ฟิลิปปินส์เริ่มกระบวนการกู้ภัยและฟื้นฟูความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นฟงวอง ขณะที่ระดับน้ําท่วมในหมู่บ้านหลายร้อยแห่งลดลง และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 25 ราย

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2568 กล่าวว่า พายุไต้ฝุ่นฟงวองซึ่งทําให้ประชาชน 1.4 ล้านคนต้องอพยพ ได้อ่อนกําลังลงเป็นพายุโซนร้อนรุนแรงและเคลื่อนตัวไปยังไต้หวันแล้ว โดยคาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งในวันพุธ นี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่สองที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ภายในไม่กี่วัน ต่อจากพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีที่พัดถล่มหมู่เกาะทางตอนกลางเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 232 ราย

จังหวัดอิซาเบลาซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งที่มีประชากร 6,000 คน ยังคงถูกตัดขาดจากความช่วยเหลือ ขณะที่บางส่วนของจังหวัดนูเอวาบิซกายาซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียงก็ถูกตัดขาดเช่นกัน อัลวิน อายสัน โฆษกประจําภูมิภาคคากายันระบุว่า "เรากําลังประสบปัญหาในการเข้าถึงพื้นที่ภัยพิบัติ" และเสริมว่าดินถล่มทําให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถเข้าถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้

"ขณะนี้ประชาชนบางส่วนอยู่ในศูนย์อพยพแล้ว แต่เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน การสร้างบ้านใหม่จะต้องใช้เวลาและต้องเผชิญกับความท้าทาย" เขากล่าว

โฆษกฯกล่าวเสริมว่า เด็กชายวัย 10 ขวบคนหนึ่งเสียชีวิตจากดินถล่มที่นูเอวาบิซกายา เด็กชายคนดังกล่าวเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต 25 รายจากยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่เผยแพร่โดยฝ่ายป้องกันภัยพลเรือนแห่งชาติซึ่งระบุว่าผู้คนเสียชีวิตจํานวนมากจากเหตุดินถล่ม หน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนระบุว่า แม้แต่ความพยายามฟื้นฟูในระยะแรกก็ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์

"ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสําหรับเราในขณะนี้คือการฟื้นฟูเส้นทางชีวิต, การเคลียร์ถนน, การฟื้นฟูสายส่งไฟฟ้าและการสื่อสาร ซึ่งเรากําลังเร่งดําเนินการอยู่" หน่วยงานฯระบุ มีรายงานว่าเกาะคาตันดูอาเนสที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ปัญหาเกี่ยวกับระบบประปาอาจใช้เวลานานถึง 20 วันในการแก้ไข

ที่ไต้หวัน โรงเรียนและสํานักงานต่างๆ หลายเขตถูกสั่งปิด เนื่องจากพายุที่กําลังใกล้เข้ามาทําให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก เจ้าหน้าที่รัฐบาลและกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะมีฝนตกมากถึง 400 มิลลิเมตร (เกือบ 16 นิ้ว) ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ของไต้หวันเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ภูเขา, ชายหาด และสถานที่อันตรายอื่นๆ เพื่อความปลอดภัย

ภาพ----เอพี