วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2568
30 ก.ย. 2568 12:49 | 432 view
@pracha
‘อนุทิน’ ตบปาก ‘จิราพร’ สร้างวาทกรรม! ยันยังไม่เป็นผู้ต้องหา แฉ ‘อิ๊งค์’ เอาเรื่องปลดพ้นมท.1 ไปบอกเขมรก่อน
30 ก.ย. 2568- นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวชี้แจงการอภิปรายของ น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ที่พาดพิงถึงนายอนุทินว่า ตนคิดว่า น.ส.จิราพร พยายามใช้วาทกรรมอีกแล้ว ตนเคยชื่นชมท่านมาตลอด เวลาพูดความจริงดูน่าเชื่อถือมาก แต่เวลาพูดความเท็จ เห็นได้ชัดเจนว่าท่านขาดความมั่นใจ ท่านพยายามทําให้เห็นว่าตนกับผู้นํากัมพูชา รู้อะไรกัน ซึ่งตนยืนยันว่าไม่รู้จักผู้นํากัมพูชาในนามส่วนตัวเลยซักคนเดียว ตนเพิ่งเคยพบกับสมเด็จฮุน เซน ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ตอนที่ติดตาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เยือนประเทศกัมพูชา เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และไม่มีความสัมพันธ์ใดที่เป็นส่วนตัว
นายกฯ กล่าวต่อว่า กรณีที่กล่าวหาว่ามีการตกลงเบื้องหลังก่อนหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่าไม่มี เต็มที่มีแค่เพื่อนที่รู้จักกัน และเป็นผู้ที่มีอํานาจในรัฐบาลแห่งนั้น ไม่มีลุง ไม่มีอังเคิล มีแต่เพื่อน และไม่เคยพูดถึงเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงเสนอแนะอะไรที่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว
“ผมยังรู้สึกตกใจด้วยซํ้า ว่าเมื่อผมกลับมาแล้วจากการติดตาม น.ส.แพทองธาร ไปเยือนกัมพูชา เพื่อนของผมที่รู้จักกัน เขาโทรมาบอกว่า รู้ไหมที่เขาไม่ให้คุณเข้าไปในที่ประชุมหลายที่ เขาไปแจ้งผู้นําเขาว่า ไม่ต้องคุยอะไรกับคุณมากหรอก เขาจะปลดคุณออกจาก มท.1 อยู่แล้ว” นายอนุทิน กล่าว
ตอนนั้นตอนรับทราบ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะข้อมูลที่ตนจะเชื่อมากที่สุด ต้องได้รับแจ้งจากนายกฯ ของตนในเวลานั้น คือ น.ส.แพทองธาร แต่ในที่สุดตนก็ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ว่าพรรคเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทยคืน และขอให้ตนไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตนก็กราบเรียนไปว่า ถ้าแบบนี้ก็เปรียบเสมือนข้อเสนอที่ท่านต้องการให้ตนปฏิเสธ พูดตรงๆ เลยว่าให้ตนออกจากรัฐบาลดีกว่า ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ก็บอกว่า ไม่ใช่ อยากให้อยู่ แต่ต้องไปอยู่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตนก็ถามไปว่าทําไม ตนทําอะไรผิดหรือ ตนคิดว่าเป็นรัฐมนตรีคนเดียวในคณะรัฐบาล ที่ยืนอยู่เคียงข้างนายกฯ ในทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นวันดีหรือวันร้าย ปกป้องให้ข้อเท็จจริงเมื่อนายกฯ ถูกกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ก็บอกว่า ใกล้เลือกตั้งแล้ว พรรคไทยต้องได้กระทรวงมหาดไทย ตนจึงบอกไปว่า อะไรคือสิ่งที่ทําให้ท่านเชื่อว่า การได้ดูแลกระทรวงมหาดไทยและจะชนะเลือกตั้ง ซึ่งคําตอบที่ได้คือ “ก็จะเอามหาดไทยคืนอ่ะ”
นายกฯเชื่อว่า น.ส.แพทองธาร ไม่ได้พูดจากความต้องการในใจของท่านเอง แต่ต้องมีคนบอกให้ท่านพูด เพราะในที่สุด เลขาธิการนายกรัฐมนตรีขณะนั้น ก็ได้มายืนยันว่า ”ไพ่ใบสุดท้าย คุณไปอยู่กระทรวงสาธารณสุข“
ทําให้ น.ส.จิราพร ลุกขึ้นประท้วงว่า นายอนุทินกําลังเล่าซีนดราม่าระหว่างตัวเองกับบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในสภาแห่งนี้ ทําให้นายอนุทิน กล่าวว่า ”ผมอยู่ตรงนั้น เอามายืนยันกันตรงนี้เลยก็ได้ ท่านไม่ได้อยู่ตรงนั้น ท่านจะมาบอกดราม่าได้ยังไง“
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เลขาธิการนายกรัฐมนตรีขณะนั้น มาหาตนที่กระทรวงมหาดไทย พร้อมระบุว่าต้องเป็นเช่นนี้ ซึ่งตน ฝากให้ไปกราบเรียนนายกรัฐมนตรีว่า พรรคภูมิใจไทยขอถอนตัว ซึ่งหลังจากนั้นก็บังเอิญมีเรื่องคลิปเสียงออกมาพอดี จึงทําให้การตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทยยิ่งเกิดความมั่นใจ
นายอนุทิน เล่าว่าได้มีการพูดคุยกับพรรคประชาชนเพื่อประสานงานทํางานเป็นฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และมองว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ไหวแล้ว ประชาชนขาดความเชื่อมั่น จึงรอให้มีการยุบสภา แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้น น.ส.แพทองธาร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ จึงไม่มีคนยุบสภา จึงได้พูดคุยกับพรรคประชาชนว่าจะทําอย่างไรดี จึงเป็นที่มาของ MOA พร้อมยืนยันว่าไม่ได้พิสดาร เพราะไม่ได้แอบเซ็นต์กันในห้องผู้นําฝ่ายค้าน แต่เป็นการทําอย่างทางการ
นายกฯ ยืนยันว่า MOA เป็นเรื่องระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ไม่ได้ผูกพันทั้งรัฐบาล แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนําจัดตั้งรัฐบาล ก็จะรักษาสัญญา คือจะมีการยุบสภาไม่เกินวันที่ 31 ม.ค. และวันที่ 14-15 ต.ค. ก็จะมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันว่าไม่มีการดูด สส.จากพรรคเพื่อไทย มีแต่พรรคภูมิใจไทยถูกดูดจากพรรคเพื่อไทย แต่โชคดีที่เขากลับตัวทัน ส่วน สส.ที่เพิ่มมา ก็มาจากการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ศรีสะเกษ
“MOA นี้จะมาบังคับรัฐบาลในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินไม่ได้ แต่ MOA นี้จะกําหนดให้รัฐบาลดําเนินการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและยุบสภา”
นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง หรือความพิสดารใดๆ รัฐบาลนี้ถูกจัดตั้งขึ้นมาตามระบอบประชาธิปไตย เพราะตนได้รับการสนับสนุนจาก สส. 313 เสียง ดังนั้น ไม่มีสิ่งใดที่แปลกหรือไม่เคยทํามาก่อน
นายกฯเผยว่า ส่วนกรณีที่ขอให้ตนสัญญาว่าจะไม่ใช้อํานาจหน้าที่ ไปกดดันสั่งการ หรือชี้แนะข้าราชการ ให้เปลี่ยนแนวทางเรื่องคดีเขากระโดง และคดีฮั้ว สว.นั้น ยํ้าว่าเรื่องนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ดําเนินการ มีแต่รัฐบาลท่านนั่นแหละที่สั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดําเนินการ แล้วก็ไปติดข้อกฎหมาย ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย รวมถึงคดีเขากระโดงด้วย
”วันนั้นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยของท่านใจร้อนเอง เข้าไปวันแรก บอกวันที่ 2 ส.ค. จะยึดที่ดิน ทํางานแบบท่านจิราพร อ่านอะไรไม่ได้ศัพท์ อ่านเร็วๆ นึกว่าตัวเองเก๋า เลยไปสรุปทุกเรื่องหมด“ นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า หนังสือราชการต้องอ่านทุกถ้อยคําและตีความ ซึ่งสุดท้ายอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งพรรคเพื่อไทยเป็นคนตั้งเอง รวมถึงคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา ก็แถลงว่ารัฐมนตรีทั้ง 2 คน พูดไม่ตรงกับมติของคณะกรรมการ และจะมาโทษอะไรตน ทั้งนี้ นายอนุทิน ยืนยันทิ้งท้ายว่า ขอให้มั่นใจว่าตนจะไม่เข้าไปดําเนินการในเรื่องนี้เด็ดขาด
นายกฯ กล่าวอีกว่า น.ส.จิราพร ต้องถอนคําพูด ว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ต้องหาของดีเอสไอ เพราะตนไม่ได้เป็นผู้ต้องหา ยังไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย ชอบใช้วาทกรรมพูดให้ประชาชนเข้าใจผิด เรียก พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดํา อธิบดีดีเอสไอ มาตรงนี้แล้วถามเลยว่าตนเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ ยํ้าว่าตนเป็นเพียงผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตนก็ให้ความร่วมมือตามกฏหมายทุกอย่าง ส่งจดหมายชี้แจง ตั้งทนายความขึ้นมาศึกษาข้อกล่าวหา ส่วนคดีจะออกมาเป็นอย่างไร ก็มีกระบวนการอยู่แล้ว ดังนั้น การพูดว่าตนและ สว.เป็นผู้ต้องหานั้น เป็นคําพูดที่ผิด
นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่รู้ว่า น.ส.จิราพร วางยาหรือเปล่า เพราะให้ไปบอก สว. ว่าต้องรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เหมือนกําลังชี้ทางไปนรกให้ ตนจะไปพูดได้อย่างไร เพราะเขาห้ามชี้นําโน้มน้าวสมาชิกรัฐสภา ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญ ยํ้าว่าตนทําไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องประชาธิปไตย ใครอยากจะแก้ก็แก้ ใครไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องแก้ พร้อมยืนยันว่า ยุบสภาช้าสุด 31 ม.ค. แน่นอน อาจจะเร็วกว่าด้วยซ้ําถ้ามีความจําเป็น
จากนั้น น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ขอให้ประธานวินิจฉัยว่า เมื่อสักครู่นายกฯ ได้เรียนต่อท่านประธานแล้วว่าเป็นการใส่ร้ายกัน ซึ่งนายกฯ ขอให้ผู้อภิปรายเมื่อสักครู่ ได้ถอนคําพูดนี้ ถ้าท่านไม่มั่นใจท่านสามารถเทปย้อนหลังได้ว่ามีคําพูดนี้จริง ทําให้นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ที่ทําหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้วินิจฉัยว่าขอให้น.ส.จิราพร ถอนคําพูด เพราะจริงๆตนในนามวุฒิสภาก็เช่นเดียวกัน ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา
ทําให้ น.ส.จิราพร ยอมถอนคําพูดว่าผู้ต้องหา แต่เปลี่ยนเป็นผู้ที่พัวพันในคดีและส่อที่จะเข้ามายุบคดีหรือไม่
ข่าว
3 พ.ย. 2568 10:18 32 views
ข่าว
3 พ.ย. 2568 09:50 31 views
ข่าว
3 พ.ย. 2568 09:48 46 views
ข่าว
3 พ.ย. 2568 09:48 40 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 18:54 169 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 18:50 249 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 18:47 131 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 18:46 135 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 18:44 136 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 12:12 376 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 10:39 163 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 10:28 163 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 09:33 206 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 09:27 298 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 09:23 208 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 09:20 206 views