ปภ. อัปเดตสถานการณ์น้ํา 26 พ.ย. "ภาคใต้"  9  จังหวัดระดับน้ํายังพุ่ง สูญเสียแล้ว 18 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสมทั่วประเทศ 46 ราย  เร่งตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้าที่สงขลา ระดม ฮ.KA-32 และเครื่องจักรกลหนักกู้วิกฤตภาคใต้ ด้านภาคกลาง 11 จังหวัดน้ําลดลงต่อเนื่อง

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยประจําวัน โดยระบุว่าขณะนี้ประเทศไทยยังคงมีพื้นที่ประสบภัยในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมทั้งสิ้น 20 จังหวัด ครอบคลุม 151 อําเภอ 1,118 ตําบล 8,003 หมู่บ้าน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 1.12 ล้านครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตรวม 46 ราย โดยสถานการณ์แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ พื้นที่ภาคใต้ที่ระดับน้ําส่วนใหญ่ยังเพิ่มสูงขึ้น และพื้นที่ลุ่มน้ําเจ้าพระยาที่ระดับน้ํากําลังลดลง

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ตอนนี้สถานการณ์ใน พื้นที่ภาคใต้ ยังคงน่าเป็นห่วง โดยมีจังหวัดที่ประสบภัย 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีผู้ได้รับผลกระทบรวม 986,018 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตในโซนภาคใต้รวม 18 ราย (นครศรีธรรมราช 6 ราย, สงขลา 5 ราย, ปัตตานี 3 ราย, ยะลา 2 ราย และพัทลุง 2 ราย)

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบแนวโน้มระดับน้ําใน 9 จังหวัดภาคใต้ พบว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่เดียวที่ระดับน้ําเริ่มลดลง ในขณะที่อีก 8 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระดับน้ํายังคงเพิ่มสูงขึ้น

สําหรับ พื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ลุ่มแม่น้ําเจ้าพระยา สถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันยังมีน้ําท่วมขังใน 11 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และนครปฐม รวม 50 อําเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 142,266 ครัวเรือน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในโซนนี้อยู่ที่ 28 ราย โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงสุดที่ 19 ราย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดระดับน้ําในทั้ง 11 จังหวัด ลดลงแล้วทั้งหมด

ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ปภ. ได้ยกระดับการจัดการภัยพิบัติในพื้นที่ภาคใต้ที่ยังวิกฤต โดยจัดตั้ง ศูนย์บัญชาการส่วนหน้า ณ ศูนย์ ปภ. เขต 12 สงขลา เพื่อเป็นฐานในการกระจายความช่วยเหลือ มีการระดมทรัพยากรทั้งเรือท้องแบน เจ็ตสกี เครื่องจักรกลสาธารณภัย รถผลิตน้ําดื่ม รถประกอบอาหาร และเฮลิคอปเตอร์ KA-32 เพื่อเข้าถึงพื้นที่และดูแลประชาชนอย่างเร่งด่วน

ส่วนจังหวัดที่สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติหรือระดับน้ําลดลงแล้ว เจ้าหน้าที่จะเร่งสํารวจความเสียหายเพื่อดําเนินการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด