วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568
7 พ.ย. 2568 15:08 | 85 view
@yaovarest
อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงปักหมุดชั่วคราว 17 พ.ย. ที่สระแก้ว เพื่อภารกิจโยกย้ายคน ย้ําไม่ใช่เส้นเขตแดนจริง ชี้หากแผนที่ชัดเจน จะช่วยแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้ง-กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน
นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ ว่า การลงพื้นที่วางหมุดชั่วคราวบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและไม่ทําให้ประเทศไทยเสียดินแดนอย่างแน่นอน โดยย้ําว่าเป็นเพียงขั้นตอนเพื่อภารกิจการโยกย้ายประชาชนเท่านั้น ยังไม่ใช่การปักปันเส้นแบ่งเขตแดนถาวร
นายเบญจมินทร์ เปิดเผยผ่านรายการข่าวเด่นทันสถานการณ์ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่ฝ่ายไทยได้หยิบยกเรื่องพื้นที่ทับซ้อนขึ้นหารือในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) มาโดยตลอด จนกระทั่งฝ่ายกัมพูชาแสดงความพร้อมที่จะพูดคุยและดําเนินการร่วมกัน
สําหรับกระบวนการวางหมุดชั่วคราวที่จะเกิดขึ้น อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ อธิบายว่า จะเป็นการวางหมุดตามแนวเส้นที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ โดยจะมีการปักหมุดในเส้นที่ไทยอ้างสิทธิ์ 1 เส้น และเส้นที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์อีก 1 เส้น รวมเป็น 2 เส้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศจะลงพื้นที่ปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อตรวจสอบความถูกต้องตามที่เคยอ้างไว้ โดยมีกําหนดการวางข้อปฏิบัติร่วมกันในวันที่ 14 พฤศจิกายน ก่อนจะลงพื้นที่จริงในวันที่ 17 พฤศจิกายน ส่วนระยะเวลาในการปฏิบัติงานจะประเมินตามสถานการณ์หน้างานอีกครั้ง ก่อนนําผลมารายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
"ขอย้ําว่าการวางหมุดในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ยังไม่ใช่การวางเส้นแบ่งเขตแดนถาวร แต่เป็นเพียงการวางหมุดชั่วคราว เพื่อใช้ในภารกิจโยกย้ายคนเท่านั้น จึงยังไม่สามารถชี้ขาดได้ว่าจุดดังกล่าวเป็นดินแดนของใคร และไม่กระทบต่อพื้นที่อธิปไตยของไทยแน่นอน" นายเบญจมินทร์กล่าว
ภายหลังการปักหมุดชั่วคราวเสร็จสิ้น ทั้งสองฝ่ายจะเข้าสู่กระบวนการเจรจาหารือ โดยนําหลักฐานที่มีอยู่มาพิจารณาเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการกําหนดเส้นเขตแดนที่ชัดเจนต่อไป
อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการปักปันเขตแดนโดยรวมว่า ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมาก โดยในจํานวนหลักเขตแดน 74 หลัก สามารถตกลงร่วมกันได้แล้ว 45 หลัก หรือคิดเป็นร้อยละ 60 นอกจากนี้ การนําเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการทําแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ จะช่วยให้กระบวนการหลังจากนี้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งหากได้รับความร่วมมือที่ดีจากกัมพูชา ก็เชื่อว่าจะสามารถหาทางออกและได้แผนที่ที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับในเวลาไม่นาน
ส่วนประเด็นการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 และ 2544 นายเบญจมินทร์ระบุว่า ไม่สามารถชี้นําความคิดเห็นของประชาชนได้ แต่สิ่งสําคัญที่ต้องตระหนักร่วมกันคือความจําเป็นในการมีแผนที่ที่ชัดเจน เพราะหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ความขัดแย้งจะยังคงอยู่ และจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การค้า และการลงทุนในพื้นที่ชายแดน ดังที่เห็นได้จากผลกระทบของการปิดด่านชายแดนที่ผ่านมา

ข่าว
7 พ.ย. 2568 16:31 88 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 16:12 65 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 16:08 63 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 16:02 112 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 15:38 73 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 15:29 96 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 15:26 412 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 15:08 86 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 14:36 66 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 14:12 54 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 14:02 111 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 13:55 78 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 13:48 95 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 13:40 116 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 13:27 320 views
ข่าว
7 พ.ย. 2568 13:02 96 views