วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568
22 พ.ย. 2568 09:56 | 51 view
@juthamas
ทบ. แจงกรณีการทุจริตเงินบํานาญระบบ e-pension เป็นคดีเก่าตั้งแต่ปี 64 ที่ดําเนินการปลด ถอดยศ และฟ้องอาญาผู้ทุจริตแล้ว พร้อมเดินหน้าสอบวินัยร้ายแรงเพิ่มเติมหลัง ป.ป.ช. ชี้มูล
วันนี้ (21 พฤศจิกายน 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถึงผลการดําเนินการกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการทุจริตเงินบํานาญในระบบ e-pension ของกรมการเงินทหารบก ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปี 2555–2563 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากองทัพบกได้ดําเนินการสอบสวนและลงโทษทางวินัยกําลังพลที่เกี่ยวข้องกับการกระทําผิด ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบราชการอย่างเคร่งครัด พร้อมให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. อย่างเต็มที่ จนนําไปสู่การลงมติชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ดังกล่าว
โดยกรณีของ พ.ท.หญิง ดวงรัตน์ แร่ทองขาว กองทัพบกและกระทรวงกลาโหมได้ดําเนินการทางวินัยขั้นสูงสุดแล้วตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2564 คือ การปลดออกจากราชการ โดยไม่มีสิทธิรับเบี้ยหวัด บําเหน็จ หรือบํานาญ พร้อมทั้งถอดยศทหาร และได้แจ้งความดําเนินคดีอาญาต่อผู้กระทําผิดและผู้เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน ต่อมาเมื่อ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทั้งทางวินัยร้ายแรงและอาญาฐานทุจริตต่อหน้าที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสํานวนให้อัยการสูงสุดดําเนินการตามกฎหมายแล้ว
สําหรับ พ.ท.หญิง วิมลฉวี ม้าถาวร กองทัพบกได้ดําเนินการสอบสวนทางวินัยตั้งแต่ปี 2563 และลงโทษตามความผิดที่ปรากฏในขณะนั้น ได้แก่ การลงทัณฑ์กัก 7 วัน การปรับย้ายออกจากตําแหน่ง และงดบําเหน็จประจําปีเนื่องจากละเลยและเลินเล่อต่อหน้าที่ราชการ ต่อมาเมื่อ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลว่าการกระทําเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงเพิ่มเติม แม้ไม่พบมูลความผิดทางอาญา กองทัพบกจะดําเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเพิ่มเติมตามที่ ป.ป.ช. ชี้มูล เพื่อพิจารณาบทลงโทษตามอํานาจหน้าที่ตามกฎหมาย
ในส่วนของ พ.อ. อนุสรณ์ คุ้มอักษร กองทัพบกได้ดําเนินการสอบสวนและลงโทษไปตั้งแต่ปี 2563 เช่นเดียวกัน โดยลงทัณฑ์กัก 3 วัน ปรับย้ายออกจากตําแหน่ง และงดบําเหน็จประจําปี ต่อมา ป.ป.ช. มีมติชี้มูลผิดวินัยไม่ร้ายแรงตามมาตรา 64 โดยไม่มีมูลความผิดอาญา อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก พ.อ. อนุสรณ์ฯ ได้เกษียณอายุราชการแล้ว จึงไม่สามารถดําเนินการทางวินัยเพิ่มเติมได้โดยสภาพ

ส่วนการเยียวยาผู้เสียสิทธิ์ กองทัพบกได้ดําเนินการรองจ่ายเงินชดเชยให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิ์ครบทั้ง 11 ราย รวมเป็นจํานวน 5,220,699 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น และได้เริ่มกระบวนการเรียกคืนเงินจากผู้กระทําผิดซึ่งมีการชําระคืนบางส่วนแล้ว ทั้งนี้ กองทัพบกจะดําเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้ผู้กระทําความผิดชดใช้ความเสียหายในส่วนที่คงเหลือต่อไป
กองทัพบกได้ให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. อย่างใกล้ชิด โดยได้ส่งผลการสอบสวนทางวินัยให้ ป.ป.ช. ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 และให้ข้อมูลสนับสนุนในทุกขั้นตอน จนกระทั่ง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ทั้งนี้ ภายหลังคําวินิจฉัยของ ป.ป.ช. ได้มีการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดําเนินคดีอาญา และแจ้งให้กองทัพบกดําเนินการชดใช้ค่าเสียหายตามที่กฎหมายกําหนด ซึ่งกองทัพบกอยู่ระหว่างการดําเนินการโดยเคร่งครัด
กองทัพบกขอยืนยันว่าการดําเนินการทั้งหมดเป็นไปด้วยความโปร่งใสและยึดหลักธรรมาภิบาล โดยไม่ละเว้นผู้กระทําผิด พร้อมทั้งได้ปรับปรุงและพัฒนามาตรการป้องกันการทุจริตในระบบ e-pension ให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น อาทิ การเพิ่มชั้นการอนุมัติ การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลอย่างเข้มงวด และการตรวจสอบระบบเป็นระยะเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกในอนาคต
ข่าว
22 พ.ย. 2568 10:41 3 views
ข่าว
22 พ.ย. 2568 10:26 34 views
ข่าว
22 พ.ย. 2568 09:56 52 views
ข่าว
22 พ.ย. 2568 09:54 53 views
ข่าว
22 พ.ย. 2568 09:48 44 views
ข่าว
22 พ.ย. 2568 09:47 46 views
ข่าว
22 พ.ย. 2568 09:44 46 views
ข่าว
22 พ.ย. 2568 09:34 56 views
ข่าว
22 พ.ย. 2568 09:12 98 views
ข่าว
22 พ.ย. 2568 08:54 61 views
ข่าว
22 พ.ย. 2568 08:27 77 views
ข่าว
21 พ.ย. 2568 15:25 203 views
ข่าว
21 พ.ย. 2568 14:45 135 views
ข่าว
21 พ.ย. 2568 13:52 191 views
ข่าว
21 พ.ย. 2568 13:46 159 views
ข่าว
21 พ.ย. 2568 13:41 176 views