วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2568
2 ต.ค. 2568 15:45 | 73 view
@pracha
'อนุทิน' ให้สัตยาบรรณกลางสภา หลังถูกถามกระทู้ถนนยุบ ไม่แทรกแซงการตรวจสอบ-เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ลั่นเหมือนไม่รู้จักซิโน-ไทย เหตุออกมา 20 ปีแล้ว บอกไม่มีมนุษย์หน้าไหนเอื้อประโยชน์ให้คนทําผิด
02 ต.ค.2568 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯคนที่สอง เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาของนายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กทม. พรรคประชาชน(ปชน.) เรื่องถนนยุบ ถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้ติดตามข่าวที่นายกฯลงพื้นที่ด้วยตนเองหลายครั้ง ในวันที่เกิดเหตุ 24 ก.ย.หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล สิ่งที่เราเห็นคือเป็นการถล่มของความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อโครงการรัฐบาล โดยวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นหลุมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย โชคดีแค่ไหนที่ไม่มีการสูญเสียในครั้งนี้แต่ครั้งหน้าโชคอาจจะไม่ได้อยู่ข้างเรา ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้คือประชาชนรู้สึกหวาดผวาไม่กล้าใช้ถนนเส้นนี้ และจุดอื่น โดยเฉพาะถนนที่สร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน ผู้ป่วยและบุคลากรในโรงพยาบาล ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้าถึงการรักษาและการเดินทางการสัญจร รวมถึงชุมชนที่พักอาศัย ร้านค้าต้องสูญเสียรายได้และเกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของตนเองอยู่ตลอดเวลา และการจราจรมีความปั่นป่วน เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุทางวิศวกรรมธรรมดา แต่คือสัญญาณเตือนภัยต่อโครงการของรัฐระดับใหญ่ที่ใช้งบประมาณนับหมื่นล้านบาท
นายปารเมศ กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยเสนอความเป็นไปได้สาเหตุที่ดินถล่มลงมาคือ 1.ดินรองรับอุโมงค์บนและอุโมงค์ล่างไหลไปที่อุโมงค์ล่าง เพราะมีปัญหาเรื่องจุดเชื่อมต่อทําให้อุโมงค์ชั้นบนสูญเสียชั้นดินที่รองรับจึงอาจจะถล่มลงมา 2.ดินรองรับอุโมงค์บนและอุโมงค์ล่างสูญเสียกําลังในการรับน้ําหนัก เกิดการกลายสภาพเป็นของเหลวทําให้ดินอ่อนตัวจนไม่สามารถค้ําอุโมงค์ได้ ทําให้อุโมงค์บนหล่นมาทับอุโมงค์ล่าง และ 3.อาจเกิดจากความบกพร่องของโครงสร้างอุโมงค์ เพราะอุโมงค์ถูกต่อจากชิ้นส่วนต่างๆ ที่ต่อเป็นวงกลมหลายชั้น มีรอยต่อเป็นจํานวนมาก หากเพียงแค่ชิ้นใดชั้นหนึ่งมีความชํารุดก็อาจทําให้ทั้งโครงสร้างพังถล่มลงมาทั้งระบบได้
“ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตามถ้าโครงสร้างหลักอุโมงค์สร้างเสร็จและได้มาตรฐานต่อให้ฝนตกหนักเท่าไหร่หรือต่อให้น้ําจากท่อประปาแตก ก็ไม่ควรที่จะมีดินถล่มลงมาขนาดนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ในการตามล่าหาความจริงมาเปิดเผยต่อสาธารณะโดยเร็วที่สุด เพราะตราบใดที่รัฐบาลยังหาสาเหตุไม่เจอ ท่านก็จะไม่มีวันสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เลย และท่านจะไม่สามารถป้องกันให้เหตุนี้เกิดขึ้นซ้ําแล้วซ้ําอีกในอนาคต แล้วประชาชนจะมีความเชื่อมั่นต่อโครงการของรัฐได้อย่างไร” นายปารเมศ กล่าว
นายปารเมศ กล่าวอีกว่า กรณีนี้อาจจะแย่กว่าตึกถล่มของ สตง. เพราะยังทราบเหตุผลที่ชัดเจนว่าได้รับผลกระทบของแผ่นดินไหวอย่างน้อยเรามีที่มา แต่กรณีถนนยุบ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ออกมาชี้แจงว่า โครงสร้างหลักของอุโมงค์ได้สร้างเสร็จมาหลายเดือนแล้ว และมีการเปิดให้ใช้ถนนในการสัญจรให้รถวิ่งถนนนี้ทุกวันเป็นจํานวนมาก นั่นแปลว่าหน่วยงานที่ท่านกํากับดูแลเชื่อว่าอุโมงค์โครงสร้างหลักนี้มีความปลอดภัยได้รับมาตรฐานที่ดี โดยคําถาม 1. คือ มาตรการการแก้ไขท่านจะคืนผิวถนนที่มีคุณภาพทําให้ประชาชนเชื่อมั่นและท่านจะทําเสร็จเมื่อไหร่ รวมถึงการซ่อมอุโมงค์ คําถาม 2. คือมาตรการการเยียวยาท่านจะช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนอย่างไรทั้งผู้ประกอบการที่สูญเสียรายได้ประชาชนที่พักอาศัยอาศัยอยู่ในบริเวณรอบข้างผู้ป่วยบุคลากร ทางการแพทย์ และผู้ป่วยที่รับยาที่โรงพยาบาลทางรัฐบาลมีมาตรการเยียวยาอย่างไร และคําถามที่ 3. คือมาตรการการป้องกันทางรัฐบาลมีมาตรการเชิงรุกการตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุแบบนี้เกิดขึ้นสําหรับการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ดําเนินการอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสายสีม่วง หรือสายสีส้ม รวมถึงท่านจะยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างที่มีความเสี่ยงลักษณะนี้อย่างไร
โดยนายอนุทิน ชี้แจงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่นําความเสียใจและผิดหวังมาให้ ในฐานะที่เป็นนายกฯ ที่กําลังจะนําคณะรัฐมนตรี(ครม.)เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯในช่วงเย็นวันดังกล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ได้รับรายงาน และได้ลงไปในที่เกิดเหตุทันที และขณะนี้ความเสียหายเกิดขึ้นที่บริเวณถนนสามเสน หน้าโรงพยาบาลวชิระ และสถานีตํารวจนครบาลสนามเสน สิ่งที่นายปรเมศ ได้อภิปรายมานั้นได้รับทราบสาเหตุแล้ว เมื่อได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ก็ได้เร่งสั่งการให้นายพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รองนายกฯและรมว.คมนาคม ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดเยเร็ว เมื่อทราบสาเหตุที่แม่นยํา และขอให้รายงานผลการตรวจสอบมายังตนทุกสัปดาห์ ซึ่งการตรวจสอบนี้ได้เน้นย้ําไป
นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องขอบคุณที่นายปรเมศ กล่าวถึงตึก สตง.ด้วย ซึ่งในเรื่องถนนยุบมีความไม่สมบูรณ์ทางวิศวกรรมอย่างแน่นอน ซึ่งก็ใช้หลักเดียวกับตึก สตง.ที่เกิดดเหตุการแผ่นดินไหว ซึ่งในกรณีถนนยุบ จะขอให้รมว.คมนาคมได้เชิญผู้แทนจากกรุงเทพฯมาร่วมเป็นกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว มั่นใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องทางวิศวกรรมศาสตร์ เราจะต้องพบจุดบกพร่องและนํามาชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ ตลอดจนหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีกในอนาคตอย่างแน่นอน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สําหรับการแก้ปัญหาในพื้นที่นั้นขณะนี้ทาง รฟม.ได้เร่งรัดดําเนินการเพื่อคืนสภาพพื้นที่ในบริเวณที่เกิดเหตุให้กับประชาชนที่สัญจรทั่วไป ตลอดจนพี่น้องประชาชนที่พักอาศรัยและใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณดังกล่าว ที่สําคัญต้องให้ความดูแลอย่างเต็มที่กับ ผู้ป่วย บุคคลากรทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลวชิระ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตํารวจของสถานีตํารวจนครบาลสามเสน ทาง รฟม.ได้ให้ความมั่นใจมาว่าการคืนพื้นผิวจราจนบนถนนสามเสน จํานวน 2 ช่องจราจรจะใช้ได้ในวันที่ 9 ต.ค.นี้ โดยในระหว่างการดําเนินการแก้ปัญหาและคืนสภาพพื้นที่เรามีการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัด เคลื่อนตัวของอาคารและให้เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตุการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
นายกฯ กล่าวว่า ขั้นตอนในการคืนพื้นผิวถนนก็ได้ดําเนินการไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ในการเตรียมการคืนพื้นที่ผิวการจราจร ตอนนี้หยุดการไสลด์ของดินเรียบร้อย และต้องถมทรายอีกประมาณ หมื่นกว่าคิว หลังจากนั้นก็จะเติมหินคลุกเพื่อให้แน่นอนและทําการลาดยาง เพื่อคืนพื้นผิวจราจร ให้กับผู้สัญจรตอไป และรฟม.ก็ได้รับความร่วมมือที่ดีมาจาก กทม.ในการให้ความร่วมมือตรวจสอบสแกนโพรงใต้ดินที่เกิดเหตุให้เพื่อสามารถความคุมสถานการณ์ ลดความเสียที่อาจเกิดอันตรายต่อประชาชน ทั้งนี้ขณะนี้คณะกรรมการกําลังตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตนได้รับการยืนยันจาก รฟม.และรมว.คมนาคม ว่าให้ รฟม.ยึดถือและปฏิบัติตามมาตรฐานการก่อสร้าง ที่เป็นที่ยอมรับได้มาตรฐานทางวิศวกรรม และได้รับการยืนยันมาว่าทุกอย่างได้ดําเนินกการด้วยหลักมาตรฐานทางวิศกรรมให้มั่นคงแข็งแรง เน้นความปลอดภัยของประชาชน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอกย้ําถึงสิ่งที่เราจะต้องไปหาสาเหตุซึ่งจะติดตามการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุนี้ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิดโดยใช้กลไกร่วมกันเพราะใช่ปล่อยให้ รฟม.หาสาเหตุฝ่ายเดียว และให้กรมโยธาธิการ ประสานงานสภาวิศวกร เพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น หาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องการซ่อมอุโมงค์นั้น เราต้องเร่งคืนพื้นผิวจราจรโดยด่วนก่อน และทําการ ซ่อมอุโมงค์ทั้งสองชั้นให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้และมีความปลอดภัยตามสัญญาต่อไปส่วนเรื่องของการเยียวยาผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนได้กําชับให้ทางกระทรวงคมนาคมและผู้ว่าการ รฟม.ด้วยตัวเองว่าถึงแม้ว่าไม่ได้ระบุอยู่ในสัญญาก่อสร้างว่าจะต้องมีการเยียวยาอย่างไร แต่ถ้ามีเหตุอันไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นเช่นนี้ต้องถือว่าเป็นเหตุที่มีนัยยะสําคัญ ทางกระทรวงคมนาคมและรฟม.ก็จะต้องหารือและสั่งการให้ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ รวมถึงการเยียวยาผู้สูญเสียโอกาสทํามาหากิน ที่จะสร้างรายได้ด้วย
“ขณะนี้กระทรวงคมนาคมเร่งจัดตั้งกรรมการสอบสวนและนําผลมาศึกษาวิเคราะห์หาความผิดพลาด บกพร่อง และต้องออกมาตรการการดําเนินการก่อสร้างใหม่ หากพบความผิดพลาดจากเทคนิคต้องดําเนินการแก้ไข แต่หากเกิดจากความสะเพร่าหรือเลินเล่อของผู้รบจ้าง ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบตามสัญญาที่กํานดไว้ ขณะเดียวกันการตรวจสอบตึก สตง.ถล่ม ได้ติดตามทุกสัปดาห์ ซึ่งผมเชื่อว่าจะได้คําตอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” นายอนุทิน ชี้แจง
ทั้งนี้นายปารเมศ ตั้งคําถามความเกี่ยวพันธะทางการเมืองระหว่างนายกฯ ฐานะอดีตผู้บริหารบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จํากัด (มหาชน) ขณะที่ผู้รับจ้างคือกิจการร่วมค้า ช.การช่างและ ซิโน-ไทย ดังนั้นการตั้งกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจะให้ความมั่นใจต่อการตรวจสอบที่ตรงไปตรงมาได้อย่างไร อย่างไรก็ตามขอให้กรรมการที่ตั้งขึ้น ขอให้ทํางานเป็นอิสระ และทํางานเพื่อปกป้องผลประโยชน์รัฐไม่ใช่นายทุน นอกจากนั้นการตรวจสอบของเหตุการณ์
“ขณะนี้ยังไม่ได้ยินจากนายกฯ ว่าจะดําเนินการเอาผิดกับผู้รับจ้างอย่างไร หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความบกพร่องของการก่อนสร้างหรือการออกแบบ ดังนั้นขอให้นายกฯพูดให้ชัดเจนว่าจะดําเนินคดีหรือเรียกค่าเสียหายจากผู้รับจ้างหรือหน่วยงานภาครัฐ จะแบล็กลิสต์ หรือ ระงับการรับงานโครงการภาครัฐในอนาคตหรือไม่ รวมไปถึงการเรียกร้องค่าเสียหายหากการส่งมอบงานล่าช้ากว่ากําหนด ที่สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงครั้งนี้ และจะทําอย่างไรไม่ให้เกิดข้อครหาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้” นายปารเมศ กล่าว
จากนั้น นายอนุทิน ชี้แจงว่าในประเด็นความเกี่ยวข้องกับบริษัทผู้รับจ้าง ว่าอยู่ในการเมือง เป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2547 มาจากภาคเอกชน ไม่ต่างจากผู้สถาปนาพรรคอนาคตใหม่ เมื่อตัดสินใจทํางานการเมือง รู้ถึงข้อจํากัดต้องเคลียร์ตัวเองให้เกลี้ยง ใช้เวลา 21 ปีในการเมือง ซึ่งการออกจากการเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนหลายแห่ง ไม่เฉพาะบริษัทซิโน-ไทย เท่านั้น และเมื่อมีการเลือกตั้ง 2562 รู้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีโอกาสเข้าทํางานในสภา อย่างยั่งยืน สิ่งล่าสุดที่ทําเมื่อปีนั้น คือ ขายหุ้นในบริษัท ซิโน-ไทย ผ่าน กลต. จนหมด และไม่มีการถือหุ้นใดๆ ที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ กฎระเบียบที่ทํางานการเมือง
“ผมไม่เกี่ยวข้องกิจการภาคเอกชนใดๆ ตั้งแต่ลาออกมาทํางานภาคการเมือง และเมื่อพ้นตําแหน่งทางการเมืองปี2549 ไม่ได้กลับเข้าไปทํางานภาคเอกชนอีก กรณีนี้บริษัทรับจ้างที่ผมทํางาน 20 ปีก่อน การปกป้องเพื่อให้ประโยชน์ไม่มี ผมและซิโน-ไทย เหมือนไม่รู้จักกัน รู้แค่เป็นบริษัทก่อสร้างและทําธุรกิจอยู่ แต่เมื่อผมอยู่ในภาครัฐ ไปตรวจดูได้ว่า ไม่มีตรงไหนที่ผมเคยใช้ความเกี่ยวข้อง อิทธิพล การโน้มน้าวใดๆ ช่วยเหลือบริษัทนี้ ผมสบายใจที่จะตอบว่า ผมให้สัตยาบรรณว่านอกจากจะให้อิสระในการตรวจสอบ รวมถึงการตั้งกรรมการตรวจสอบความเสียหาย ที่เป็นสิทธิของ รมว.คมนาคม ทั้งนี้การตรวจสอบต้องเน้นประโยชน์ของรัฐของราชการเป็นสําคัญ” นายอนุทิน ชี้แจง
นายปารเมศ ได้ถามอีกว่า เชื่อว่าประชาชนติดตามและได้ฟังคําชี้แจงของนายกฯ และขอฝากอีกว่า 1. คณะกรรมการการตรวจสอบ ความหมายคือควรจะมีองค์กรที่เป็นอิสระที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพเข้าร่วมการตรวจสอบด้วย และเป็นจํานวนที่มากเพียงพอที่จะให้ความเห็นที่มีน้ําหนักและประชาชนก็จะติดตามผลต่างๆ ในการตรวจสอบของคณะกรรมการด้วย ซึ่งตนเรียกร้องว่าผลการตรวจสอบแต่ละขั้นตอน ขอให้ท่านเปิดเผยต่อสาธารณะในทุกขั้นตอน ตนและเพื่อนๆสมาชิกพรรคประชาชนและประชาชนอีกมากมายจะคอยตรวจสอบในการตรวจสอบครั้งนี้ด้วย
“ผมขอเรียกร้องให้นายกฯ ใช้ความกล้าหาญทางการเมืองดําเนินดําเนินการเรื่องนี้อย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมา สุดท้ายท่านมีเวลา 4 เดือน ผมขอฝากเรื่องระบบ เซลล์บอร์ดแคส ว่าวันที่เกิดเหตุผมลงพื้นที่ ประชาชนไม่รู้จะเอาข่าวสารที่รวดเร็วและแม่นยําจากไหน มีคนถามผมเยอะ นี่คือความไม่ชัดเจนคือความมืดมนท่ามกลางโศกนาฏกรรม ผมจึงต้องฝากว่ามีเวลา 4 เดือนให้รีบทํา และเพื่อให้สภาฯ แห่งนี้มีส่วนร่วมในการหาทางออกอย่างรอบด้านพรรคประชาชนจะยื่นญัตติด่วนให้เพื่อนสมาชิกได้เสนอข้อคิดเห็นและความเห็นต่างๆที่เป็นประโยชน์รวมถึงการตรวจสอบในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย“นายปารเมศ กล่าว
นายอนุทิน ชี้แจงว่า ในการตรวจสอบหากพบว่าเป็นความบกพร่องจากการก่อสร้าง ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบ ซึ่งในขั้นตอนนั้น รฟม.มีบริษัทตรวจการจ้างดูแล ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีทางที่มนุษย์หน้าไหนเอื้อประโยชน์ให้คนที่ทําผิด ผู้รับจ้างเหนื่อยแน่ ต่อให้เคลียร์ตัวเองได้ ต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรม หากพิสูจน์พบว่าบกพร่องรุนแรง มีขั้นตอนจะต้องเสียค่าชดใช้ตามสัญญาที่กําหนดไว้ชัดเจน เท่าที่ทราบ คือ สิ้นสุดเดือน ส.ค.2570 หากส่วนที่เสียหายที่ต้องซ่อมเมื่อวันสัญญาสิ้นสุด ทําไม่เสร็จ ค่าปรับเดินแน่นอน
"ผมขอให้ความมั่นใจ เรื่องพวกนี้ ผมไม่เคยเสียหาย มีแต่เสียเพื่อนหลายคนแล้ว เพราะไม่ได้ใช้อิทธิพลหรือใช้อํานาจใดๆ ช่วยเหลือ หากใครขอผมจะเจอแต่ความว่างเปล่า แม้จะส่งไลน์มา ผมกดทิ้งไม่อ่านและจะบล็อกด้วย เพราะผมยึดถือการปกป้องประโยชน์ประเทศเป็นสําคัญ ซึ่งการตั้งกรรมการนั้นยืนยันว่าต้องมีผู้เชี่ยวชาญรอบด้าน ไม่มีการช่วยเหลือใดๆ นอกจากไม่มีแล้ว ผมจะช่วยกระทืบด้วย เพราะเรื่องเหล่านี้ทําให้พวกผม ตัวผมเองในฐานะวิศวกรรู้สึกไม่ดี และผมเองจะติดตามงานด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด และทุกครั้งหลังประชุมจะเปิดเผยต่อสาธารณะทุกครั้ง ส่วนเรื่องเซลล์บอร์ดแคส มีแล้ว เสียดายผมไปพักร้อน 2 เดือนกว่า ถ้าผมอยู่อย่างต่อเนื่องเหตุการณ์เหล่านี้ประชาชนจะรู้มากกว่านี้ 4เดือนนี้รู้มากกว่านี้แน่นอนและรู้เร็วกว่านี้ ถือว่าเป็นการแถมก็แล้วกัน เพราะหัวหน้านายณัฐพงษ์ บอกให้ผมแก้รัฐธรรมนูญกับยุบสภา แต่เรื่องนี้ผมจะรับข้อเสนอของท่านไปดําเนินการ”นายอนุทิน ชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการตอบกระทู้ถามสดดังกล่าวของนายอนุทินดังกล่าวถือเป็นกระทู้แรกนับตั้งแต่รับตําแหน่งนายกฯ
ข่าว
2 ต.ค. 2568 16:04 137 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 15:45 69 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 15:45 70 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 15:45 74 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 15:29 64 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 15:22 74 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 15:08 104 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 14:59 82 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 13:33 96 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 13:06 112 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 13:01 81 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 12:47 83 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 12:35 88 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 12:18 92 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 10:39 131 views
ข่าว
2 ต.ค. 2568 10:26 118 views