×
Live หน้าหลัก ทันเหตุการณ์ ทั่วไป ข่าวพระราชสำนัก คุณภาพชีวิต อาชญากรรม เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา สิ่งแวดล้อม ทหาร การเมือง ภูมิภาค บทความ บันเทิง Life แฟชั่นและความงาม อาหารและสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การเงินและการลงทุน โชคชะตาและความเชื่อ กิจกรรม ททบ. กิจกรรม ทบ. แนะนำรายการ หน่วยงานและเอกชน พอดแคสด์ FM94 ศูนย์ข่าววิทยุ ติดต่อเรา

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568

?>

ขุนคลัง โชว์ 5 เสาหลักกลางสภา ดัน ‘Quick Win’ กู้ศก.ติดหล่ม ดึงจีดีพีQ4 โตเกิน 0.3% ลุยตั้ง AMC กดหนี้ครัวเรือนต่ํากว่า 87%

 30 ก.ย. 2568 15:41 | 763 view

 @pracha

Facebook X Share

ขุนคลัง โชว์ 5 เสาหลักกลางสภา ดัน ‘Quick Win’ กู้ศก.ติดหล่ม ดึงจีดีพีQ4 โตเกิน 0.3% ลุยตั้ง AMC กดหนี้ครัวเรือนต่ํากว่า 87%

30 กันยายน 2568 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ ภายใต้การนําของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมวางแผนนโยบายเพื่อแก้ไขสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะวิกฤต โดยมีการเปรียบเทียบเศรษฐกิจไทยเหมือนกับรถยนต์ ที่กําลังวิ่งลงเหว หรือกําลังใกล้จะติดหล่ม หากไม่มีการดําเนินการใดๆ สถานการณ์อาจรุนแรงถึงขั้นดิ่งเหว ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของ 3 หน่วยงานเศรษฐกิจภาครัฐ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) สําหรับไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.7% และจะลดลงเหลือเพียง 0.3% ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งบ่งชี้ว่าใกล้จะติดลบมาก ดังนั้นรัฐบาลชุดนี้มีเป้าหมายที่ชัดเจน คือการทําให้จีดีพีไตรมาส 4 ดีกว่าที่คาดการณ์ 0.3% ลดหนี้ครัวเรือนลงจาก 87.4% ให้อยู่ต่ํากว่า 87% และเพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงเม็ดเงินลงทุนจริงจากสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งการดําเนินงานทั้งหมดนี้ จะช่วยให้รถยนต์เศรษฐกิจไทยฟื้นจากหล่มได้ในระยะสั้น และเพิ่มขีดความสามารถในระยะยาว

นายเอกนิติ กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้สรุปแนวทางแก้ไขปัญหาโดยใช้หลักคิดกระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว โดยมีกรอบเวลา 4 เดือน เพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาวและกระจายประโยชน์ไปยังทุกพื้นที่ รวมถึงดูแลผู้ประกอบการรายย่อย และปากท้องประชาชน นโยบายนี้เรียกว่า Quick Win ซึ่งต้องทํา สั้น (Quick) ใหญ่ (Big) พอที่จะดันเศรษฐกิจ และให้ประชาชนได้รับประโยชน์ (Win) โดยการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจแบ่งออกเป็น 5 เสาหลัก ได้แก่

เสาหลักที่ 1 การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว คนละครึ่งพลัส นโยบายนี้ใช้หลักการกระตุ้นสั้น ได้ยาว และกระจายตัว เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ ซึ่งในสัปดาห์หน้าหน้าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายได้ 200 บาทต่อวัน ซึ่งจะใช้ทันตุลาคมนี้แน่นอน และโครงการนี้จะเน้นให้ความช่วยเหลือแก่พ่อค้าแม่ค้ารายเล็ก รายย่อย หาบเร่ แผงลอย และแท็กซี่ เพื่อให้เกิดการกระจายตัว นอกจากนี้ ในคําว่าพลัส เพื่อผลยาว โดยผู้เสียภาษีที่อยู่ในระบบจะได้รับเงิน 2,400 บาท เพื่อจูงใจให้ประชาชนเข้าระบบภาษี หวังว่าระยะต่อไป ประชาชนจะเข้าระบบมากขึ้น ขณะเดียวกัน จะมีการเพิ่มทักษะ (Skill) ให้แก่พ่อค้าแม่ค้าในการขายของออนไลน์ (E-commerce) รวมถึงการทําบัญชีดิจิทัล ซึ่งจะเชื่อมโยงกับการพิจารณาปล่อยสินเชื่อจากธนาคาร ทั้งนี้ ในการเดินหน้าโครงการดังกล่าว รัฐบาลให้ความสําคัญกับวินัยการคลัง ซึ่งไม่ได้มีการใช้เม็ดเงินใหม่ แต่ใช้กรอบงบประมาณเดิมที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลชุดที่แล้ว งบกระตุ้น 25,000 ล้านบาท และงบกลาง 19,000 ล้านบาท รวม 44,000 ล้านบาท โดยไม่ได้มีการกู้เพิ่ม ขณะที่ในภาคการท่องเที่ยวจะกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยให้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า สําหรับการพัฒนาปรับปรุงโรงแรมในเมืองรอง ซึ่งนโยบายนี้สูญเสียรายได้ภาษีเพียง 300 ล้านบาท

นายเอกนิติ กล่าวด้วยว่า เสาหลักที่ 2 การแก้ไขหนี้ภาคประชาชน การบริหารหนี้เสีย (NPL) จะนําเงินในกองทุนฟื้นฟู ซึ่งมาจากธนาคารพาณิชย์ส่งเงินสมทบเข้ากองทุน โดยมีวงเงินเหลือออยู่ประมาณ 26,000 ล้านบาท มาตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อซื้อหนี้ NPL ของประชาชนออกมาปรับโครงสร้าง ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้จะเป็นการยืดหนี้ ลดดอกเบี้ย และลดภาระการผ่อนต่อเดือนลง เช่น เหลือ 500 บาทเพื่อให้ประชาชนมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น และจะมีสินเชื่อเพื่อคนตัวเล็กตัวน้อย ผ่านอารีย์สกอร์ ให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบ ไม่ต้องพึ่งพานอกระบบ

ส่วนเสาหลักที่ 3 การดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสภาพคล่อง จะใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาค้ําประกันสินเชื่อ โดยเตรียมวงเงินไว้ขั้นต่ํา 50,000 ล้านบาท และมีห่วงโซ่อุปทาน Supply Chain Financing ส่งเสริมโครงการพี่ช่วยน้อง โดยให้รายใหญ่ช่วยรายย่อยในห่วงโซ่อุปทาน และสามารถนําค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ นอกจากนี้ ธนาคารจะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เอสเอ็มอี ที่มีกําหนดได้รับเงินจากโครงการภาครัฐ ซึ่งลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ ในด้านภาคการคลังนั้น จะภาษีเร่งรัดการคืนภาษีของกรมสรรพากรทันที ซึ่งมีเม็ดเงินอยู่ในมือถึง 160,000 ล้านบาท เพื่ออัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบและเอสเอ็มอี อย่างรวดเร็ว

นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า เสาหลักที่ 4 การเพิ่มการออมภาคประชาชน หรือสลากออมทรัพย์ ต้องขอเรียนว่าคนละอันกับหวยเกษียณ นโยบายนี้เป็นส่งเสริมการออมโดยเชื่อมโยงกับการซื้อสลากกิน ทุกงวดที่ออกมาจะมีบัญชีทางออนไลน์ โดยแบ่งสัดส่วนเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินออมที่ต้องถือไว้ 5 ปี หรือจนถึงอายุ 55 ปี ซึ่งจะใช้เงินจากค่าการตลาดของสํานักงานสลากฯ ขณะเดียวกัน จะสนับสนุนให้ประชาชนรายย่อยเข้าถึงพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลได้ทุกเดือน เพื่อให้ประชาชนได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่าการฝากเงินทั่วไป ปัจจุบันพันธบัตร 10 ปี มีอัตราดอกเบี้ยประมาณ 1.4 เปอร์เซ็นต์ และเสาหลักที่ 5 การเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี

เนื่องจากเครื่องยนต์ประเทศยังเป็นเครื่องจักรเก่า จึงต้องเพิ่มทักษะ (Skill) และสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ทั้งเกษตรชีวภาพ Smart Farming ดิจิทัล AI Data Center รถยนต์ EV และได้จับมือกับสถาบันการศึกษา เช่น สถาบันเทคนิคไทย-เยอรมัน เพื่อฝึกอบรมแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาด โดย BOI มีเงินสําหรับเพิ่มขีดความสามารถอยู่ 10,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะปลดล็อก BOI ด้วย Fast Pass เร่งรัดการอนุมัติโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติจาก BOI ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มโครงการ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 470,000 ล้านบาท จะมีการใช้ระบบ Fast Pass เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องอนุมัติภายในเวลาที่กําหนด เพื่อดึงเม็ดเงินเหล่านี้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจภายใน 4 เดือน โดยไม่ต้องใช้เงินใหม่

นายเอกนิติ กล่าวต่อว่า ส่วนด้านการค้าและพลังงาน รัฐมนตรีพาณิชย์จะดําเนินการเรื่องการขยายตลาดส่งออกใหม่และการป้องกันการทุ่มตลาด ขณะที่รัฐมนตรีพลังงานจะเดินหน้าเรื่องพลังงานสะอาด โดยทั้ง 5 เสาหลักนี้จะอยู่ไม่ได้ หากไม่มีฐานรากที่เข้มแข็ง คือ การรักษาเสถียรภาพการคลัง ซึ่งเราจะเน้นหลักการสําคัญ คือ วินัย ซึ่งจะจัดทํากรอบวินัยทางการคลังระยะปานกลางในเดือนพฤศจิกายน โปร่งใส โดยจะเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น และธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความมั่นใจต่อสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการ LINE ของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอีกมากมาย!

เพิ่มเพื่อน

ทันเหตุการณ์

ข่าว

แปรอักษร “สิรินาถ” น้อมรําลึกพระมหากรุณาธิคุณ

7 พ.ย. 2568 16:31 143 views

ข่าว

ชลประทานพร้อมรับ “3 วันอันตราย” 8–10 พ.ย. รับมือพายุ”คัลแมกี“ถล่ม กรุงเทพฯ เจอ “3 น้ํา”

7 พ.ย. 2568 16:12 93 views

ข่าว

“จินนี่–ยศสุดา” ลั่น “การเมืองไม่ใช่มรดกจากแม่” ย้ํามาด้วยใจและความตั้งใจของตัวเอง

7 พ.ย. 2568 16:08 86 views

ข่าว

นายกฯพบนักลงทุนสิงโปร์ในงาน “SET Government Roadshow 2025” ฟื้นคืนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย

7 พ.ย. 2568 16:02 141 views

ข่าว

กรมควบคุมมลพิษจับตาน้ําสาละวิน ปนเปื้อนสารหนู

7 พ.ย. 2568 15:38 94 views

ข่าว

พลังชัยนาท! "เสี่ยแฮงค์" อัดฉีดทะลุล้าน จัดรถบัสขนกองเชียร์บุกนัดชิง

7 พ.ย. 2568 15:29 137 views

ข่าว

ปะทะเดือดชายแดนแม่สาย ยึดยาบ้ากว่า 7 ล้านเม็ด

7 พ.ย. 2568 15:26 629 views

ข่าว

อธิบดีฯ แจงปักหมุดสระแก้ว "เพื่อย้ายคน" ไม่ใช่ปักเขตแดน

7 พ.ย. 2568 15:08 202 views

ข่าว

ยูโนว์ TVXQ ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรก

7 พ.ย. 2568 14:36 78 views

ข่าว

POW ปิดท้ายทัวร์ POWERFUL YOUTH ยอร์ชหลั่งน้ําตากลางเวที

7 พ.ย. 2568 14:12 77 views

ข่าว

ไทย–สิงคโปร์ แลกเปลี่ยนความตกลงข้าวและสาธารณสุข เดินหน้าความร่วมมือครอบคลุมเศรษฐกิจสีเขียว

7 พ.ย. 2568 14:02 129 views

ข่าว

4EVE  สาดความแซ่บ! ชวนแดนซ์ละติน

7 พ.ย. 2568 13:55 100 views

ข่าว

‘อัจฉริยะ’ ขีดเส้น ‘ผบ.ตร.’ ปิดเว็บพนัน ภายในวันที่ 10 พ.ย. ขู่ไม่ทําจะนั่งประท้วงกลางถนนหน้าสตช.

7 พ.ย. 2568 13:48 124 views

ข่าว

'ไผ่ ลิกค์' ร้อง กกต.ยุบพรรคประชาชน ปมตั้งนักเรียนเป็นผู้ช่วย สส. โยกเงินเดือนเป็นค่าสมัครสมาชิก

7 พ.ย. 2568 13:40 144 views

ข่าว

เปิดยอดอัดฉีดล่าสุด ทัพนักเตะหมอนทองวิทยา เตรียมโกยเงินรางวัลมหาศาล

7 พ.ย. 2568 13:27 440 views

ข่าว

'ดร.เอ้'เปิดที่ทําการ 'พรรคไทยก้าวใหม่' ย้ํานโยบายธนู 4 ดอก ขอคะแนนเสียงเป็นผู้นําเปลี่ยนแปลง

7 พ.ย. 2568 13:02 110 views