วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2568
5 พ.ย. 2568 10:07 | 92 view
@pracha
ดิ๊ก เชนีย์ อดีต รองประธานาธิบดี สหรัฐ ผู้ทรงอิทธิพล เสียชีวิตในวัย 84 ปี
วานนี้ 4 พฤศจิกายน เอพี รายงานว่า ดิ๊ก เชนีย์ รองประธานาธิบดีที่ทรงอิทธิพล สายอนุรักษ์นิยม ของสหรัฐอเมริกา และเป็น 1 ในแกนนําที่ผลักดันในการรุกรานอิรัก เสียชีวิตแล้วในวัย 84 ปี
เชนีย์ รับตําแหน่งสําคัญในรัฐบาลทั้งพ่อและลูก บุช โดย รับตําแหน่ง ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย ในสมัย จอร์จ เอช.ดับเบิลยู. บุช ก่อนจะกลับเข้ามารับใช้ประเทศอีกครั้ง ในสมัยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิล ยู บุช ลูกชาย
เชนีย์ เปรียบเหมือนประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของประธานาธิบดีบุชผู้เยาว์ เขามีบทบาทสําคัญอย่างยิ่งในการดําเนินการตามมติต่างๆ ที่สําคัญต่อประธานาธิบดี และบางประเด็นก็มีความสําคัญต่อตนเองอย่างยิ่งยวด ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในขณะที่เขาต้องทนทรมานกับโรคหัวใจมานานหลายทศวรรษ หลังจากนั้น เขาต้องเข้ารับการปลูกถ่ายหัวใจ
หลายปีหลังจากพ้นจากตําแหน่ง เขาตกเป็นเป้าหมายของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ ลิซ เชนีย์ ลูกสาวของเขา กลายเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบความพยายามอย่างสิ้นหวังของทรัมป์ ในการรักษาอํานาจหลังจากที่เขาแพ้ในการเลือกตั้ง
ดิ๊ก เชนีย์ กล่าวเมื่อปีที่แล้วว่า เขาจะลงคะแนนเสียงให้ กมลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตําแหน่งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต เพื่อต่อต้านทรัมป์ ซึ่งเป็นเรื่องพลิกผันที่พรรคเดโมแครตในยุคของเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

เชนีย์ รอดจากอาการหัวใจวายถึง 5 ครั้ง เคยคิดมานานแล้วว่า เขาจะใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระ และ ในปี 2013 เขาประกาศว่า ตอนนี้เขาตื่นมาทุกเช้า พร้อมรอยยิ้มบนในหน้า ขอบคุณของขวัญแห่งวันใหม่
เชนีย์ เปิดเผยว่า เขาเคยปิดฟังก์ชันไร้สายของเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเมื่อหลายปีก่อน เพราะกลัวว่า ผู้ก่อการร้ายจะส่งไฟฟ้าช็อตหัวใจเขา จนเสียชีวิตจากระยะไกล ตลอดระยะเวลาที่ดํารงตําแหน่งรองประธานาธิบดี เชนีย์ ทําให้ตําแหน่งนี้ เป็นเครือข่ายช่องทางลับที่ใช้อิทธิพลต่อนโยบายเกี่ยวกับอิรัก ก่อการร้าย อํานาจประธานาธิบดี พลังงาน และประเด็นสําคัญอื่นๆ ของนโยบายอนุรักษ์นิยม
เชนีย์เกิดที่เมืองลินคอล์น รัฐเนบราสกา เป็นบุตรชายของเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตร เป็นประธานนักเรียน กัปตันทีมฟุตบอลร่วมโรงเรียน เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเยลด้วยทุนการศึกษาเต็มจํานวนเป็นเวลาหนึ่งปี จากนั้น เขาย้ายกลับมาที่ไวโอมิง ในที่สุดก็เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยไวโอมิง และสานสัมพันธ์กับลินน์ แอนน์ วินเซนต์ แฟนสมัยมัธยมปลายอีกครั้ง ก่อนจะแต่งงานกันในปี 2507 เขามีภรรยาชื่อลิซ และลูกสาวคนที่สองชื่อแมรี่

เข้าสู่สนามการเมือง ด้วยการเข้าไปวอชิงตันปี 1968 เป็นลูกศิษย์ของ ส.ส. โดนัลด์ รัมส์เฟลด์ จากพรรครีพับลิกัน รัฐอิลลินอยส์ และยังทํางานในทําเนียบขาว กับ เจอรัลด์ ฟอร์ด ก่อนที่จะได้รับการเลื่อนตําแหน่งเป็นหัวหน้าคณะทํางาน ซึ่งถือเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยวัย 34 ปี
เชนีย์ ดํารงตําแหน่งดังกล่าวเป็นเวลา 14 เดือน จากนั้นจึงกลับมาที่แคสเปอร์ ซึ่งเป็นที่ที่เขาเติบโตมา และลงสมัครชิงที่นั่งในรัฐสภาเพียงที่นั่งเดียวของรัฐ ในการแข่งขันชิงตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกนั้น เชนีย์มีอาการหัวใจวายเล็กน้อย ซึ่งทําให้เขาตัดสินใจรวมกลุ่มที่เรียกว่า “Cardiacs for Cheney” ขึ้นมา เขาสามารถคว้าชัยชนะอย่างเด็ดขาดและคว้าชัยชนะได้อีก 5 สมัย
ในปี 1989 เชนีย์ได้ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประธานาธิบดีบุชคนแรก และเป็นผู้นํากระทรวงกลาโหม ในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซียระหว่างปี 1990-1991 ซึ่งขับไล่กองกําลังอิรักออกจากคูเวต ระหว่าง 2 รัฐบาลของบุช เชนีย์ได้เป็นผู้นําบริษัทฮัลลิเบอร์ตัน คอร์ป ในเมืองดัลลัส ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมและก่อสร้างขนาดใหญ่สําหรับอุตสาหกรรมน้ํามันอีกด้วย
ภาพ-----เอพี
ข่าว
5 พ.ย. 2568 13:52 41 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 12:43 78 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 12:34 54 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 12:28 60 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 12:09 78 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 11:56 57 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 11:47 79 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 11:01 84 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 10:53 118 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 10:31 98 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 10:07 93 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 10:01 108 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 09:57 91 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 09:56 98 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 09:50 115 views
ข่าว
5 พ.ย. 2568 09:49 97 views