รอง ผบช.ก. เผยกองปราบสอบเส้นเงินย้อนหลังปี 56-59 พบหมุนเวียนมหาศาล กว่า 500 ล้านบาท พัวพันไปถึงสีกา ขณะที่ "ทนายอนันต์ชัย" นําหลักฐานเด็ดมอบเพิ่ม ชี้มีทั้งบัญชีวัด-หลักฐานคืนเงิน

ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) มีความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ได้เปิดเผยข้อมูลสําคัญภายหลังรับมอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมจาก นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า คดีนี้เริ่มต้นจากกรณีที่สีกาชาวไทยในประเทศเยอรมนีได้ส่งทนายความเข้ามาร้องทุกข์กับ บก.ปปป. ให้ดําเนินคดีกับพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดดังกล่าวในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 และ 147 ซึ่งแม้ว่าสํานวนคดีจะถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว แต่ทางตํารวจยังคงมีอํานาจในการสืบสวนคู่ขนานต่อไป

ในส่วนของกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ซึ่งรับผิดชอบการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดย้อนหลังระหว่างปี พ.ศ. 2556-2559 นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า "จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีเงินหมุนเวียนในระบบที่เกี่ยวข้องประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันทั้งในส่วนของเงินวัดและประเด็นเรื่องผู้หญิง" อย่างไรก็ตาม รายละเอียดในส่วนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ทั้งหมด

สําหรับหลักฐานที่ นายอนันต์ชัยนํามามอบ มีทั้งบัญชีรายรับ–รายจ่ายของวัด และเอกสารการคืนเงินของผู้เสียหาย ซึ่งบางส่วนยังมีข้อโต้แย้ง จากคู่กรณี แต่มีข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ทนายของสีกาเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ เป็นเรื่องบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด และหลักฐานการคืนเงินของผู้เสียหาย

 ขณะที่วัด ยังไม่ได้ส่งตัวแทนเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้ ทีมทนายความของวัดได้ชี้แจงเพียงเรื่องการตั้งมูลนิธิในเยอรมนี  ซึ่งเป็นประเด็นแยกจากการตรวจสอบเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับการโอนออกจากบัญชีวัด