อนุทิน เร่งจัดทํารายชื่อครม. ยันส่งชื่อเกินเผื่อขาดคุณสมบัติ ดึง "บวรศักดิ์" ร่าง รธน.ใหม่ใน 4 เดือน ย้ําทุกนโยบายต้องยึดวินัยการคลัง ไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่าได้ส่งรายชื่อไปเกินจํานวนตําแหน่งเพื่อสํารองไว้หากมีบุคคลใดไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ เพราะหากไม่ผ่านก็ไม่สามารถแต่งตั้งได้ และเมื่อกระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้น จะนํารายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ทันที

นายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยถึงการทาบทามบุคคลสําคัญเข้าร่วมรัฐบาล โดยได้ทาบทาม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ให้มาดูแลงานในกระทรวงกลาโหม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย เพื่อดูแลภารกิจการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายใน 4 เดือน และวางตัวนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เป็นรองนายกรัฐมนตรีควบตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ในส่วนของนโยบายเศรษฐกิจ นายอนุทินกล่าวถึงแนวทางโครงการคนละครึ่งรอบใหม่นั้น ว่า มีแนวคิดจัดสิทธิ์ 60:40 ให้กับกลุ่มผู้เสียภาษี เพื่อจูงใจคนเข้าสู่ระบบภาษี ส่วนประชาชนทั่วไปจะยังคงใช้สิทธิ์แบบ 50:50 โดยทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้กรอบงบประมาณ ไม่ผิดกฎหมาย และไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง พร้อมมั่นใจว่าจะสามารถเริ่มโครงการได้ภายใน 4 เดือน

สําหรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นายกรัฐมนตรีระบุว่าเป็นโครงการที่ดี แต่ต้องพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้โครงการขาดทุนและกระทบต่อวินัยการเงินการคลังของประเทศ

นอกจากนี้ ในฐานะที่กํากับดูแลกระทรวงมหาดไทย นายอนุทินยืนยันว่าจะไม่มีการเข้าไปแทรกแซงคดีที่ดินเขากระโดง โดยระบุว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและจะขอใช้เวลาในการทํางานเพื่อประชาชน ส่วนการปรับย้ายข้าราชการในกระทรวงยังไม่มีคําตอบที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อหารือกับนายอนุทิน ก่อนถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่

โดย นายอนุทินเผยว่า ได้เชิญ พล.อ.ณัฐพล มารับตําแหน่งเพื่อสานต่อภารกิจด้านความมั่นคง โดยยืนยันว่า “บิ๊กเล็ก” จะมีอํานาจเต็มในการบริหารงานกระทรวงกลาโหม และจะเป็นตัวแทนไทยร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่กัมพูชาในวันพรุ่งนี้ เพื่อยืนยันกับคู่เจรจาว่าไทยส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตัวจริง ไม่ใช่เพียงผู้ช่วยเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งหน้าที่สําคัญที่สุดคือทําให้ประชาชนทั้งสองประเทศอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข มีสันติภาพ และสามารถค้าขายทํามาหากินได้ตามปกติ

ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล ยอมรับว่า หลังได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีก็มีความมั่นใจมากขึ้น พร้อมย้ําโรดแมพแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา จะเดินหน้าโดยยึดหลักอธิปไตย ความปลอดภัยของประชาชน และสันติวิธีเป็นสําคัญ รัฐบาลมีเวลาจํากัด แต่ตนเองรับปากว่าจะเร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด