วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2568
27 ก.ย. 2568 13:05 | 178 view
@pracha
นายกฯ ลงพื้นที่อยุธยา ตรวจน้ําท่วม ย้ํา รัฐบาลทํางานเป็นทีม แม้มาจากคนละพรรค พร้อมเรียก สส.ปชน. ร่วมขึ้นเวทีด้วย เผย เร่งรัดสร้างคลองระบายน้ํา บางบาล-บางไทร เสร็จ ปี 69 เดินหน้าพัฒนาระบบชลประทาน
เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 27 กันยายน ที่วัดโคกหิรัญ ตําบลบางชะนี อําเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ พันเจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ ส.ส.พรรคประชาชน เขต1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจติดตามสถานการณ์น้ําท่วม โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัด นางสมทรง. พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กําลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี และตะโกนว่า “เรารักนายกฯ ” พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ ผน้ําในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา กล่าวว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ําไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ํา พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้การช่วยเหลือ กรณีผู้ประสบเขตภัยพิบัติให้เหมาะสมกับสภาพของความเสียหายตลอดจนกําหนดกรอบระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และต้องการให้รัฐบาลช่วยเร่งรัดแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนเพื่อไม่ให้การบริหารจัดการน้ํา มากระทบหรือให้เกิดปัญหาอุทกภัยซ้ําซากในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ทบทวน 9 แผนงานโครงการลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างของกรมชลประทาน

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ได้มาพบปะกับพวกตนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น อสม.มาถึง เหมือนเจอแฟนเก่ากัน ร้องเพลงต้อนรับให้ฟัง วันนี้มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าตนสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการ ของประชาชน พระนครศรีอยุธยา ในทุกๆมิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ ทํางานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมอยู่บ้าง ความสัมพันธ์ระหว่าง พรรคร่วมรัฐบาลและเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีทุกคนมีก็คือ ประโยชน์สูงสุดของประชาชน เพราะฉะนั้นเราจะทํางานกันอย่างเต็มที่เพื่อรับใช้ประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เดือดร้อนให้น้อยที่สุด เท่าที่จะสามารถทําได้
นายอนุทิน กล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ําท่วมทุกปี น้ําท่วมซ้ําซาก เริ่มจากเป็นพื้นที่รับน้ําจากแม่น้ําเจ้าพระยาตอนบน เป็นพื้นที่ลุ่มต่ําทําให้ระบบการระบายน้ํา ระบายลงสู่ท้องทะเล ได้ยากและแม่น้ําเจ้าพระยา มีลักษณะที่เป็นคอขวดทําให้การไหลระบายน้ําช้าลง ส่งผลให้มีการของน้ําล้นตลิ่งขึ้นมาท่วมพื้นที่ของประชาชน ซึ่งเราพยายามสู้กับธรรมชาติมาโดยตลอด และพยายามคิดที่จะให้มีโครงการแผนงานบรรเทาการเกิดอุทกภัยให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด
นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากเรื่องของการแก้ไขปัญหา น้ําท่วมในพื้นที่ภาคกลาง รัฐบาลก็จะใช้สทนช. ที่จะต้องคอยเป็นผู้กําหนดนโยบายต่างๆ ในการจัดการบริหารสถานการณ์น้ําท่วม เห็นอยู่ตรงนี้เป็นคนของประชาชน นายสุรศักดิ์ ลูกชายนายกอบจ.ของพวกท่าน วันนี้เขาได้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอว. ดูแลการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย อย่างกํากับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง นํามาใช้ ลดภาวะภัยธรรมชาติ
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้เรียกนายทวีวงศ์ โตทวิวงศ์ ส.ส.พรรคประชาชน ขึ้นมาบนเวที พร้อมกับกล่าวว่า ส.ส.เขตนี้อยู่พรรคประชาชน เป็นคนรุ่นใหม่ ประชาชนไม่ต้องกังวลแม้ว่าจะพลพรรคกันใน ส.ส.ที่เขาบอกให้อนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นตนไม่มีว่าเขา เป็นพรรคการเมืองคนละพรรคกับเรา แต่เป็นส.ส.ที่ประชาชนชาวบางบาลได้เลือกเข้ามา ท่านได้ขานชื่อตนในสภาให้เป็นนายกก็เท่ากับว่าประชาชนทุกคนให้ฉันทานุมัติให้ตนมาเป็นนายกรัฐมนตรี ในเมื่อประชาชน มีความทุกข์ยาก ไม่ว่าจะเลือกใครเป็นส.ส.ก็ตาม นายกรัฐมนตรี รัฐบาล มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลให้กับประชาชนทุกคนโดยทันที ก่อนจะกล่าวแซวว่า ส.ส.อยุธยาทําไมไม่ขึ้นมาเดี๋ยวก็สอบตกทั้งหมดหรอก พร้อมแนะนําส.ส. ในพื้นที่ และรัฐมนตรี รวมไปถึงนายก อบจ.ที่ร่วมคณะมาด้วย
นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า เห็นหรือไม่ว่าทีมงานของพวกตน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีความพร้อม วันนี้เรามาเป็นรัฐบาลร่วมกันแล้ว ปัญหาของประชาชน หากถามว่า พวกตนอยากได้ส.ส.ไหมล่ะ ตนจะได้ไหม อยากได้ ตนก็ต้องมาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจเชื่อใจ ว่าทํางานประชาชน เลือกไปที่ทํางานอย่างเต็มที่ รับทราบความทุกข์ยากของพวกท่านมาหาวิธีแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้ ระหว่างที่นายอนุทินกล่าวพบปะกับประชาชน จึงกล่าวให้เข้ามาในเต็นท์ พร้อมถามว่า กลัวฝนหรือไม่ ถ้าไม่กลัว ตนจะออกไปอยู่ข้างนอกกับพวกท่าน ฉีดวัคซีนแล้วเดี๋ยวตนก็จะลงเรือ ไปสํารวจในเรื่องของการระบายน้ําและภัยน้ําท่วม ซึ่งกรมปกครองส่วนท้องถิ่นเรามีงบประมาณฉุกเฉินที่ผู้บริหาร สามารถเบิกจ่ายได้ ในรูปแบบของงบฉุกเฉินไม่ต้องไปกังวล ถ้าใช้เพื่อประโยชน์บรรเทาความทุกข์ของประชาชนแล้ว ตนให้ความมั่นใจว่างบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย จะต้องตกถึงประชาชน 100% ไม่มีตกหล่นไปไหน จึงขอให้ทางผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับทราบ ถึงงบประมาณที่สามารถจะช่วยประชาชนเหล่านี้ด้วยอย่าไปเกรงกลัว ที่ตนได้รับทราบมา หลายท่านกลัวว่าคนจะมาตรวจสอบพอกลัวว่าคนจะมาตรวจสอบก็ไม่กล้าใช้ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ต้องมีหน้าที่ที่ต้องชี้แนวทาง ให้ทําการใช้งบประมาณฉุกเฉินเหล่านี้เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที ตอนก่อนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เป็น มท.1 เข้าใจในเรื่องของความเร่งด่วนและความเดือดร้อนของประชาชน ตอนนั้นเราก็เร่ง แต่คนอนุมัติจ่ายก็เป็นอีกคน เรื่องของการช่วยเหลือหรืออนุมัติงบกลางมาช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยทั่วประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีชื่ออนุทิน ก็จะทําเรื่องเสนอให้นายกรัฐมนตรีคือชื่ออนุทินอนุมัติ เพราะฉะนั้นขั้นตอนจะถูกลดลงมาขอเพียงอย่างเดียวข้าราชการตั้งแต่ระดับท้องถิ่นระดับจังหวัดไปจนถึงระดับกรมกระทรวง ขอให้พิจารณาอย่างรวดเร็วในคณะรัฐมนตรีถ้าเป็นเรื่องของประชาชนแล้วรัฐมนตรีส่วนใหญ่ก็คือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของท่าน เราเข้าใจถึงความทุกข์และความจําเป็นเร่งด่วนเป็นอย่างดี ขอให้ประชาชนวางใจว่าทุกคนจะทํางานอย่างเต็มที่รวดเร็วเพื่อให้ทุกข์ของท่านได้รับการคลายออกไปโดยเร็วที่สุด
นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าไปไหนตนต้องหนีบรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรีที่ชื่อภราดร คนอ่างทองไปด้วยเพราะอ่างทองอยุธยาก็เหมือนบ้านเดียวกัน พอมาก็จะเห็นปัญหา นายภราดรเป็นคนที่ตนได้มอบหมายให้กํากับดูแลสําหรับงบประมาณ ดูแลในเรื่องของภัยพิบัติ และงบช่วยเหลือประชาชนอะไรที่ค้างคาวไว้ บางทีถ้าเขาไม่มาด้วย ภาพก็ไม่ชัด เพราะตนจะไปอธิบายทุกเรื่องไม่ได้ต้องให้คนที่ทํางานมาเห็นกับตาตัวเอง นี่คือการทํางานของรัฐบาลชุดนี้รวดเร็วทันใจ ไม่ให้เสียเวลาความช่วยเหลือต่างๆจะต้องมาถึงประชาชนโดยเร็วอย่างแน่นอน
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่าเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้ําท่วม ในพื้นที่ลุ่มน้ําเจ้าพระยาระยะยาว ทางสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบริหารจัดการน้ํา ก็จะเร่งรัดการดําเนินการ การก่อสร้าง คลองระบายน้ําบางบาล บางไทร ให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ให้สามารถระบายน้ําได้ 1,200 คิว/วินาที ซึ่งหากโครงการนี้แล้วเสร็จลุล่วงภายในปีหน้า จะทําให้น้ําไม่ท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประชาชนก็จะคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาน้ําท่วม ตนทราบดีว่าประชาชนไม่อยากได้ถุงยังชีพ เพราะการนําถุงยังชีพมาให้เนื่องจากประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติได้ แต่การนําถุงยังชีพมามอบให้คือการแสดงน้ําใจ แต่ที่ต้องทํามากกว่านั้นคือการแก้ไขปัญหาระยะยาว สําหรับโครงการที่จะเร่งขับเคลื่อน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าตนต้องการให้ทุกอย่างเกิดความสะดวกสบายแก่ประชาชน ทั้งระบบสาธารณูปโภค และการปรับปรุงระบบชลประทานฝั่งตะวันออกตอนล่าง เพื่อทําให้เกิดการระบายน้ํา ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท แม่น้ําป่าสัก ไหลไปลงอ่าวไทย เบื้องต้นได้ดูแผนแล้วคงใช้ระยะเวลาประมาณ 7 ปีและใช้งบประมาณกว่า 100,000 ล้านบาท เพิ่งตนมองว่าการใช้งบประมาณ 100,000 ล้านบาทในระยะเวลา 7 ปีเฉลี่ยแล้วตกปีละหมื่นกว่าล้านบาท เทียบเท่ากับ งบประมาณในการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตกปีละหมื่นกว่าล้านบาทเช่นเดียวกัน โดยโครงการนี้จะทําให้ น้ําในแม่น้ําเจ้าพระยาไหลลงอ่าวไทย ไหลลงสู่ทะเล เอาความข่มขืนไปลงทะเลไปเลย “ให้มันไหลลง ไหลลง ไหลลง ไหลลงทะเล” และประชาชนก็จะไม่มีอุปสรรคในการดํารงชีวิตอีกต่อไป

ทั้งนี้ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ ได้ขอให้รัฐบาลเร่งรัดสนับสนุน ให้มีการขุดลอกแม่น้ําเจ้าพระยา ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในจังหวัดชัยนาท แม่น้ําท่าจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ํา และรัฐบาลจะถือโอกาสนี้ในการเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพราะคนเสนอและคนสนองคือพวกเดียวกันหมด บางแห่งต้องไปพึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ถึงแม้ว่าจะอยู่กันคนละพรรค แต่เปรียบเสมือนเป็นเพื่อนนักเรียนกันมาก่อน และร้อยเอกธรรมนัสก็มีความตั้งใจที่จะทํางานอย่างเต็มที่ ที่สําคัญคือกล้าตัดสินใจ เมื่อคนกล้าตัดสินใจทุกคนมาทํางานร่วมกัน ก็จะเกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน เรามีเวลาทํางานตรงนี้ไม่นาน วางแผนให้ดี รอบหน้าประชาชนก็เลือกตนกลับเข้ามาทํางานต่อไม่ต้องจบต้องสิ้น เราต้องมาทํางาน หากทําไม่ได้ไม่ต้องเลือก ทํางานไม่ได้อย่าริมาเป็นผู้แทน อย่าริมาเป็นรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหา การวันนี้คือเพราะสิ่งที่ประชาชนต้องการวันนี้คือ ความกล้าตัดสินใจ ที่จะทําประโยชน์ให้กับบ้านเมือง คนไหนทํางานให้กับพี่น้องมากกว่าก็เลือกคนนั้น ทําให้มีประชาชนตะโกนขึ้นมา รอบหน้าก็จะเลือกส.ส.เต้ จากพรรคประชาชน นายอนุทินจึงตอบกลับว่า “ดีแล้ว เลือกเต้แล้วให้เต้มาเลือกหนู”
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้พวกเราทุกคนทํางานอย่างเต็มที่ เป็นทีมเดียวกัน บอกไว้สิ่งที่บอกไว้วันนี้ก็จะเกิดขึ้น ขออย่างเดียวขอให้ประชาชนมั่นใจ และให้โอกาสได้ทํางาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สําหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยามี ส.ส.ประจําจังหวัดทั้งหมด 5 เขต ประกอบด้วย นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ ส.ส.พรรคประชาชน เขต 1 นายชริน วงศ์พันธ์เที่ยง ส.ส.พรรคประชาชน เขต 2 นางสาวพิมพฤดา ตันจรารักษ์ พรรคภูมิใจไทย เขต 3 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล พรรคภูมิใจไทย เขต 4 นายประดิษฐ์ สังขจาย พรรคภูมิใจไทย เขต 5
จากนั้นเวลา 10.40 น. นายอนุทินชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เดินทักทายให้กําลังใจหน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรงพยาบาลบางบาลที่มาประจําจุด ก่อนเดินไปตามถนนที่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่ และแวะที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยว โดยแม่ค้าบอกว่า “วันนี้ยังขายไม่ได้เลย” ก่อนที่นายกฯ จะเดินไปดูที่หม้อก๋วยเตี๋ยว ซึ่งแม่ค้าเปิดหม้อก๋วยเตี๋ยวให้ดู ซึ่งนายกฯควักจ่ายส่วนตัวจ่ายให้แม่ค้า พร้อมบอกว่า “เหมาหมดเลย ให้คนที่อยู่แถวนี้มากินกัน แล้วอย่าเก็บเงินเขานะ”
จากนั้นนายกฯ สวมรองเท้าบูท เดินลุยน้ําเข้ายังบ้านประชาชนที่ขายของชํา ซึ่งเป็นบ้านที่ประสบภัยน้ําท่วมสูงถึงหัวเข่า โดยนายกฯได้พูดคุยให้กําลังใจ พร้อมสอบถามความเป็นอยู่ และมอบถุงยังชีพ ก่อนเดินเข้าไปดูความเสียหายภายในบ้าน และอุดหนุนมะม่วงดองหลาย ก่อนเปิดถุงหยิบชิมและให้นําไปแจกเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน
ก่อนที่นายกฯจะเดินมายังบ้านอีกหลัง พร้อมถามสารทุกข์สุกดิบประชาขน ซึ่งประชาชนได้ขอให้นายกฯ หาวิธีการแก้ไขปัญหาน้ําท่วมซ้ําซาก โดยนายกฯตอบว่า “วิธีมันมี แต่งบไม่มี ประชาชนอวยพรขอให้ได้สมัยหน้าอีก” ก่อนยกมือรับไหว้ พร้อมตะโกนสู้ๆให้ประชาชนที่พายเรืออีกฝั่งหนึ่ง
ต่อมาเวลา 10.50 น.นายกฯ และคณะได้ขึ้นเรือที่ชาวบ้านพาย เพื่อมอบถุงยังชีพและเยี่ยมผู้ประสบภัยที่อยู่ในบ้านที่ถูกน้ําท่วมเกือบครึ่งหลังคา ซึ่งนายกฯได้ร่วมล้อมวงพูดคุย และดื่มนมถั่วเหลืองที่ชาวบ้านนํามาให้ นอกจากนี้ ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีนําถุงยังชีพมอบให้กับประชาขน มีชาวบ้านมอบกล้วยไข่ให้กับนายกฯ 1 เครือ รวมถึงน้ําดื่มให้คณะ ซึ่งนายกฯแบ่งกล้วยแจกให้ข้าราชการที่ติดตามมาด้วย
โดยนายกฯ เปิดเผยภายหลังลงเรือมอบสิ่งของให้กับประชาชนว่า ชาวบ้านขวัญกําลังใจดี ซึ่งเราต้องเร่งโครงการระบายน้ํา ส่วนจะต้องมีประชาชนอพยพออกจากบ้านหรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยืนยันว่าไม่มี ส่วนผู้สูงอายุมีครอบครัวคอยดูแลอยู่ และประชาชนส่วนใหญ่สะท้อนว่า น้ําในพื้นที่มาเร็วไปเร็ว ซึ่งเราก็ต้องเร่งผลักดันการระบายน้ําออกจากพื้นที่

นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า หากเทียบกับระดับน้ํากับปีที่แล้ว ถือว่าต่ํากว่า แต่ก็ถือว่าเยอะ ส่วนจะต้องมีการจับตาในพื้นที่อื่นหรือไม่ โดยเฉพาะพื้นที่อําเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรงนั้นต้องทยอยไปดู แต่ตนกังวลเรื่องดินโคลนมากกว่า ซึ่งกรมการทหารช่างได้มีการรายงานการสร้างพนังกั้นน้ํา ตามแนวแม่น้ําสาย แต่ยอมรับว่าไม่สามารถทําให้เสร็จโดยเร็วได้ ต้องทําอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว
จากนั้นนายกฯ ลงเรือและทดลองพายเรือท้องแบน โดยมีประชาชนนั่งด้วย 1 คน ขณะที่เรือลําที่สอง นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นั่งด้วยกันและได้ร่วมพายเรือด้วย
โดยนายกฯ เปิดเผยถึงการพายเรือในครั้งนี้ว่า ตอนเป็นเด็กตนก็เคยพายเรือ เพราะบ้านอยู่จังหวัดนครปฐม ก่อนกล่าวติดตลกเป็นสําเนียงภาษาใต้ว่า “คอนถม” และกล่าวอีกว่า แต่ก่อนเคยพายอยู่ตรงคลองแถวบ้าน
ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรคุณ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)ในฐานะ สส.อยุธยา เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่วิกฤต แต่ปีที่สถานการณ์น้ําสูงสุดคือปี 2565 ที่น้ําท่วมสูงกว่าขณะนี้ประมาณเมตรกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกฯจะเดินทางกลับ มีประชาชนผู้หญิงรายเดียว ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ ตะโกนระหว่างที่นายกฯ กล่าวบนเวทีก่อนพิธีมอบถุงยังชีพ ยืนรออยู่ตรงบริเวณทางเข้าปากซอย สะท้อนปัญหาให้กับนายกฯรับฟังปัญหาน้ําท่วมซ้ําซากทุกปี พร้อมตัดพ้อว่า นี่คือความอดทนของคนบางบาล ที่เหมือนถูกสาป รับกรรมอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับเสนอให้มีการย้ายชุมชน โดยนายกฯนํามือไปแตะที่ไหล่ของชาวบ้านคนดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า “อย่างนี้ไม่ไหว”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นายกฯจะขึ้นรถเดินทางกลับ ได้มีประชาชนนําน้ําพริกกะปิ 1 หม้อ ปลาทูทอด 1 ถาด และไข่เจียวชะอม 1 ถาด มามอบให้ ซึ่งนายกฯกล่าวว่า เดี๋ยวจะนําไปกิน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ.
ข่าว
2 พ.ย. 2568 18:54 108 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 18:50 199 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 18:47 101 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 18:46 115 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 18:44 106 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 12:12 363 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 10:39 150 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 10:28 149 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 09:33 185 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 09:27 276 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 09:23 194 views
ข่าว
2 พ.ย. 2568 09:20 189 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 15:36 353 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 15:16 257 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 14:53 242 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 14:33 195 views