลิกสถานการณ์กลับมาตบชนะ 3-2 อย่างสุดมัน (17-15, 7-11, 9-11, 11-4, 11-6) ช่วยทีมชาติไทยกลับมามีลุ้นเหรียญทองอีกครั้งที่ 2-2 คู่

คู่ตัดสิน คู่ที่ห้า "หญิง" สุธาสินี  ลงมาแก้มือ พบกับ แซร์ หลิน เคียน ปรากฎว่า จบการแข่งขัน สุธาสินี ของไทย ชนะ แซร์ หลิน เคียน ของสิงคโปร์ 3-2 เกม (9-11, 11-8, 5-11, 11-7, 11-5) 

สรุปทัพเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติสิงคโปร์ 3-2 คู่ สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองประเภททีมหญิงกีฬาซีเกมส์ให้แก่ไทยเป็นสมัยที่ 3 และเป็นการทําได้ 3 สมัยติดต่อกันอีกด้วย ขณะที่ผลงานประเภททีมชายของทัพลูกเด้งไทยนั้นจบที่อันดับ 3 ในรอบแบ่งกลุ่มบีอย่างน่าเสียดาย

หลังแข่งขัน "ทิพย์" อรวรรณ พาระนัง กล่าวว่า รู้สึกแฮปปี้ แมตช์นี้เป็นแมตช์ที่หนักมาก จริงๆหนักมาตั้งแต่รอบรองชนะเลิศแล้ว พอมาอยู่ในเกมมันก็มีความเครียด ความกดดัน เพราะเราแชมป์เก่าด้วย เราก็มีความอยากป้องกันแชมป์เอาให้ได้ไว้ด้วย ซึ่งครั้งนี้แข่งในบ้าน มีแฟนกีฬาเข้ามาเชียร์เยอะมาก ทําให้มีแรงกําลังใจฮึกเหิมขึ้นมา จุดเปลี่ยนสําคัญน่าจะเป็นช่วงที่เราโดนนํา 1-2 และกลับมาตีเสมอ 2-2 เกม ทําให้เรามีความมั่นใจขึ้นมา ส่วนตนก็เชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีม

"เวลานี้คงพูดได้ว่าเราคือเบอร์ 1 อาเซียน แต่คํานี้ก็ค่อนข้างจะหนักอยู่เหมือนกัน เพราะว่า สิงคโปร์เอง หรือจะเป็นมาเลเซีย และเพื่อนในอาเซียนทุกชาติเขาก็พัฒนาฝีมือ ก้าวสู่ระดับโลกกันมากขึ้น ซึ่งเราก็ต้องเหนื่อยกันมากขึ้นไปอีก อย่างเกมในวันนี้ก็ทําให้เห็นแล้วว่า อีก 2 ปีข้างหน้า เราต้องทํางานกันให้หนักขึ้น จะบอกว่าเป็น เบอร์ 1 แล้วก็ยังไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ขนาดนั้น เพราะกีฬามีแพ้มีชนะ"

อรวรรณ เผยต่อว่า  ส่วนการแข่งขันประเภทบุคคลเราคงต้องฝึกซ้อมกันใหม่ เริ่มใหม่กันอีกที ซึ่งตอนนี้เราก็เห็นนักกีฬากันหมดแล้ว ว่าจะเจอกับใครบ้าง  มีเวลาเตรียมตัว 2 วัน จะพยายามกันใหม่ในประเภทบุคคล

ด้าน "หญิง" สุธาสินี เสวตรบุตร  เผยว่า เอาจริงๆต้องยอมรับว่า ซีเกมส์ กดดันกว่าเอเชียนเกมส์อีก เพราะเล่นในบ้าน และเราเป็นแชมป์เก่าด้วย ก็พยายามควบคุมสมาธิ ตั้งสติให้อยู่กับตัว เพราะเขาก็ตีได้ดีเหมือนกัน เราก็พยายามเล่นทีละลูก พยายามเอาชนะให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าเหรียญนี้ขอมอบให้ คนไทยทุกคน

ส่วน "แตงโม" ธมลวรรณ เขตต์เขื่อน เผยเกี่ยวกับคุณแม่ที่เพิ่งเสียไปด้วยโรคมะเร็ง ช่วงก่อนแข่งขันซีเกมส์ ไม่นานว่า  ตอนที่ "ทิพย์" กับ "หญิง" ลงไปแข่งขันก็ภาวนาขอให้คุณแม่ช่วยลูกด้วย ช่วยเพื่อนในทีมด้วย ก่อนคุณแม่เสียก็คุยกันว่า แม่อยากมาดูเราแข่งขัน เพราะวันเกิดแม่ เพิ่งผ่านมาเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นี้เอง อยากมอบเหรียญทองครั้งนี้ให้กับคุณแม่