วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568
26 ก.ย. 2568 13:18 | 452 view
@pracha
นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษงาน “Thailand–China Cooperation Expo 2025” ชูแนวทางความร่วมมือ 5 มิติ โครงสร้างพื้นฐาน–โลจิสติกส์ เศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด เทคโนโลยีดิจิทัล เกษตรและความมั่นคงทางอาหาร และการแลกเปลี่ยนประชาชน พร้อมผลักดันไทยและจีนเป็น “สปริงบอร์ด” นําเศรษฐกิจ–นวัตกรรมของภูมิภาค
วันนี้ (วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2568) เวลา 11.00 น. ณ อาคารชาแลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand–China Cooperation Expo 2025” โดยมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจําประเทศไทย คณะกลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย–จีนอย่างยั่งยืน (TCTM) ได้เเก่ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คุณณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน คุณหลิว เฉวียนเหลย นายกสมาคมการค้าวิสาหกิจจีนในไทย รวมทั้งนักลงทุนและผู้ประกอบการชั้นนําของไทยและจีนเข้าร่วม โดยสรุปสาระสําคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ซึ่งตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันสร้างรากฐานความร่วมมือที่มั่นคงในทุกมิติ ทั้งด้านการค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่ารากฐานนี้จะนําไปสู่โอกาสใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
โดยจีนได้พิสูจน์ให้โลกเห็นถึงพลังแห่งการพัฒนา โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจดิจิทัล และการเป็นผู้นําในพลังงานสะอาด ขณะเดียวกันประเทศไทยก็กําลังยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและระบบเศรษฐกิจเพื่อตอบโจทย์การเติบโตในอนาคต การบรรจบกันของศักยภาพทั้งสองประเทศจึงเป็นโอกาสทองที่จะร่วมกันสร้างความเจริญรุ่งเรืองในหลายมิติ
นายกรัฐมนตรีได้เสนอทิศทางความร่วมมือไทย–จีนในอนาคต ซึ่งครอบคลุม 5 มิติสําคัญ ได้แก่

1. การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ เช่น การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน ซึ่งไม่เพียงเชื่อมโยงสองประเทศ แต่ยังเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่เชื่อมอาเซียนกับจีนตอนใต้ สร้างเครือข่ายการค้า และการท่องเที่ยวไร้รอยต่อ
2. เศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด ไทยพร้อมเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีแบตเตอรี่ โดยมีจีนเป็นพันธมิตรหลัก นอกจากนี้ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ไทยและจีนยังได้ร่วมกันกําหนดแผนพัฒนาการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจฉบับใหม่ ระยะ 5 ปี ช่วง พ.ศ.2568 - 2572 เพื่อขยายความร่วมมือสู่สาขายุทธศาสตร์ใหม่ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี การผลิตสีเขียว เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
3. เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ทั้งสองประเทศจะสร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจดิจิทัล เชื่อมโยงระบบการเงิน การค้าข้ามพรมแดน และการวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SME และสตาร์ตอัพเข้าถึงตลาดใหม่ได้สะดวกยิ่งขึ้น

4. การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งสําคัญมากกับประเทศผู้ผลิตอย่างไทย และประเทศที่มีประชากรมหาศาลอย่างจีน
5. การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ครอบคลุมการศึกษา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เช่น การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรวิชาชีพ ตลอดจนการเรียนรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรม ซึ่งทําให้ความสัมพันธ์ไทย–จีน มีความแน่นแฟ้นอยู่บนรากฐานของความเข้าอกเข้าใจ ต่อยอดจากมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษของทั้งสองประเทศได้สืบสานมายาวนาน
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ําว่า รัฐบาลไทยมุ่งมั่นจะทําให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และนวัตกรรมของภูมิภาค โดยจะร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิด พร้อมเดินหน้าลดอุปสรรค ปรับปรุงกฎระเบียบ และเพิ่มความสะดวกในการดําเนินธุรกิจ เพื่อให้ภาคเอกชนทั้งสองประเทศเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง โดยประเทศไทยจะพิสูจน์ว่า เราไม่ได้เป็นเพียงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ แต่จะเป็นประตูบานสําคัญ ที่จะเปิดไปสู่ความร่วมมืออื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ เพื่อให้มิตรภาพที่มีต่อกันมายาวนานระหว่างไทยและจีน เป็นเหมือน “สปริงบอร์ด” ที่จะนําสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติต่อไป

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย–จีน และสมาคมการค้าวิสาหกิจจีน ที่ร่วมกันจัดงานครั้งนี้ โดยเชื่อมั่นว่า Thailand–China Cooperation Expo 2025 จะไม่เพียงเป็นเวทีแสดงศักยภาพ แต่ยังเป็นหมุดหมายสําคัญของอนาคตที่ไทยและจีนจะร่วมกันสร้างบนพื้นฐาน แห่งความไว้เนื้อเชื่อใจ ความร่วมมือ และวิสัยทัศน์ร่วมกัน

อนึ่ง งานแสดงสินค้า Thailand–China Cooperation Expo 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 28 กันยายน 2568 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ อาคารชาแลนเจอร์ ฮอลล์ 2–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “50 ปี ความสัมพันธ์ไทย–จีน : ก้าวสู่ความรุ่งเรืองร่วมกัน” โดยมีผู้ประกอบการ นักลงทุน ผู้นําเข้า–ส่งออก ผู้ค้า และผู้นําธุรกิจจากไทย จีน และนานาประเทศ เข้าร่วม เพื่อสร้างการเชื่อมโยงและขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น Global Supply Chain Hub ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม ทั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรม การค้าและการลงทุน พลังงานสีเขียวและเกษตรเพื่อความยั่งยืน ยานยนต์และ EV โลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม
ข่าว
1 พ.ย. 2568 15:36 251 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 15:16 201 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 14:53 187 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 14:33 149 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 14:29 138 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 14:16 147 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 14:07 179 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 14:03 233 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 14:01 159 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 13:58 136 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 13:50 210 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 13:44 138 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 13:25 137 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 13:25 126 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 10:34 177 views
ข่าว
1 พ.ย. 2568 10:18 146 views