วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568
29 ต.ค. 2568 10:28 | 60 view
@nipon supapoom
กองทัพบก เผยไทยพร้อมส่งตัวเชลยศึกกลับตามหลักกติกาสากล หากกัมพูชาร่วมมือดําเนินการใน 4 ข้อประเด็นสําคัญด้วยความจริงใจอย่างเป็นรูปธรรม
วันนี้ (29 ต.ค. 68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับการปล่อยตัวเชลยศึก ภายหลังไทยและกัมพูชาได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา
พลตรี วินธัย กล่าวว่า การพิจารณาปล่อยตัวเชลยศึกของฝ่ายไทยเป็นไปตามหลักกติกาสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะพิจารณาจากลักษณะท่าทีของความเป็นปฏิปักษ์ ที่เคยมีต่อกัน ต้องมีการลดระดับลงชัดเจน ผ่านผลการดําเนินการตามข้อตกลงที่ทั้งสองประเทศเห็นชอบร่วมกันไว้แล้ว 4 ข้อหลัก ได้แก่ การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน
ในปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มจัดทํา แผนปฏิบัติการ (Action Plan) ตามกรอบห้วงเวลา และเริ่มปฏิบัติแล้วบางส่วน เช่น การถอนอาวุธหนัก อย่างกรณีการเคลื่อนย้ายรถถังออกจากพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา แม้จะเป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อสอดรับผลการประชุมสุดยอดผู้นําอาเซียน แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการดําเนินการตามข้อตกลง
ทั้งนี้ เมื่อ 28 ต.ค. 68 ได้มีการประชุม ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา เพื่อลงรายละเอียดขั้นตอนการปรับกําลังและถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ พร้อมกําหนดกรอบระยะเวลาในการปฏิบัติร่วมกันอย่างเป็นระบบ
สําหรับด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ฝ่ายไทยได้เสนอพื้นที่ดําเนินการเบื้องต้นจํานวน 13 พื้นที่ ครอบคลุมเขตปฏิบัติของกองทัพภาคที่ 1, กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี–ตราด ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดําเนินการแล้วใน 4 พื้นที่ และจะขยายผลต่อเนื่องไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป โดยเฉพาะในช่วงหลักเขตที่ 42–47 ซึ่งเมื่อพื้นที่มีความปลอดภัย จะเข้าสู่กระบวนการสํารวจเพื่อจัดทําหลักเขตแดนชั่วคราว และตรวจสอบสิทธิ์การถือครอง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย
ในส่วนของการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติและขบวนการสแกมเมอร์ รัฐบาลได้มอบหมายให้ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และ กระทรวงมหาดไทย ร่วมกันดําเนินการ โดยได้ประสานส่งข้อมูลเป้าหมายให้กับทางการกัมพูชา พร้อมจัดตั้ง ทีมเฉพาะกิจร่วม (Joint Task Force) เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนี้ ฝ่ายไทยจะดําเนินการติดตามความก้าวหน้าของการดําเนินการตามแผนและขั้นตอน ตามที่ได้มีการตกลงและเห็นชอบร่วมกันไว้ ผ่านเวทีการประชุม JBC , GBC และ RBC เพราะหากสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้ ไม่บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมที่เพียงพอ กองทัพบกอาจจะพิจารณาเสริมใช้มาตรการอื่นภายใต้กรอบกฎหมาย และกติกาสากลมาสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อดํารงความมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติ
ข่าว
29 ต.ค. 2568 12:13 67 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 12:06 39 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 12:01 39 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 11:41 48 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 11:24 65 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 11:19 48 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 11:06 84 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 10:58 45 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 10:42 113 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 10:30 52 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 10:28 61 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 10:20 101 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 10:04 58 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 09:59 80 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 09:54 183 views
ข่าว
29 ต.ค. 2568 09:52 79 views