สหรัฐฯ เผชิญภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ เดโมแครตยื่นข้อเสนอเพิ่มผลประโยชน์ด้านสุขภาพ รีพับลิกันเมิน หาก 2 พรรคการเมืองยังตกลงงบประมาณไม่ได้ "ทรัมป์" ขู่ปลดพนักงานรัฐบาลกลาง

สํานักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การปิดดําเนินงานของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือ "ชัตดาวน์" ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 และยังคงยืดเยื้อต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ เนื่องจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวได้

ความขัดแย้งหลักอยู่ที่พรรคเดโมแครตเรียกร้องให้มีการเพิ่มผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ และขยายระยะเวลาให้เงินอุดหนุนภายใต้กฎหมาย Affordable Care Act (ACA) ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประชากรกลุ่มรายได้น้อยหลายล้านคนเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว และยังไม่ได้เสนอแผนการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน

วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น สมาชิกวุฒิสภามีกําหนดจะลงมติในเรื่องงบประมาณเป็นครั้งที่ 5 หลังจากที่การลงมติครั้งที่ 4 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แผนงบประมาณชั่วคราวที่พรรครีพับลิกันเสนอถูกโหวตคว่ําไป ล่าสุด เจ้าหน้าที่อาวุโสทําเนียบขาวเปิดเผยว่า หากการเจรจากับพรรคเดโมแครตไม่คืบหน้า ประธานาธิบดีทรัมป์อาจเริ่มปลดพนักงานรัฐบาลกลางจํานวนมาก

สถานการณ์ชัตดาวน์ครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นในวันแรกของปีงบประมาณ 2569 หลังจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตโหวตคว่ําร่างงบประมาณระยะสั้นที่จะช่วยให้หน่วยงานรัฐสามารถเปิดทําการต่อไปได้จนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 การเจรจาระหว่างทรัมป์และผู้นําสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ก่อนก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการพูดคุยกันอีกในเร็วๆ นี้ ทําให้วิกฤตงบประมาณของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะสุญญากาศ