"อนุทิน" ประชุม กต. เตรียมเจรจากัมพูชา เน้นย้ําไทยยึดมั่นสันติภาพ-อธิปไตย ปฏิเสธข่าว "ขีดเส้นตาย 10 ต.ค." ผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ ย้ําดําเนินการตามกฎหมาย รักษาเกียรติภูมิประเทศ ละมุนละม่อมที่สุด! ตอบกลับหนังสือ "ทรัมป์" เพื่อขอบคุณมิตรภาพ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบายที่กระทรวงการต่างประเทศว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อหารือเตรียมการเจรจากับฝ่ายกัมพูชา รวมทั้งตอบกลับจดหมายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งได้ส่งหนังสือถึงตน ซึ่งเนื้อหาเป็นการขอบคุณในความปรารถนาดีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการเห็นสันติภาพเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะความขัดแย้งของไทย-กัมพูชา ซึ่งไทยยืนยันว่าเชื่อมั่นในสันติภาพและมีจุดยืนที่ต้องการให้การดําเนินการต่างๆ นําไปสู่สันติภาพและความสงบสุขในอนาคต

นายอนุทินกล่าวว่า ไทยยึดมั่นในแนวทางสันติภาพ และมุ่งให้ทุกการดําเนินการนําไปสู่ความสงบสุขในอนาคต โดยจะยึดข้อตกลงร่วมกับกัมพูชาที่เคยมีไว้ เช่น การถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การจัดการกับสแกมเมอร์ และการบริหารพื้นที่ในเขตประเทศไทยให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า การแก้ไขปัญหาควรเกิดจากความร่วมมือโดยตรงระหว่างสองประเทศ

ส่วนกรณีที่ทางเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจํากัมพูชา ออกมาระบุว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการแก้ไขปัญหา นายอนุทิน กล่าวว่า เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจําประเทศไทยก็ยืนยันเช่นนั้น อย่างไรก็ตามตนขอย้ําว่านี่เป็นเรื่องของไทยและกัมพูชา ซึ่งตนมองว่าประเทศอื่นมีความปรารถนาดีที่จะเห็นสถานการณ์ ที่จะไม่นําไปสู่ความรุนแรง 

เมื่อถูกถามถึงบทบาทของสหรัฐฯ ที่แสดงความพร้อมจะเป็นตัวกลาง นายอนุทินกล่าวเพียงว่า รายละเอียดให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดําเนินการ เพราะมีอํานาจเต็มในการเจรจา

สําหรับการที่ สื่อ ขแมร์ไทม์ส รายงานว่านายกรัฐมนตรี “ขีดเส้นตาย” วันที่ 10 ตุลาคมให้ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว นายอนุทินยืนยันหนักแน่นว่า “คําว่าเส้นตาย ไม่เคยออกจากปากรัฐบาลไทย” พร้อมย้ําว่า ทุกการดําเนินการจะเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย และอยู่บนพื้นฐานของมนุษยธรรม

“รัฐบาลจะไม่ทําอะไรตามอําเภอใจ ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้หลักกฎหมาย และต้องรักษาเกียรติภูมิของประเทศ ด้วยวิธีที่ละมุนละม่อมที่สุด” นายอนุทินกล่าว

นายกรัฐมนตรีระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลให้ความสําคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของประชาชนและอธิปไตยของประเทศ โดยฝ่ายความมั่นคงได้เตรียมมาตรการไว้แล้ว ทั้งนี้รัฐบาลจะสนับสนุนให้กองทัพและกระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติภารกิจให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมเตรียมการฯ เป็นที่สังเกต ว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย บิดา นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมในการประชุมด้วย ซึ่งมีรายงานว่า นายสันติ อาจเข้ามามีตําแหน่งในทางการเมืองต่อไป

ทั้งนี้ หลังจบการประชุม นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นํานายกรัฐมนตรี และผู้บริหารกระทรวงต่างประเทศ เดินชมห้องแถลงข่าว พร้อมเอ่ยชมว่า “สวย ไฮเทค ดูดี และมีความพร้อม” จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้สักการะพระพุทธราชไมตรีศรีสัมพันธ์ พระพุทธรูปประจํากระทรวงการต่างประเทศ พระรูปสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจํากระทรวงการต่างประเทศ เพื่อความเป็นสิริมงคล