ไฟเขียวนําเข้ารถโบราณ-รถคลาสสิก ครั้งแรกในรอบ 6 ปี  เก็ยภาษีในอัตรา 45% เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดแสดงรถยนต์โบราณ-รถคลาสสิกในภูมิภาคและเป็นการขยายฐานรายได้ใหม่

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯได้เริ่มจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์โบราณขึ้นใหม่ ในอัตรา 45% เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดแสดงรถยนต์โบราณ-รถคลาสสิกในภูมิภาค รวมทั้งส่งเสริมอุตสาหกรรมบูรณะรถยนต์โบราณในประเทศและเป็นการขยายฐานรายได้ใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้เห็นชอบในหลักการมาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 คาดว่าจะช่วยให้รัฐบาลมีรายได้จัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นไม่ต่ํากว่าปีละ 1,000 - 2,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คําจํากัดความของรถโบราณหรือรถคลาสสิก จะต้องมีอายุ 30 ปีขึ้นไป เป็นรถยนต์ที่นําเข้าแบบสําเร็จรูปทั้งคัน มูลค่ารถต้องไม่ต่ํากว่า 2 ล้านบาท โดยจะไม่มีการเก็บอากรขาเข้า แต่มีภาระภาษีสรรพสามิตประเมินคร่าวๆ ภาระภาษีจะใกล้เคียงกับ 100 % ของราคานําเข้ารถยนต์ เช่น รถ 2 ล้าน รวมภาษีเป็น 4 ล้านบาท

ทั้งนี้ การเปิดนําเข้ารถโบราณดังกล่าวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 6 ปี นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2562 ที่ประเทศไทย ห้ามนําเข้ารถยนต์ใช้แล้วหรือรถมือสอง เพื่อต้องการลดปัญหามลพิษทางอากาศ ตัดปัญหาการหลบเลี่ยงภาษี และปกป้องอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในประเทศ โดยมีข้อยกเว้นให้นําเข้าได้เฉพาะรถยนต์ส่วนตัวคนไทยที่อยู่ต่างประเทศและใช้รถยนต์คันนั้นไม่ต่ํากว่า 1 ปี 6 เดือน ตลอดจนรถโบราณที่มีอายุเกิน 100 ปีขึ้นไป สําหรับจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ หรือรถยนต์พิเศษ เช่น รถพยาบาล รถดับเพลิง เป็นต้น