สายอยากเอว s ลดน้ำหนัก หรือกำลังควบคุมน้ำหนัก อาจจะคุ้นกับคำว่าให้ลดการกินน้ำตาลลง เพราะร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลที่ได้รับมากเกินความต้องการไปสะสมกลายเป็นไขมัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แต่ความหวานก็ถือเป็นรสชาติแห่งความสุข ที่ยากจะอดใจไหว ดังนั้นไอเท็มสารให้ความหวานแทนน้ำตาลก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลาย ๆ  ใช้ลดน้ำหนัก อยากจะบอกว่า หยุดก่อน !! เพราะผลวิจัยล่าสุดประกาศออกมาแล้วว่า สารทดแทนน้ำตาล ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักอย่างที่ทุกคนเข้าใจ   WHO เตือน สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนัก   องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกคำแนะนำใหม่ว่าด้วยการใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล (artificial sweeteners) โดยไม่แนะนำให้คนทั่วไปใช้สารดังกล่าวเพื่อควบคุมน้ำหนัก หรือเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังที่ไม่ติดต่อ (NCDs) เช่นโรคอ้วน โรคเบาหวาน    เพราะผลการวิจัยล่าสุดที่ชี้ว่า สารแทนน้ำตาลไม่มีประโยชน์ต่อการช่วยลดน้ำหนักหรือลดระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้การบริโภคสารให้ความหวานแทนน้ำตาลเป็นเวลานานติดต่อกัน อาจสร้างผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว โดยเฉพาะการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจและหลอดเลือด และอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นในผู้ใหญ่ ซึ่งสารเหล่านี้ไม่ใช่ปัจจัยทางโภชนาการที่จำเป็นและไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ผู้คนจำเป็นต้องพิจารณาวิธีการอื่นๆ ในการควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกาย เช่น ปรับลดความหวานในอาหารหรือเครื่องดื่มให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ  บริโภคสารทดแทนความหวานอย่างไร? ต้องบอกว่าแม้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล อาจไม่ได้มีผลในการควบคุมหรือลดน้ำหนักในระยะยาว การบริโภคมากเกินไปก็อาจส่งผลให้ติดรสชาติหวานเกินอีกด้วย แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตรายจนห้ามบริโภค สามารถบริโภคด้วยความระมัดระวัง ใช้ให้น้อยลง อย่าใช้บ่อยหรือระยะยาว ใช้เพื่อลดการไม่กินน้ำตาลในช่วงสั้นๆ ได้ แต่ในระยะยาวควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดื่มน้ำเปล่าแทน เป็นผลดีต่อสุขภาพมากกว่า   จริง ๆ ไม่ใช่แค่รสหวาน การทานเค็มจัด หรืออาหารรสจัดเกินไปก็เป็นผลพวงของโรคต่าง ๆ ค่อย ๆ ลดการทานหวานจัด มันจัด เค็มจัด นอกจากจะเป็นผลดีต่อรูปร่าง สาระสำคัญที่สุดสุขภาพของเราก็จะดีไปด้วยนั่นเอง