วันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2568
19 ก.ย. 2568 10:26 | 1112 view
@varin
เรามักคุ้นเคยกับยาคีโม (Chemotherapy) หรือยาเคมีบําบัด ที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งผู้ป่วยหลายท่านมักกังวลในเรื่องของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้นมากในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาตัวยาที่ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งและเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า เรียกว่า “ยามุ่งเป้า”
.
ยามุ่งเป้าคืออะไร
ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) คือ ยาที่ถูกออกแบบมาเพื่อรักษามะเร็งอย่างตรงจุด ออกฤทธิ์จําเพาะในการยับยั้งการเจริญเติบโตและแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งที่มีความผิดปกตินั้น ๆ เช่น ยีนกลายพันธุ์
ยามุ่งเป้าใช้ในกลุ่มมะเร็งชนิดใดบ้าง
ยามุ่งเป้าไม่ใช่ยาที่สามารถใช้ได้ในผู้ป่วยมะเร็งทุกราย จําเป็นต้องมีการตรวจสารบ่งชี้ทางชีวภาพ (Biomarker) เช่น การตรวจยีนหรือโปรตีนที่มีการกลายพันธุ์ โดยส่งชิ้นเนื้อมะเร็งตรวจ เพื่อให้ใช้ยาได้เหมาะสมกับชนิดของมะเร็งในผู้ป่วยแต่ละราย
.
มะเร็งที่สามารถรักษาโดยใช้ยามุ่งเป้า ได้แก่:
• มะเร็งเต้านม
• มะเร็งกระเพาะอาหาร
• มะเร็งปอด
• มะเร็งลําไส้
• มะเร็งต่อมลูกหมาก
• มะเร็งต่อมไทรอยด์
• มะเร็งต่อมน้ําเหลืองบางชนิด
• มะเร็งตับ
• มะเร็งไต
.
ชนิดและการทํางานของยามุ่งเป้า
ปัจจุบันยามุ่งเป้ามี 2 รูปแบบ คือ :
• ยาเม็ดรับประทาน
• ยาฉีดเข้าหลอดเลือดดํา ชนิด Monoclonal Antibody
แพทย์อาจรักษาด้วยการให้ยากลุ่มนี้เพียงอย่างเดียว หรือใช้ร่วมกับการรักษารูปแบบอื่น เช่น การฉายรังสี หรือยาเคมีบําบัด
.
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
อาการทางผิวหนัง เช่น ผื่นคัน ลมพิษ
คลื่นไส้อาเจียน
ท้องผูก ท้องเสีย
ความดันโลหิตสูง
อาการส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและสามารถแก้ไขได้
.
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มใช้ยามุ่งเป้า
• ต้องตรวจยีนหรือโปรตีนก่อนเสมอ เพื่อยืนยันว่าตรงกับกลไกของยา
• ไม่ใช่ทุกคนจะได้ผลจากยา บางรายอาจตอบสนองไม่ดี หรือเกิดการดื้อยา
• ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง
• มีโอกาสดื้อยาได้เมื่อใช้ไปนาน ๆ
• ผลข้างเคียงยังคงมี แต่โดยทั่วไปน้อยกว่ายาเคมีบําบัด
• ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ควรตรวจสอบสิทธิ์การรักษาและประกันสุขภาพ
• ต้องติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิด ตรวจเลือดและถ่ายภาพรังสีเป็นระยะ
.
“ยามุ่งเป้า” ถือเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าของการรักษามะเร็งในปัจจุบัน ทําให้การรักษามีความแม่นยํามากขึ้น และลดผลข้างเคียงลงได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยาชนิดนี้จะใช้ได้เฉพาะในผู้ป่วยที่มียีนหรือโปรตีนผิดปกติ ตรงกับกลไกของยาเท่านั้น ดังนั้น การตรวจยีนก่อนเริ่มรักษา และการติดตามผลอย่างใกล้ชิดกับแพทย์ จึงเป็นสิ่งสําคัญที่จะทําให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงที่สุด
.
บทความโดย
นายแพทย์ อัศวเดช แสนบัว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม/นัดหมาย ศูนย์รักษามะเร็งก้าวหน้า เวิลด์เมดิคอล ชั้น 11
โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) โทร 02-836-9999 ต่อ *1901
.
ข่าว
14 ต.ค. 2568 11:42 65 views
ข่าว
14 ต.ค. 2568 11:25 43 views
ข่าว
14 ต.ค. 2568 09:54 53 views
ข่าว
14 ต.ค. 2568 09:48 55 views
ข่าว
14 ต.ค. 2568 09:47 151 views
ข่าว
14 ต.ค. 2568 09:38 51 views
ข่าว
14 ต.ค. 2568 09:28 71 views
ข่าว
14 ต.ค. 2568 09:08 58 views
ข่าว
14 ต.ค. 2568 08:59 137 views
ข่าว
13 ต.ค. 2568 12:49 280 views
ข่าว
13 ต.ค. 2568 12:33 267 views
ข่าว
13 ต.ค. 2568 11:14 145 views
ข่าว
13 ต.ค. 2568 11:06 202 views
ข่าว
13 ต.ค. 2568 11:04 168 views
ข่าว
13 ต.ค. 2568 10:59 192 views
ข่าว
13 ต.ค. 2568 10:54 166 views