วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2568
15 ต.ค. 2568 10:05 | 97 view
@pracha
ลุ้นโหวตแก้ รธน.วันนี้ 690 สมาชิกรัฐสภาขานชื่อ เห็นชอบกึ่งหนึ่ง ใช้เสียงส.ว.1 ใน 3
การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กําหนดไว้ 14-15 ตุลาคม ปรากฏว่าวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งเป็นแรก ที่ประชุมได้พิจารณาร่างฉบับของพรรคประชาชน(ปชน. พรรคภูมิใจไทย(ภท.) และพรรคเพื่อไทย
โดยฉบับปชน. นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชน. กล่าวว่า หากเปรียบเปรยรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นเสมือนบ้านหลังหนึ่งที่มีสภาพปัญหาในแทบทุกห้อง การจะซ่อมเป็นรายจุดก็ทําได้ แต่หากปัญหาลามไปถึงเสาเข็มหรือทางเชื่อมระหว่างห้อง การสร้างบ้านหลังใหม่ที่เราทุกคนได้ร่วมออกแบบตั้งแต่ต้นอาจจะเรียบง่ายกว่า รวดเร็วกว่า และทําให้เกิดความรู้สึกที่ดีกว่า ว่าบ้านหลังนี้เป็นของพวกเราทุกคน
นายพริษฐ์กล่าวว่า ไม่เคยบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็น ยาวิเศษ ที่ทําให้ทุกปัญหาหายไปทันที แต่รัฐธรรมนูญเป็นเหมือนกับอากาศที่หายใจกันอยู่ เหมือน ล่องหน จับต้องได้ยาก แต่ส่งผลกระทบต่อทุกวินาทีโดยไม่รู้ตัว การมีรัฐธรรมนูญที่ดีหรืออากาศที่บริสุทธิ์อาจไม่ได้จะทําให้เศรษฐกิจดีขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่ถ้ารัฐธรรมนูญหรืออากาศเป็นพิษ สุขภาพเราในการทํามาหากินและศักยภาพของประเทศในการแข่งขันกับโลกก็จะค่อย ๆ ถูกทําลาย การจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงเป็นโอกาสในการออกแบบระบบการเมืองที่ประชาชนหวังพึ่งได้
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ภท. อภิปรายว่า วันนี้น่าจะใกล้เคียงที่สุดกับที่เราจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สําเร็จได้ และย้ําว่าเป็นการทําตามเงื่อนไข MOA ที่ตกลงร่วมกัน และให้คํามั่นสัญญาไว้กับพรรคปชน. “เมื่อเราพูด เรารับปาก เราต้องทํา” 4 หลักการของภท. ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้แก่ กติกาเข้าใจง่าย, ทําได้จริง, ไม่นําไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่, ไม่ขัดต่อคําวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนแสดงความเป็นห่วงกลไกการได้มาซึ่งคณะผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของปชน. และพท. ว่าสุ่มเสี่ยงต่อการให้ใครไปยื่นตีความ และจะทําให้ “เสียเวลา เสียของ เสียเวลา” ของทุกคนหรือไม่
“หากตีความคําวินิจฉัยกฎหมายแบบศรีธนญชัย เป็นการตีความแบบเข้าข้างตนเองจนเกินไป อาจทําให้เกิดความล้มเหลวได้ อยากเห็นความร่วมมือของทุกฝ่ายอย่างจริงใจ อย่าเพ้อฝันมาก มองโลกตามความเป็นจริงซึ่งอาจขัดใจเราบ้าง ไม่ตรงใจเราบ้าง พรรค ภท. ต้องการให้ “ทําได้จริง ไม่ใช่แค่ได้ทํา” ” นายกรวีร์กล่าว
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท.ชี้แจงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพท.ว่า ให้มีผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ 151คน มาจาก 1.ส.ส.ร.จังหวัด 100คน มาจากการเลือกของทั้งประเทศรวม 300 คน ส่งให้รัฐสภาคัดเลือกเหลือ 100คน 2.ส.ส.ร.จากการคัดเลือก 51คน มาจากการเสนอชื่อของสภาผู้แทนราษฎรและครม.ขณะที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มี 27คน แบ่งเป็นเลือกจากส.ส.ร.14คน และเลือกจากผู้เชี่ยวชาญด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ 13 คน เมื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จให้ส่งมายังรัฐสภาเห็นชอบ ทั้งนี้ เราต้องร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายใน 4 เดือน เพราะถ้าทําไม่เสร็จทันภายใน 4 เดือนนี้ ร่างรัฐธรรมนูญจะตกไป ไม่ทันกับการยุบสภาฯ
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ประเด็นแรกในวาระนี้เป็นวาระรับหลักการ ควรเห็นควรรับหลักการรวมทั้ง 3 หลักการ ประเด็นที่สองคือ ข้อห่วงใยของสมาชิกบางท่านเห็นว่าร่างของ พท.และ ปชน.สุ่มเสี่ยงต่อการนําไปสู่การขัดหรือแย้งต่อคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พรรค พท.คํานึงถึงข้อกังวลที่ว่าสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งร่างของพรรค พท.ใช้ ส.ส.ร.เป็นผู้ยกร่าง ในมาตรา 256/6 เขียนไว้ชัดเจนว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้มีการเลือกตั้งผู้ที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 300 คน แล้วมาให้สภาคัดเลือกชื่อ นั่นคือสภามีหน้าที่เลือก ส.ส.ร. และข้อกังวลในเรื่องที่สองที่ไม่บัญญัติข้อห้ามในหมวด 1 และหมวด 2 ถ้ามีข้อกังวลจริงมีข้อเสนอว่าในชั้น กมธ.สามารถปรับแก้ได้ ให้นําบทบัญญัติหมวด 1 และหมวด 2 ในรัฐธรรมนูญปี 2560 มาบัญญัติไว้ด้วยเท่านี้ก็จะไม่ขัดแย้งแล้ว ประการที่สาม เมื่อมีการรับหลักการแล้วจะใช้ร่างไหนเป็นร่างหลักในการพิจารณา ดังนั้น ขอเสนอให้ใช้ร่างพท.เป็นร่างหลักในการพิจารณาแล้วนําเอาร่าง 2 ร่างมาพิจารณาในชั้น กมธ. จะทําได้ง่าย เพราะมีความครอบคลุมอยู่แล้ว เพราะถ้าสมมุติว่าใช้ร่างของพรรค ภท.ที่ใช้เวลา 1 ปี เมื่อร่างเสร็จแล้วเข้าสู่การพิจารณา 3 วาระ อาจต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน ไม่แน่ใจว่าแม้มีรัฐบาลใหม่โอกาสจะได้รัฐธรรมนูญใหม่เป็นไปได้ยากมาก นี่เป็นเหตุผลที่เสนอให้ร่างของพรรค พท.เป็นร่างหลักในการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่ … พ.ศ. … ทั้ง 3 ฉบับของ 3 พรรคการเมือง สมาชิกรัฐสภาจะอภิปรายในวาระรับหลักการต่อในวันที่ 15 ตุลาคมเป็นวันที่ 2 โดยมีกรอบเวลาการอภิปรายของทั้ง ส.ส.และ ส.ว.เสร็จสิ้นประมาณเวลา 12.00 น. จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา จะให้สมาชิกลงมติแบบขานชื่อเรียงตามตัวอักษร โดยมีสมาชิกที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 690 คน จากทั้งหมด 700 คน ซึ่งวาระรับหลักการต้องได้รับเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง คือ 345 เสียง ในจํานวนนี้ต้องมีเสียงเห็นชอบของ ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 67 เสียงเห็นชอบด้วย จากนั้นที่ประชุมจะพิจารณาว่าจะใช้ร่างใดเป็นร่างหลักในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ จํานวน 42 คน หากสมาชิกตกลงกันได้ก็ไม่จําเป็นต้องลงมติชี้ขาด
ข่าว
15 ต.ค. 2568 14:21 33 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 14:15 31 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 13:29 66 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 12:41 29 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 12:37 43 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 12:22 60 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 10:55 96 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 10:50 76 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 10:23 77 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 10:05 98 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 10:01 207 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 09:47 65 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 09:36 74 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 09:08 115 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 08:53 179 views
ข่าว
15 ต.ค. 2568 08:41 83 views