“สมศักดิ์” ชี้กระแสข่าวทาบ “วราวุธ” นั่งแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ยังเร็วเกินไป  ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาหาแคนดิเดตชิงนายกฯมั่นใจ เพื่อไทยเลือดหยุดไหลแล้ว มั่นใจการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ต่ํากว่า 100 ที่นั่งแน่นอน 

ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนําพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวลือกรณีพรรคเพื่อไทยทาบทามนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่า เรื่องของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรียังคง "เร็วเกินไป" ที่จะตัดสินใจ โดยยอมรับว่านายวราวุธเป็นบุคคลหนึ่งที่สังคมให้ความสนใจ มีบุคลิกดีและเป็นคนรุ่นใหม่ แต่การจะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่นั้น ยังไม่มีใครสามารถตอบได้ เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนของการคัดเลือก ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเพียง 1-2 สัปดาห์ก่อนการสมัครรับเลือกตั้งจริง

"ตามปฏิทินของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ก็ยังเหลืออีก 3 เดือนครึ่ง ถึงจะยุบสภา หลังจากนั้นต่อไปอีกเป็นเดือนถึงจะมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถ้าพูดวันนี้ยังเร็วเกินไป แต่ถ้าเป็นการโยนหินถามทางของสื่อมวลชน ก็ไม่มีปัญหา เป็นสิ่งที่ทําได้" นายสมศักดิ์กล่าว

เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกในฐานะแกนนําพรรค ที่อาจถูกมองว่าคนในพรรคไม่มีศักยภาพ นายสมศักดิ์ยืนยันว่ายังเป็นเพียงกระแสข่าวที่ไม่มีการพิจารณาใด ๆ และพรรคก็ยังคงมองหาตัวเลือกที่ดีที่สุด ในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า ส่วนกรณีที่มีการพูดคุยกับนายวราวุธมาก่อนหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการพูดคุยกัน

ส่วนการยอมรับ "คนนอกพรรค" มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น นายสมศักดิ์ให้ความเห็นส่วนตัวว่า "ไม่เป็นไร" หากเป็นคนที่สังคมรับได้ ไม่ได้เน้นว่าจะต้องเป็นคนในหรือนอกพรรค ขอเพียงเป็นคนที่ "เข้าใจบริบทของสังคม" ทั้งสังคมเมือง ชนบท และระหว่างประเทศ หากมีครบเครื่องก็คงดีที่สุด แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ค่อยลดสเปกลงมา  มีความกังวลว่าข่าวนี้จะทําให้พรรคเพื่อไทยเกิด "เลือดไหล" เพิ่มหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบสั้นๆ ว่า "ถึงเวลาเลือดน่าจะหยุดแล้ว"

เมื่อถามว่า พื้นที่ จ.สุโขทัย จะยังคงรักษาฐานเสียงทั้งหมดไว้ได้ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เข้าไปเจอพรรคการเมืองที่เขาทุ่มมากกว่าเรา แล้วเราไม่มีกําลังมากเท่าไหร่ ก็กลัวเหมือนกัน เรื่องของความกลัวแค่เห็นความมืดเรายังกลัวเลย แต่เราก็ต้องอยู่กับความเป็นจริง บางครั้งบอกว่าจะส่งผู้แทน แต่ก็ใช่ว่าจะได้ทั้งหมด การเลือกตั้งไม่มีใครจะแบเบอร์ทั้งหมด ที่คิดว่าแน่นอนก็อาจจะไม่ใช่แบบนั้น หรือบางครั้งคนใหม่ที่กระโดดเข้ามา ลงสนามการเมืองก็อาจจะได้รับเลือก คนเก่าสอบตกเยอะก็มี ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชน ว่าเขาอยากจะเปลี่ยนหรือไม่ เราต้องสังวรและระมัดระวัง ตั้งใจทํางานทุ่มเทเพื่อสังคมไม่ใช่ทําครึ่งไม่ทําครึ่ง ก็จะทําให้มีโอกาสสอบตก

เมื่อถูกถามถึงเป้าหมาย 200 ที่นั่งของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์มองว่านายสุริยะมีความมั่นใจเพราะมี "สรรพกําลัง" ที่สามารถช่วยลูกพรรคได้ ส่วนตนมีหน้าที่ให้คําปรึกษาจากประสบการณ์ พร้อมย้ําว่าการเลือกตั้งสมัยใหม่ต้องมี "ของครบเครื่อง"

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายคนมองว่าหาก"สุริยะ-สมศักดิ์" ไปอยู่พรรคใด พรรคนั้นก็ได้เป็นรัฐบาลเสมอ นายสมศักดิ์กล่าวว่า "อย่าประมาทสังคม อย่าประมาทการเมือง" แต่อดีตก็เป็นประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น และไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ ส่วนพรรคภูมิใจไทยที่ถูกมองว่าน่ากลัว นายสมศักดิ์กล่าวว่า "กลัวเป็นเขตๆ ไม่กลัวเป็นเขตๆ บางเขตก็น่ากลัว บางเขตก็ไม่น่ากลัว"

เมื่อถูกถามถึงพรรคกล้าธรรมในพื้นที่ จ.สุโขทัย ที่มีหัวหน้าพรรคตั้งเป้าเป็นนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ยอมรับว่า "ใครสู้กับพรรคกล้าธรรม ก็ต้องระมัดระวังหน่อย" เพราะอาจมีความประสงค์อันแรงกล้า ทําให้การแข่งขันหนักขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามถึงความกังวลว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ สส. ต่ํากว่า 100 ที่นั่ง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "เป็นไปไม่ได้หรอก เอาความคิดนี้ทิ้งไป เป็นไปไม่ได้หรอก และนายสุริยะ ได้ประกาศเอาไว้นั้นเป็นสิ่งที่ตัวตั้ง ให้ใช้ตัวเลขนั้นมาคุยดีกว่า ต่ําร้อย เลิกคุยไปเลย เลิกคิดได้แล้ว"