วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568
3 ต.ค. 2568 10:21 | 91 view
@pracha
ตม.1รวบหนุ่มชาวโปรตุเกสสแกมเมอร์ระดับโลกหลังก่อคดีฉ้อโกงคริปโตฯ และบัตรเครดิต มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 หมื่นล้านบาท จนมุมคาห้างดัง กลางกรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พร้อมชุดทํางานหลัง ทราบว่า มีหนุ่มชาวโปรตุเกส นักต้มตุ๋นระดับพระกาฬ เป็นที่ต้องการตัวในหลายประเทศ ทั้งในยุโรป และเอเชีย โดยทราบจากข้อมูลจากนักผู้สื่อข่าวต่างประเทศของสํานักพิมพ์ท้องถิ่นโปรตุเกส ว่าเข้ามาในกบดานในประเทศไทย และน่าจะก่อคดีฉ้อโกงทรัพย์และเป็นบุคคลที่มีหมายจับในประเทศไทยด้วย โดยจดจําตําหนิรูปพรรณได้ นับเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 2 ปี ของนักต้มตุ๋นชื่อดังชาวโปรตุเกส
โดยทีมสืบสวนเริ่มต่อจิ๊กซอว์ด้วยการนําภาพใบหน้าของเป้าหมายที่สื่อโปรตุเกสมีการตีข่าวอย่างใหญ่โต มาเปรียบเทียบในระบบไบโอเมตริกซ์ จนสามารถยืนยันตัวบุคคลต่างด้าวเป้าหมายได้ว่าคือนายคาร์ลอส ลาโปโซ่ (Carlos Laposo) อายุ 39 ปี เกิดที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส จากการตรวจสอบข้อมูลด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ของสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ปี พ.ศ.2566 ในฐานะนักท่องเที่ยว ก่อนจะก่อคดีฉ้อโกงโดยหลอกลงทุนบิตคอยน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท
แต่จากการตรวจสอบพบว่าคดีดังกล่าวได้มีการถอนหมายจับออกจากระบบ ก่อนที่ต่อมา นาย คาร์ลอส ลาโปโซ่ ได้หนีไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ภาคใต้และหายตัวไปจากสารบบ ของสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง ไม่มีการขอต่อวีซ่า หรือแจ้งที่พักอาศัย เป็นเวลาเกือบ 2 ปี จนกระทั่งได้รับเบาะแสสําคัญ เวลาประมาณ 15.00 น.เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา
มีชาวโปรตุเกสซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวอ้างว่าได้พบตัวนักต้มตุ๋นรายนี้ กลางกรุงเทพมหานคร จึงรีบลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายจุดในบริเวณที่มีการอ้างถึง โดยจุดสุดท้ายพบบริเวณ ถ.พระราม 1 ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดัง จึงได้นํากําลังตํารวจชุดสืบสวนกว่า 10 นาย แฝงตัวลงพื้นที่ค้นหาในห้างสรรพสินค้า กว่า 5 ชั่วโมงนับจากได้เบาะแส จนพบชายชาวต่างชาติตําหนิรูปพรรณตรงกับเป้าหมายกําลังยืนโทรศัพท์อยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จึงส่งสัญญาณให้ทีมสืบสวนเข้าแสดงตัว ขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง พบการตรวจลงตราครั้งสุดท้ายคือเมื่อปี 2566 เบื้องต้นเจ้าตัวรับว่าอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดจริง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
จากการตรวจสอบประสานฐานข้อมูลตํารวจสากลพบประวัติก่อคดีต้มตุ๋นมาแล้วทั้งในประเทศโปรตุเกสเอง ในยุโรป ก่อนจะหลบหนีมาที่ฟิลิปปินส์ และมาจนมุมที่ประเทศไทย มูลค่าความเสียหายรวมตามที่ผู้สื่อข่าวโปรตุเกสรายงานยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารในสวิสเซอร์แลนด์กว่า 500 ล้านยูโร (19,000 ล้านบาท) รูปแบบแผนประทุษกรรมมีทั้งฉ้อโกงโดยหลอกลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ และฉ้อโกงบัตรเครดิต ปลอมแปลงหนังสือเดินทาง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม นาย คาร์ลอส ลาโปโซ่ (Carlos Laposo) จะถูกดําเนินคดีและบันทึกชื่อเป็นบุคคลต้องห้าม ก่อนจะถูกส่งกลับไปยังประเทศโปรตุเกส ตามกฎหมายคนเข้าเมืองต่อไป... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5394961
ข่าว
3 ต.ค. 2568 14:52 31 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 14:45 29 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 14:35 28 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 14:14 44 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 14:09 43 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 13:48 36 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 13:35 80 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 12:53 140 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 12:48 78 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 12:48 57 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 12:39 91 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 12:36 78 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 12:06 81 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 11:47 82 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 11:36 115 views
ข่าว
3 ต.ค. 2568 11:27 76 views