×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป ข่าวพระราชสำนัก คุณภาพชีวิต อาชญากรรม อาชญากรรมและมิจฉาชีพ เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ FM94 ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2568

?>

เปิดฉบับเต็ม! ‘เชิดชาย’ ยื่นหนังสือแจ้งเลขาธิการ UN – ประธาน UNSC ปมเขมรโจมตีไทย

 11 ธ.ค. 2568 11:04 | 120 view

 @pracha

Facebook X Share

เปิดฉบับเต็ม! ‘เชิดชาย’ ยื่นหนังสือแจ้งเลขาธิการ UN – ประธาน UNSC ปมเขมรโจมตีไทย

นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจําสหประชาชาติ  ณ นครนิวยอร์ก ได้ส่งหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสโลวีเนียประจําสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ผู้เป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประจําเดือนธันวาคม 2568 เพื่อแจ้งต่อการที่กัมพูชาละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย หนังสือที่เอกอัครราชทูตเชิดชายส่งถึงเลขาธิการสหประชาชาติ มีเนื้อหาดังนี้

กระผมขอเรียนให้ท่านทราบโดยเร่งด่วนถึงการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของ ราชอาณาจักรไทยอย่างร้ายแรงล่าสุด อันเนื่องมาจากการรุกรานและการโจมตีทางอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุของกัมพูชาต่อไทย ดังนี้

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 เวลา 14.15 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดยิงใส่ทหารไทยจากหน่วยกองพันทหารราบที่ 13 ซึ่งปฏิบัติภารกิจปรับปรุงเส้นทางภายในดินแดนของไทยในพื้นที่ภูผาเหล็ก – พลาญหินแปดก้อน อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ การโจมตีดังกล่าวทําให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย โดยในจํานวนนี้ ทหารหนึ่งนายได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอกและทหารอีกหนึ่งนายถูกยิงบริเวณขาขวา ทั้งนี้ ทหารกัมพูชายังคงยิงใส่ทหารไทยอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลา 14.50 น.

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 เวลา 05.05 น. ทหารกัมพูชาได้เริ่มโจมตีฐานทหารไทย โดยปราศจากการยั่วยุใด ๆ ในพื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ตามด้วยการโจมตีในวงกว้างอย่างไม่เลือกเป้าหมายตลอดหลายพื้นที่ภายในดินแดนของไทยในจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ต่อมา ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทหารกัมพูชายังได้ยกระดับการโจมตีอีกครั้งด้วยการยิงอาวุธหนักใส่ทหารไทยที่ประจําการในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อําเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ณ เวลา 18.00 น. การโจมตีรุกรานดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ 5 จังหวัดของไทย ทําให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 18 นาย โดยในจํานวนนี้ ทหาร 3 นายอาการสาหัส และมีประชาชนจํานวนกว่า 400,000 คน ต้องอพยพจากที่พักอาศัย โดยในจํานวนนี้ มีประชาชน 2 ราย ที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจวายในระหว่างการอพยพตลอดทั้งวัน กําลังทหารกัมพูชาได้ดําเนินการโจมตีดินแดนของไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้สัดส่วนและ ผิดกฎหมาย โดยเจตนามุ่งเป้าหมายโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน ปฏิบัติการดังกล่าวใช้อาวุธหนักหลายชนิด รวมถึงเครื่องยิงระบบจรวดหลายลํากล้อง ปืนครก และปืนกลหนัก และยังเสริมด้วยการ เคลื่อนย้ายอาวุธหนักและกําลังพลของกัมพูชาตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง

การโจมตีทางอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุและไม่เลือกเป้าหมายดังกล่าวของกัมพูชาต่อดินแดนของ ไทยในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดสระแก้ว เป็นการละเมิดข้อ 2 วรรค 4 ของกฎบัตรสหประชาชาติ หลักการอยู่ร่วมกันฉันมิตรกับประเทศเพื่อนบ้านและหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างรัฐอย่างชัดเจน เพื่อตอบโต้การกระทําดังกล่าว ไทยจึงมีความจําเป็นต้องใช้สิทธิโดยชอบธรรมในการป้องกันตนเองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติเพื่อรักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน และปกป้องความปลอดภัยของประชาชนไทย มาตรการป้องกันตนเองดังกล่าวดําเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะหลักความจําเป็นและความได้สัดส่วน มาตรการเหล่านี้จํากัดขอบเขต ได้สัดส่วนตามภัยคุกคาม และมุ่งเป้าเหมายเพื่อยับยั้งภัยอันตรายที่ชัดแจ้งจาก ทหารกัมพูชา โดยใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบและอันตรายต่อพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน

เป็นที่น่าเสียใจว่าในทันทีภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ข้างต้น ทางการของกัมพูชาได้ตั้งใจเผยแพร่ข้อมูลเท็จ โดยกล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายเริ่มการโจมตีก่อน ในขณะที่ในความเป็นจริงแล้ว ฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มยิงใส่ทหารไทยและดินแดนของไทยก่อน การกระทํานี้แสดงถึงการยั่วยุของฝ่ายกัมพูชาอีกครั้ง ไทยขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงต่อข้อกล่าวหาที่ไร้มูลความจริงอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา ซึ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการบิดเบือนข้อเท็จจริง และบ่อนทําลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ
การโจมตีทางอาวุธล่าสุดของกัมพูชาสะท้อนรูปแบบความเป็นปฏิปักษ์ต่อไทยที่เกิดขึ้นซ้ําแล้ว ซ้ําเล่าและทวีความรุนแรงขึ้น รูปแบบดังกล่าวเกิดขึ้นตามมาหลังจากการกระทําที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในลักษณะ ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าและเป็นการยั่วยุของกัมพูชา ซึ่งรวมถึงการวางทุ่นระเบิด PMN-2 ใหม่ของกัมพูชาอย่าง ผิดกฎหมายในดินแดนของไทยหลายครั้ง ทําให้ทหารไทยพิการถาวรรวม 7 นาย โดยเหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 และต่อมา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ทหารกัมพูชาจงใจเปิดยิงใส่ทหารไทยในดินแดนอธิปไตยของไทย การกระทําเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อพันธกรณีที่มีร่วมกันภายใต้ “ถ้อยแถลงผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทยและนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย” ลงนามโดยผู้นําของไทยและกัมพูชาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ผ่านการเป็นคนกลางในการประสานงานของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนและประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

ประเทศไทยประณามอย่างรุนแรงต่อการรุกรานของกัมพูชา การโจมตีทางอาวุธโดยไม่เลือก เป้าหมายต่อพลเรือน โครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือน และสถานที่สาธารณะต่าง ๆ และเจตนาที่ปรากฏชัดในการทําร้ายกําลังพลของไทยภายในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย การกระทําที่เป็นปฏิปักษ์อย่างไร้ความรับผิดชอบและต่อเนื่องของกัมพูชาต่อไทยมีแต่จะเพิ่มความตึงเครียด ทําลายความมุ่งมั่นที่มีร่วมกันภายใต้ ถ้อยแถลงร่วมฯ และข้อตกลงที่บรรลุในกรอบการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และ คณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC) อีกทั้งยังกัดกร่อนความไว้วางใจระหว่างกันซึ่งมีความจําเป็นต่อการมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์

ในการนี้ ไทยเรียกร้องให้กัมพูชาชี้แจงอย่างครบถ้วน รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ และดําเนินมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ําอีก ไทยร้องขอประชาคมระหว่างประเทศให้เรียกร้องต่อกัมพูชาให้ยุติการกระทําอันเป็นปฏิปักษ์และการยั่วยุทั้งหมดที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนชาวไทย ทําลายความมั่นคงชายแดน และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยซ้ําแล้วซ้ําเล่า กัมพูชาต้องปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเต็มที่ และแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา

อย่างไรก็ตาม หนังสือทั้ง 2 ฉบับที่ส่งไปให้แก่เลขาธิการสหประชาชาติและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีเนื้อหาเหมือนกัน แต่ในเนื้อหาท่อนสุดท้าย เอกอัครราชทูตเชิดชายขอให้มีการเวียนหนังสือฉบับนี้ในฐานะเอกสารของการประชุมสมัชชา สหประชาชาติ สมัยที่ 80 ภายใต้ระเบียบวาระ ที่ 31 และขอให้เวียนหนังสือฉบับนี้แก่สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงฯ  ทุกประเทศ ในฐานะเอกสารของคณะมนตรีความมั่นคงฯ เพื่อให้รับทราบข้อมูลข้างต้นโดยเร่งด่วน

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

ทภ. 2 พาผู้สื่อข่าวต่างชาติสํารวจจุดเสียหาย จาก BM-21 ส่งผลกระทบต่อชุมชน

11 ธ.ค. 2568 13:47 2 views

ข่าว

จิตอาสาภาค 2 เดินหน้าช่วยเหลือประชาชนชายแดนสนับสนุนงานศพผู้เสียชีวิต 5 ราย

11 ธ.ค. 2568 13:42 15 views

ข่าว

เหล่าทัพแถลงยืนยันตัวเลยพลเรือนเสียชีวิต 3 ราย ทหารเสียชีวิต 9 นายบาดเจ็บ 120 นาย

11 ธ.ค. 2568 11:53 43 views

ข่าว

'ซาบีดา' ลั่นหากไม่มีประเทศ ก็ไม่สามารถรักษาโบราณสถานไว้ได้

11 ธ.ค. 2568 11:47 33 views

ข่าว

ทภ.2 ควบคุมพื้นที่ช่องระยี–ปลดต่าง ได้แล้ว

11 ธ.ค. 2568 11:38 96 views

ข่าว

กองทัพย้ํายังตอบไม่ได้ ปฏิบัติการทหารจบเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่หลายปัจจัย

11 ธ.ค. 2568 11:34 80 views

ข่าว

ทบ.แจงประกาศเคอร์ฟิว 4 อําเภอสระแก้ว ป้องวินาศกรรม-สายลับ แทรกซึมเข้าไทย

11 ธ.ค. 2568 11:28 95 views

ข่าว

"นายกฯ"เผย"ทรัมป์"ยังไม่ติดต่อมา พร้อมอธิบายเหตุการณ์อย่างละเอียดให้ผู้นําสหรัฐฯเข้าใจ

11 ธ.ค. 2568 11:13 75 views

ข่าว

เปิดฉบับเต็ม! ‘เชิดชาย’ ยื่นหนังสือแจ้งเลขาธิการ UN – ประธาน UNSC ปมเขมรโจมตีไทย

11 ธ.ค. 2568 11:04 121 views

ข่าว

โป๊ปเลโอที่ 14 ภาวนาเพื่อปชช.และผู้สูญเสียเหตุปะทะชายแดน วอนไทย-กัมพูชา หยุดยิงกลับมาเจรจา

11 ธ.ค. 2568 10:57 116 views

ข่าว

เช็กเลย ลงทะเบียน คนละครึ่งพลัส เฟส 2 เมื่อไหร่? แจก 2,000 บาท ให้กี่ล้านสิทธิ

11 ธ.ค. 2568 10:50 72 views

ข่าว

ส.อ.ท. ชี้สถานการณ์ปะทะชาย ‘แดนไทย-กัมพูชา’ ส่งผลกระทบหนักต่อเศรษฐกิจ ค้าชายแดนลดลงเกือบ 100%

11 ธ.ค. 2568 09:43 174 views

ข่าว

ราคาทองวันนี้ 11 ธ.ค. 68 

11 ธ.ค. 2568 09:42 89 views

ข่าว

'มัลลิกา' รมช.คมนาคม สั่งคุมเข้มความปลอดภัยสนามบินใกล้ชายแดน

11 ธ.ค. 2568 09:38 116 views

ข่าว

ราคาน้ํามันวันนี้  9 ธ.ค. 68

11 ธ.ค. 2568 09:31 64 views

ข่าว

"รัฐสภา"ไฟเขียว "สูตร20หยิบ1"เลือก"ผู้ร่างรธน."

11 ธ.ค. 2568 09:18 133 views